วันที่ 4 กุมภาพันธ์ ของทุกปีเป็นวันที่องค์การอนามัยโลกและสมาคมต่อต้านมะเร็งสากลกำหนดให้เป็นวันมะเร็งโลก (World Cancer Day) เพื่อบรรเทาปัญหาการเจ็บป่วยและเสียชีวิตจากโรคมะเร็ง สำหรับผู้ถือสิทธิประกันสังคม ในมาตรา 33 และมาตรา 39 รับสิทธิรักษาโรคมะเร็งฟรีจนสิ้นสุดการรักษา
สำหรับในประเทศไทย โรคมะเร็งเป็นสาเหตุการตายอันดับ 1 ติดต่อกันหลายสิบปี โดยจากข้อมูลในปี 2554 มีผู้เสียชีวิต 61,082 ราย เฉลี่ยชั่วโมงละเกือบ 7 ราย เป็นชาย 35,437 ราย และหญิง 25,645 ราย องค์การอนามัยโลกคาดมีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้นปีละประมาณ 118,600 ราย และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

...
โรคมะเร็ง ที่ผู้ชายป่วยมากที่สุดได้แก่มะเร็งตับ ปอด ลำไส้และทวารหนัก ต่อมลูกหมาก และมะเร็งเม็ดเลือดขาว ส่วนในผู้หญิงได้แก่ มะเร็งเต้านม ตับ ปากมดลูก ปอด ลำไส้ใหญ่และทวารหนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนักมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น จากการใช้ชีวิตแบบคนเมือง นิยมกินแต่เนื้อสัตว์ กินผักผลไม้น้อย ออกกำลังกายน้อย
ข่าวดีสำหรับผู้ถือสิทธิประกันสังคมที่เป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 และมาตรา 39 หากตรวจพบเจอ “โรคมะเร็ง” ไม่ว่าชนิดใด สามารถเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลตามสิทธิจนสิ้นสุดการรักษา โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายจนสิ้นสุดการรักษา โรคมะเร็งที่สามารถใช้สิทธิประกันสังคมรักษาได้ มี 20 ชนิด ได้แก่
- มะเร็งเต้านม
- มะเร็งปากมดลูก
- มะเร็งรังไข่
- มะเร็งมดลูก
- มะเร็งโพรงหลังจมูก
- มะเร็งปอด
- มะเร็งลำไส้ใหญ่และลำไส้ใหญ่ตรง
- มะเร็งหลอดอาหาร
- มะเร็งตับและท่อน้ำดี
- มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ
- มะเร็งต่อมลูกหมาก
- มะเร็งกระเพาะอาหาร
- มะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเฉียบพลันแบบลิมฟอยด์ในผู้ใหญ่
- มะเร็งต่อมน้ำเหลืองในผู้ใหญ่
- มะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเฉียบพลันชนิดมัยอีลอยด์ในผู้ใหญ่
- มะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเฉียบพลันในผู้ใหญ่แบบ Acute Promyelocytic leukemia (APL)
- มะเร็งเม็ดเลือดขาวเรื้อรังชนิดมัยอีลอยด์ในผู้ใหญ่
- มะเร็งเม็ดเลือดขาวมัยอีโลมาในผู้ใหญ่
- มะเร็งกระดูกชนิด Osteosarcoma ในผู้ใหญ่
- โรคมะเร็งเด็ก
ในกรณีที่ไม่สามารถรักษาตามแนวทางที่กำหนด (Protocol) และมีความจำเป็นที่ต้องให้การรักษาด้วยยารักษาโรคมะเร็งและหรือเคมีบำบัดและหรือรังสีรักษา ให้สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลเท่าที่จ่ายจริงตามความจำเป็นแต่ไม่เกิน 50,000 บาทต่อรายต่อปี
ข้อมูลอ้างอิง : โรงพยาบาลกรุงเทพฯ, ทำเนียบรัฐบาล