เปิดพฤติกรรม และสัญญาณที่บ่งบอกได้ว่าคนที่คุณคุยอยู่นั้นมีโอกาสที่จะชอบกั๊กความสัมพันธ์ และต้องการแค่คุยเล่นไปเรื่อยๆ และเป็นไปได้ยากที่จะจริงจัง และมีการพัฒนาความสัมพันธ์ไปถึงขั้นคบกันจริงจัง
โลกของเราในปัจจุบันมีการพัฒนาไปอย่างก้าวกระโดด ในเรื่องของความรักก็เช่นกัน ปัจจุบันการรัก ชอบพอ หรือรู้จักใครสักคนนั้นสุดแสนจะง่ายนิดเดียว
เหตุเนื่องมาจากความรวดเร็วที่มากขึ้นจากสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น ฟังก์ชั่นในการเจอผู้คนใหม่ๆ บนโลกออนไลน์ หรือแอปพลิเคชันช่วยเหลือในการทำความรู้จักเพศตรงข้าม จนไปถึงการออกเดต ทำให้ความสัมพันธ์ของฝ่ายชายและฝ่ายหญิง ณ ปัจจุบันนี้มีความรวดเร็วไปมากกว่าแต่ก่อน
การเปิดกว้างของโลกในปัจจุบัน กลายเป็นสาเหตุของความสัมพันธ์อันหลากหลาย ที่สุดแสนจะซับซ้อน และเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้มีคนโสดที่เพิ่มขึ้น เพียงเพราะเริ่มเหนื่อยกับความรักที่ไม่ดี เข็ดหลาบกับความสัมพันธ์เหล่านี้แล้วนั่นเอง
หนึ่งในความสัมพันธ์สุดซับซ้อน ที่เชื่อว่าคนในปัจจุบันมักจะต้องเคยพบเคยเจอกันมาก่อนอย่างคำว่า ‘Breadcrumbing’ ที่มีความหมายว่า ไม่อยากมีความรักที่จริงจัง แต่ยังอยากกั๊ก และเก็บไว้ก่อน หรือเรียกง่ายๆ ว่า “ความสัมพันธ์แบบคุยไปเรื่อยๆ กั๊กไว้เผื่อเลือก และยังไม่ต้องการคบหาใครแบบจริงจัง”
การได้คุย หรือพบเจอ บุคคลประเภท ‘Breadcrumbing’ อาจกลายเป็นหนึ่งในความสัมพันธ์ที่ Toxic (เป็นมลพิษ) ที่สามารถย้อนกลับมาทำร้ายตัวเองได้
วันนี้ไทยรัฐออนไลน์ จึงอยากชวนสังเกตบุคคลที่มีพฤติกรรมเหล่านี้เสียหน่อย ก่อนจะเอาใจลงไปเล่นว่ามีลักษณะอย่างไร หากเจอแล้วจะได้รีบถอยออกมาก่อนจะสายเกินไป และยิ่งนานจะถอนตัวได้ลำบาก
...
8 สาเหตุ ส่งสัญญาณบอกว่า “คุณอาจมีสิทธิเป็นแค่คนคุย แต่ไม่ได้คบ”
- เลื่อนนัดเป็นประจำ
ความสัมพันธ์แบบส่งรูปภาพ ส่งวิดีโอ กิจกรรม หรือสิ่งที่อยากทำมาให้เราบ่อยๆ แล้วหยอดคำพูดว่า “ไปด้วยกันไหม” แต่พอจะถึงนัดจริงๆ กับเงียบหาย ไม่เคยจริงจังเสียที ให้ทำใจไว้เลยว่าคนแบบนี้ไม่น่าได้คบ ให้ผ่าน และเลิกสนใจทันที
- มาๆ หายๆ ไม่สม่ำเสมอ
ความสัมพันธ์แบบแชตหนักขวา อาบน้ำ หรือกินข้าวที 2-3 ชั่วโมง ถ้าเจอคนแบบนี้ให้รีบปลีกตัวออกมาทันที เพราะนอกจากความสัมพันธ์ที่ไม่สามารถคืบหน้าได้แล้ว ยังทำให้เสียเวลาในการตอบ และไม่ได้คบแน่นอน เพราะการต้องมารอคอยอะไรที่นานมันช่างน่าเบื่อสุดๆ
- ปากบอกว่ารักแต่ไม่ชัดเจน
หนึ่งคำหยอกล้อที่ใช้ได้ทุกสถานการณ์ เพื่อทำให้ตัวเรานั้นตายใจ แต่จริงๆ แล้วไม่ได้มีความหมายลึกซึ้ง แค่ตัวเขาคนนั้นต้องการก้าวข้ามสถานการณ์อันอึดอันนี้ไปเพียงเท่านั้น แถมการบอกว่ารักอาจจะช่วยให้เขาเหล่านี้ทำคะแนน เพิ่มเสน่ห์ของตนเอง และคุมเกมรักนี้ได้อีกด้วย ฉะนั้นหากใครมาพูดว่ารักเรา ควรคิดพิจารณาให้ดีก่อนที่จะหลงรักเขาแบบหัวปักหัวปำ
- คำพูดสวนการกระทำ
ภาคต่อจากกรณีข้างต้น หากเขาพูดว่ารักกับเรา แต่การกระทำไม่ได้สื่อถึงคนที่รัก และห่วงใยให้เตรียมใจไว้เลยว่าเขาอาจจะเป็นคนชนิด Breadcrumbing หรือมาในท่าทีเล่น ที่จริงๆ คอยหยอกล้อเสมอ แต่พอเขาสู่ในโหมดจริงจังกลับกลายเป็นอีกคนไปเสียอย่างนั้น
- มีค่าเสมอเมื่อได้รับผลประโยชน์
การทำตัวสม่ำเสมอในความสัมพันธ์ คือ เรื่องที่ถูกต้อง แต่ถ้าหากเริ่มสังเกต หรือเอะใจกับคนที่เราคุยอยู่ด้วยว่าชอบทำดีก็ต่อเมื่อสิ่งๆ นั้น ตัวเขาเองได้ผลประโยชน์ด้วยหรือไม่ หากเป็นแบบที่คิดไว้เสมอให้เตรียมหมายหัวเอาไว้ให้ดี เพราะคนเหล่านี้อาจจะอันตรายสำหรับคุณ
...
- ดึงความสัมพันธ์ให้ยืดเยื้อ
จะคบก็คบ ไม่คบก็แค่พูดตรงๆ มันจะอยากสักแค่ไหน? คำถามนี้ตอบได้เลยว่ายากมากสำหรับคนที่เข้าหาคุณแบบความสัมพันธ์ Breadcrumbing เพราะเขาก็ไม่อยากจะเสียคุณไป เมื่อยิงคำถามเหล่านี้ไปแล้ว คำตอบที่ได้มักจะเป็นคำพูดที่ว่า “ขอดูๆ กันไปสักระยะ” หรือ “ขอคุยกันไปต่ออีกเสียหน่อยเพื่อตัดสินใจ” ซึ่งทำให้ตัวเราที่หลงรักไปแล้วอาจใจอ่อนยืดเวลาให้พวกเขาเหล่านั้นเรื่อยๆ จนรู้ตัวอีกทีเราได้เสียเวลาไปมากแล้วนั่นเอง
- ความสนใจ ความรู้สึกที่ไม่เท่ากัน
เคยสังเกตคนที่คุณคุยด้วยอยู่หรือเปล่าว่า ความใส่ใจ ของเขามีให้พอๆ กันกับเราให้เขาหรือไม่ ความสนใจ หรือความรู้สึกเหล่านี้ มนุษย์สามารถแสดงออกได้ทุกเมื่อ เมื่อเกิดความรู้สึกแบบนั้นจริงๆ โดยไม่อ้อมค้อม หากการกระทำเหล่านี้เป็นฝ่ายเราที่ทำอยู่เพียงคนเดียวให้พึงระวังไว้เสมอว่า คุณอาจเป็นได้แค่คนคุยแน่นอน
- เริ่มมีความรู้สึกเหนื่อย และเศร้า
...
หนึ่งสิ่งที่ควรทำ ทุกความสัมพันธ์ คือ การทบทวนตัวเองอย่างสม่ำเสมอ ว่าเราต้องการอยู่กับความสัมพันธ์ หรือความรู้สึกที่น่ากระอั่กกระอ่วนแบบนี้จริงๆ หรือไม่ ถ้าเรารู้สึกเริ่มเหนื่อยล้ากับความสัมพันธ์ อมทุกข์ คิดวิตกกังวลเกิดขึ้นให้รีบตัดสินใจ หาทางออก และออกมาจากความสัมพันธ์เหล่านี้เสีย เพื่อที่จะได้กลับมารักตัวเองอีกครั้ง เพราะความสัมพันธ์ที่ Toxic อาจส่งผลต่อสุขภาพจิตใจได้ด้วยเช่นกัน
ภาพ : istock