คำว่า Gaslighting กลายเป็นคำค้นหาที่หลายคนอยากรู้ความหมายที่แท้จริงว่าคืออะไร จากกระแสดราม่าของไอดอลสายวิทยาศาสตร์คนหนึ่งที่มีพฤติกรรมนี้ จนส่งผลกระทบต่อจิตใจกับคนรอบข้างที่ต้องร่วมงานหรือมีปฏิสัมพันธ์ด้วยอย่างร้ายแรง
ความหมายของ Gaslighting
เมื่อปีที่ผ่านมา เมอร์เรียม-เว็บสเตอร์ (Merriam-Webster) ผู้จัดพิมพ์พจนานุกรมเก่าแก่ที่สุดในสหรัฐฯ ประกาศให้คำว่า Gaslighting (แก๊สไลติง) แปลว่า ปั่นหัว เป็นคำแห่งปี 2565 เนื่องจากมีการค้นหาเพิ่มขึ้นเกือบ 18 เท่า และมีความสนใจค้นหาสูงตลอดทั้งปีนี้
โดยให้ความหมายของคำว่า Gaslighting ว่าเป็นการปั่นหัว ซึ่งหมายถึงการกระทำหรือพฤติกรรมที่ทำให้บุคคลเข้าใจผิดอย่างมากเพื่อประโยชน์ของตนเอง มีการค้นหาเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 17.40 ในปีนี้ และมีความสนใจค้นหาสูงตลอดทั้งปีที่ผ่านมา
ด้านบทความวิชาการ โดยคุณบุณยาพร อนะมาน นักจิตวิทยาประจำศูนย์ประเมินทางจิตวิทยา คณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ให้ความหมายของคำว่า Gaslighting เป็นรูปแบบหนึ่งของการควบคุมทางจิตใจ (psychological manipulation) ที่ปลูกฝังความแคลงใจ ความสงสัย และความไม่เชื่อมั่นในตนเอง ซึ่งพบได้ในทุกรูปแบบความสัมพันธ์ ที่ไม่ใช่แค่เพียงความรักเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความสัมพันธ์ในครอบครัว เพื่อน สังคมการศึกษา และสังคมการทำงานอีกด้วย
...
พฤติกรรมที่แสดงออกถึงการ Gaslighting จากอีกฝ่าย มักเป็นการใช้คำพูดที่ทำให้เรารู้สึกว่าตนเองเป็นฝ่ายผิดอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็น
- “คิดมากไปหรือเปล่า?”
- “คิดไปเองหรือเปล่า?”
- “เพราะคุณทำแบบนั้น ฉันเลยเป็นแบบนี้”
- “ที่ทำแบบนี้เพราะเป็นห่วงนะ”
- “ไม่เชื่อใจกันเลยใช่ไหม?”
- “ทำไมไม่อดทนเลย คนอื่นเขายังทนได้”
แม้ว่าจะเป็นประโยคธรรมดา แต่เมื่อได้ยินชุดคำพูดเหล่านี้ซ้ำๆ อาจทำให้หลายคนมักเลือกที่จะเชื่อว่าตนเป็นฝ่ายผิด กับดักทางจิตวิทยาของการใช้ถ้อยคำเหล่านี้นั้นฟังดูไม่เหมือนคำโกหกหลอกลวง แต่เป็นการปลูกฝังความคิด ความรู้สึกผิด และความไม่เชื่อมั่นในตัวบุคคล
จะรู้ได้อย่างไรว่าเราถูก Gaslighting ในความสัมพันธ์
สิ่งที่เป็นสัญญาณเตือนว่าเรากำลังเผชิญกับการถูกกดขี่และบั่นทอนจิตใจให้รู้สึกด้อยค่าตนเองด้วยการ Gaslighting มีดังต่อไปนี้
- เป็นฝ่ายที่ต้องเอ่ยคำขอโทษตลอดเวลา ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นความผิดของคุณ
- เชื่อว่าตนเองไม่สามารถทำสิ่งที่ถูกได้ ทำอะไรก็ผิดเสมอ
- รู้สึกวิตกกังวลตลอดเวลา หวาดกลัวว่าจะทำผิดหรือไม่ถูกใจใคร
- สูญเสียความมั่นใจในตนเอง
- สูญเสียความเป็นตัวตน
- ตั้งคำถามเกี่ยวกับความคิดและการตัดสินใจของตนเองตลอดเวลา ไม่กล้าที่จะตัดสินใจ
- รู้สึกโดดเดี่ยวและไร้กำลัง รู้สึกว่าตนไม่เหมือนใคร แตกต่างและแปลกแยก
- ผิดหวังในตนเอง และกลัวผู้อื่นจะผิดหวังในตัวคุณ
ดังนั้นแค่เพียงคำพูดไม่กี่คำก็ส่งผลกระทบต่อจิตใจและความเชื่อมั่นในตนเอง (self-esteem) ของผู้ฟังได้เป็นอย่างมาก และเราสามารถพบเจอกับการถูก Gaslighting ได้ในทุกความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง สิ่งสำคัญคือการทบทวนสิ่งที่ได้ฟังเพื่อรู้เท่าทันพฤติกรรมนี้ โดยไม่ให้ตนเองตกหลุมในกับดักนี้
แล้วจะทำอย่างไรเมื่อต้องเผชิญกับ Gaslighting?
การปกป้องตนเองและระมัดระวังไม่ให้ถูกทำลายความมั่นใจในตนเองด้วยหลุมกับดักทางจิตใจนี้ อาจมีได้หลายหนทาง เช่น
- เว้นระยะห่าง ถอยห่างจากความรู้สึกสงสัยในตนเองที่ถูกทิ้งเอาไว้ให้ การเดินออกจากสถานการณ์เหล่านั้น หรือให้เวลาตนเองได้หายใจลึกๆ เพื่อผ่อนคลายและมีเวลาใช้ความคิด อาจช่วยให้เราสามารถทบทวนได้ว่ากำลังเผชิญหน้ากับสิ่งใด
- เก็บหลักฐาน เพราะ gaslighting มักทำให้คุณต้องสงสัยในตัวคุณเอง การเก็บหลักฐานของเรื่องราวต่างๆ ไว้นั้น จะช่วยให้คุณสามารถยืนยันกับตนเองและสถานการณ์ตรงหน้าได้ว่า ความคิดของคุณไม่ใช่เพียงแค่ความคิดเห็นของคุณฝ่ายเดียว
- ใช้มุมมองที่ 3 มุมมองของคนที่อยู่ภายนอกสถานการณ์ อาจช่วยให้คุณมองเห็นได้ชัดเจนขึ้นในเรื่องราวเหล่านั้น การอยู่ในสถานการณ์ที่มีการบีบคั้นทางอารมณ์ ย่อมทำให้มุมมองต่างๆ ของคุณแคบลง และไม่สามารถประมวลผลสถานการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพเท่าที่ควร
- ถอยห่างจากความสัมพันธ์ แม้จะเป็นหนทางที่ยากในการกระทำได้จริง แต่การเผชิญกับ gaslight ซ้ำๆ จนทำให้สูญเสียความเป็นตัวตนไปนั้น ย่อมส่งผลเสียที่มากกว่า หากพบสัญญาณของการกระทำเหล่านั้น และพบว่าไม่มีหนทางอื่นใดที่จะแก้ไขได้ การจบความสัมพันธ์นั้นอาจเป็นหนทางที่ดีที่สุดในการหลีกให้พ้น และจบการทำร้ายทางจิตใจลง
...
ทำไมบางคนจึงชอบ Gaslighting คนอื่น
บทความจากเว็บไซต์ verywellmind.com เผยว่า คนที่ชอบ Gaslighting ไม่ได้แค่ชอบปั่นหัว แต่รู้สึกดีที่ตนเองได้มีอำนาจเหนือผู้อื่น โดยเฉพาะกับคนที่ยินยอมให้ตนเองควบคุมจิตใจได้ ซึ่งคนที่มีพฤติกรรมเหล่านี้มักมีรากฐานจากจิตใจที่อาจเป็นโรคที่มีความผิดปกติทางบุคลิกภาพ การหลงตัวเอง ชอบเผด็จการ การต่อต้านสังคม หรือเป็นคนชายขอบของสังคม
...
ดังนั้นเราจึงไม่ควรตอกย้ำความรู้สึกผิดในสิ่งที่คนประเภทนี้พยายามยัดเยียดให้เราเป็นตามความต้องการของพวกเขา การที่เราคิดอย่างแตกต่างและไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน จึงไม่ใช่ความผิดแต่อย่างใด จงอย่าให้คำพูดปั่นหัวบั่นทอนเหล่านี้มาทำร้ายจิตใจของเรา และหากมองในมุมกลับกัน คนที่มีพฤติกรรมชอบ Gaslighting คนอื่น ก็ไม่ต่างจากคนที่ชอบกดคนอื่นให้ต่ำลงเพื่อยกตนเองให้สูงขึ้น เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับตัวเองก็เท่านั้น
ข้อมูลอ้างอิง : คณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, verywellmind.com, สำนักข่าวไทย
ภาพ : iStock