ไอเทมชิ้นสำคัญอย่างนาฬิกาข้อมือที่เป็นทั้งเครื่องบอกเวลาและเครื่องประดับนั้น ควรจะได้รับการดูแลและตรวจเช็กอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะนาฬิกาหรูเรือนสวยที่มีมูลค่า ที่ถึงแม้ว่าจะทำขึ้นจากวัสดุพรีเมียม มีความทนทานและอายุการใช้งานที่ยาวนาน แต่ก็ควรจะได้รับการดูแลและตรวจเช็ก รักษาสภาพอย่างถูกวิธี บทความนี้จะพาไปเช็ก 4 สเต็ปในการดูแลรักษานาฬิกาเรือนหรู ที่จะช่วยยืดประสิทธิภาพและคงความสวยงามได้ยาวนานขึ้น
1. เลือกพื้นที่จัดเก็บให้เหมาะสม
เก็บนาฬิกาไว้ในที่แห้งและเย็น ห่างจากการสัมผัสแสงแดดโดยตรง หลีกเลี่ยงการกระแทกหรือสภาวะที่เป็นอันตรายต่อนาฬิกา เช่น สภาพอากาศและสภาวะที่ทำให้ตัววัสดุหรือกลไกเกิดความเครียด หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสารเคมี เช่น น้ำหอม ตัวทำละลาย หรือสารทำความสะอาด เนื่องจากอาจทำให้ตัวเรือน อัญมณีประดับ หรือสายรัดเสื่อมสภาพ หรือได้รับความเสียหาย รวมไปถึงนาฬิกาบางเรือนนั้นไวต่อแรงแม่เหล็ก ควรเก็บให้ห่างจากพื้นที่สนามแม่เหล็กแรงสูง เพราะอาจมีผลต่อความแม่นยำของนาฬิกาได้ และสำหรับใครที่มีนาฬิกาหลายเรือน แนะนำให้เก็บในกล่องใส่นาฬิกาที่มีช่องแยกหรือเก็บใส่กล่องของแบรนด์ เพื่อความสวยงามและป้องกันรอยขีดข่วน
2. ทำความสะอาดเป็นประจำ
เพื่อขจัดฝุ่น สิ่งสกปรก และรอยนิ้วมือ ควรหมั่นทำความสะอาดนาฬิกาด้วยผ้านุ่มไม่เป็นขุย หมั่นดูแลสายรัดและข้อต่อต่างๆ โดยเฉพาะสายข้อมือโลหะ การทำความสะอาดเป็นประจำ ยังช่วยให้เราได้พิจารณาจุดต่างๆ ของนาฬิกาเรือนโปรดอย่างละเอียดถี่ถ้วน ทำให้มีโอกาสได้เห็นว่ามีจุดไหนบ้างที่เสื่อมสภาพหรือชำรุด เพื่อให้สามารถซ่อมหรือแก้ไขได้เร็ว
3. ใช้งานอย่างเหมาะสม
นาฬิกามีรูปแบบการทำงานที่หลากหลาย จึงควรปรับการใช้งานให้เหมาะสมด้วยเช่นกัน เช่น การหมุนไขลานอย่างเบามือของนาฬิกาประเภทไขลาน หรือที่เรียกว่า “Hand Winding Mechanical Watch” ตรวจสอบประสิทธิภาพการกันน้ำ เพราะนาฬิกาบางเรือนไม่เหมาะกับการว่ายน้ำหรือดำน้ำ ดังนั้นจึงต้องเช็กให้แน่ว่านาฬิกามีประสิทธิภาพการกันน้ำที่เหมาะสมกับแต่ละกิจกรรม
4. เข้ารับบริการตรวจเช็กอย่างสม่ำเสมอ
โดยทั่วไปแล้ว นาฬิกาควรเข้ารับบริการตรวจเช็กบำรุงทุกๆ 3-5 ปี นำนาฬิกาเข้ารับบริการที่ศูนย์บริการที่ได้รับอนุญาต หรือมีผู้เชี่ยวชาญในการดูแลรักษาที่เชื่อถือได้ มั่นใจได้ว่านาฬิกาของคุณจะได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะนาฬิกาหรูแบรนด์ชั้นนำแต่ละเรือน อาจะมีแนวทางการดูแลที่เฉพาะเจาะจงและแตกต่างกันไป ควรศึกษาจากคู่มือหรือคำแนะนำจากแบรนด์อย่างใกล้ชิด
ส่งนาฬิกาเรือนโปรดเข้าเช็กสภาพที่ศูนย์ Rolex มั่นใจเรื่องคุณภาพ พิถีพิถันทุกขั้นตอน
นาฬิกาที่ถูกรังสรรค์ขึ้นอย่างพิถีพิถันอย่าง Rolex ทุกเรือนได้รับการออกแบบและสร้างขึ้นให้มีความทนทานเหนือกาลเวลา แต่ถึงอย่างนั้น เจ้าของเรือนเวลาอันมีค่าย่อมเข้าใจเป็นอย่างดีอยู่แล้วว่า ควรนำนาฬิกาเรือนโปรดที่ผ่านการใช้งานเข้าศูนย์ Rolex เพื่อตรวจเช็กสภาพและดูแลเป็นประจำอยู่เสมอ แต่เคยสงสัยไหม? เวลาส่งนาฬิกาตรวจเช็กสภาพ ทางศูนย์มีขั้นตอนการทำงานอย่างไร ทำไมทุกครั้งที่นำเข้าตรวจเช็กสภาพกับ Rolex Center นาฬิกาของเราจึงกลับคืนมาในสภาพที่แทบเรียกว่าไร้ที่ติ โดยทางศูนย์ Rolex มีขั้นตอนการบริการพื้นฐานดังนี้
ประเมินสภาพนาฬิกา
เมื่อส่งนาฬิกาเข้าศูนย์ Rolex พนักงานจะตรวจเช็กสภาพนาฬิกาจากลูกค้าก่อนเบื้องต้น จากนั้นช่างที่ผ่านการรับรองจากศูนย์ Rolex จะตรวจสอบและประเมินความเสียหายอย่างละเอียดอีกครั้ง ตั้งแต่ความเสียหายของอะไหล่แต่ละชิ้น กลไกการทำงาน ระบบไขลาน ไปจนถึงสภาพตัวเรือนโดยรวม และเมื่อผลการประเมินได้รับการอนุมัติจากลูกค้าแล้ว ทุกความเสียหายที่เกิดขึ้น ถึงจะได้รับการดูแลและซ่อมแซมอย่างละเอียดต่อไป
ถอดชิ้นส่วนประกอบและตรวจเช็กตามขั้นตอน
ขั้นตอนต่อมา หลังจากที่ Rolex Center ได้รับการอนุมัติการเข้ารับบริการจากลูกค้าแล้ว ช่างจะทำการแยกชิ้นส่วนอะไหล่ทุกชิ้นออกจากกัน เริ่มตั้งแต่สายนาฬิกา ชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้องกับกลไกการทำงาน เช่น หน้าปัดและเข็มนาฬิกา จากนั้นกลไกการทำงาน ตัวเรือน และอะไหล่ภายนอก ที่ถูกแยกจนครบทุกชิ้นส่วนแล้ว จะถูกนำไปดูแลและตรวจเช็กตามขั้นตอนในห้องปฏิบัติการต่อไป และจะถูกนำมาประกอบคืนในภายหลังจากการตรวจเช็กครบทุกกระบวนการแล้ว
เข้าสู่กระบวนการซ่อมแซมและบำรุงรักษา
หลังจากที่อะไหล่ทุกชิ้นและกลไกการทำงานถูกแยกออกจากกันแล้ว ส่วนประกอบจะถูกส่งไปตรวจเช็กในห้องปฏิบัติการ เมื่อพบชิ้นส่วนที่ทำงานปกติหรือเกิดความเสียหายตามเกณฑ์ที่ Rolex Center กำหนด อย่างเช่นกลไกการทำงานชำรุด ช่างของ Rolex Center จะทำการเปลี่ยนอะไหล่ชิ้นใหม่แทนอะไหล่ที่เสียหาย และซ่อมแซมจัดการให้ระบบกลไกกลับมาอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานได้ปกติดังเดิม ซึ่งทุกขั้นตอนการให้บริการจะได้รับการดูแลโดยช่างผู้ชำนาญของ Rolex โดยตรง
ประกอบชิ้นส่วนและหล่อลื่นกลไกการทำงาน
อะไหล่ทุกชิ้นที่ถูกแยกออกจากกัน จะได้รับการทำความสะอาดด้วยเครื่องล้างอัลตราโซนิก เพื่อขจัดคราบสกปรกต่างๆ ออกจนหมด จากนั้นอะไหล่แต่ละชิ้นจะถูกทำให้แห้งสนิท ก่อนจะถูกนำมาประกอบชิ้นส่วนเข้าด้วยกัน ชิ้นส่วนอะไหล่และระบบกลไกการทำงานจะถูกนำมาประกอบพร้อมกับหยอดน้ำมันหล่อลื่นด้วยความละเมียดละไม และช่างจะปรับกลไกการทำงานของตัวเรือนครั้งแรกให้มีความเที่ยงตรง ตัวเรือนด้านหลังจะถูกยึดด้วยสกรู เมื่อเสร็จสิ้นแล้วจะถูกนำไปทดสอบเฉพาะตามมาตรฐานของทางศูนย์ Rolex อีกครั้ง เป็นเวลาอย่างน้อย 24 ชม. เพื่อตรวจสอบประสิทธิภาพของกลไกการทำงานอีกครั้ง
ทดสอบคุณสมบัติและการใช้งาน
หลังจากตัวเรือนถูกประกอบเข้าด้วยกันแล้ว จะมีการทดสอบครั้งแรกเพื่อตรวจสอบระบบกลไกการทำงาน ว่าตรงตามมาตรฐานของทาง Rolex Center หรือไม่ เมื่อกลไกการทำงานเป็นไปอย่างปกติ จะนำนาฬิกา Rolex ไปทดสอบแรงดันใต้น้ำ เพื่อตรวจสอบคุณสมบัติการกันน้ำต่อไป จากนั้นจะมีการนำสายนาฬิกามาประกอบเข้ากับตัวเรือน ยังไม่จบเพียงแค่นั้น Rolex Center ยังสร้างความมั่นใจให้อีกขั้นตอน โดยการทำการตรวจเช็กนาฬิกาอีกครั้ง เพื่อให้มั่นใจว่านาฬิกา Rolex จะสามารถกลับมาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและอยู่ในสภาพไร้ที่ติดังเดิม
ส่งคืนนาฬิกาพร้อมการรับประกัน
เมื่อเสร็จสิ้นขั้นตอนการบริการ นาฬิกา Rolex จะถูกบรรจุในถุงกันรอย พร้อมนำส่งคืนสู่ผู้เป็นเจ้าของเรือนเวลาอันไร้ที่ติเรือนนี้ พร้อมกับการรับประกันในการให้บริการสองปี ครอบคลุมด้านอะไหล่และการบริการ แต่การรับประกันจะไม่ครอบคลุมถึงความเสียหายหรือการเสื่อมสภาพใดๆ ที่เป็นผลมาจากอุบัติเหตุหรือจากการใช้งานที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานของ Rolex Center เพื่อให้ผู้ที่เป็นเจ้าของนาฬิกา Rolex มั่นใจได้ว่าจะได้รับนาฬิกากลับคืนมาในสภาพที่ดีที่สุดนั่นเอง
จะเห็นได้ว่าทุกขั้นตอนการบริการอยู่ภายใต้การดูแลของช่างเทคนิคผู้ชำนาญการของทาง Rolex Center โดยเฉพาะ ใส่ใจรายละเอียดและพิถีพิถันในทุกขั้นตอนการบริการ เพื่อส่งคืนเรือนเวลาอันงดงามกลับคืนสู่ผู้เป็นเจ้าของอีกครั้ง ใครที่กำลังมองหา Rolex Center หรือศูนย์ Rolex ที่พร้อมให้บริการดูแลตรวจเช็กนาฬิกาเรือนโปรดอยู่ ที่ Nam Sawang ตัวแทนจำหน่าย Rolex อย่างเป็นทางการในประเทศไทย เราพร้อมเป็นผู้ช่วยดูแลเรือนเวลาอันมีค่า ด้วยความรู้และประสบการณ์ที่ยาวนาน พร้อมกับทักษะเฉพาะด้านและเทคโนโลยีโนว์-ฮาว Nam Sawang พร้อมส่งต่อช่วงเวลาให้คุณเริ่มเดินทางครั้งใหม่ไปกับเรือนเวลาเรือนโปรดอีกครั้ง ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม โทร. 02-433-7842