วิธีการอาบน้ำแบบผิดๆ ที่ผู้คนนิยมทำจนเป็นนิสัย ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อร่างกาย ผิวหนัง และสุขภาพได้
ประเทศไทยเป็นเมืองร้อน ทำให้การอาบน้ำของคนไทยนั้นเป็นเรื่องปกติ และทำอยู่เป็นประจำ อย่างไรก็ตาม การอาบน้ำเป็นสิ่งที่ละเอียดอ่อน ซึ่งอาจส่งผลกระทบในระยะยาวได้ หากเกิดการสะสมจากพฤติกรรมการอาบน้ำที่ผิดวิธี ซึ่งหากกระทำอยู่บ่อยๆ อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพผิว สุขภาพผม ลุกลามไปถึงสุขภาพทางกายได้เช่นกัน
พฤติกรรมการอาบน้ำที่ผิด อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ
- อาบน้ำบ่อยเกินไป
อากาศเมืองไทยที่ร้อนจัด ทำให้การอาบน้ำเป็นทางเลือกเพื่อความสบายตัวและสะอาด ปราศจากคราบไคล อย่างไรก็ตาม คนไทยเราไม่ควรอาบน้ำเกินวันละ 2 ครั้ง เพื่อสุขอนามัยที่ดี และรักษาไว้ซึ่งสภาพผิวที่สมบูรณ์ เพราะว่าหากเราอาบน้ำบ่อยจนเกินไป ทำให้เกิดการล้างผิวหนังที่มีน้ำมันและแบคทีเรียที่ดีต่อผิวออกไป จนทำให้ผิวแห้งกร้าน จนมีอาการคัน และทำให้ผิวหนังอักเสบได้
- อาบน้ำหลังออกกำลังกาย หรือหลังกลับมาจากออกแดดร้อนทันที
...
การออกกำลังกาย หรือออกแดดเป็นระยะเวลาหนึ่ง ทำให้หัวใจและเลือดจะสูบฉีดไปหล่อเลี้ยงร่างกายมากกว่าปกติ เพื่อขยายตัวและกำจัดความร้อนในร่างกายในรูปแบบของเหงื่อ หากเราอาบน้ำทันที ไม่ว่าจะน้ำร้อน หรือเย็น อาจทำให้อุณหภูมิในร่างกายปรับเปลี่ยนอย่างเฉียบพลัน มีผลให้เส้นเลือดและรูขุมขนหดตัวลง ส่งผลต่อเลือดที่ไปหล่อเลี้ยงร่างกายและหัวใจ ไม่พออาจทำให้เกิดอาการช็อกได้ ควรพักร่างกายเป็นเวลา 15-30 นาที เพื่อปรับอุณหภูมิร่างกายก่อนจะอาบน้ำ
- ใช้ผ้าขนหนูอันเดิมเป็นประจำ
ผ้าขนหนูเป็นสิ่งจำเป็นในการเช็ด ชำระตัวให้แห้ง เพื่อป้องกันการอับชื้น ซึ่งส่งผลให้เกิดโรคอื่นๆ ต่อผิวหนัง แต่หากเราไม่รักษาความสะอาดของผ้าขนหนูเลย จะเกิดการสะสมของแบคทีเรีย ยีสต์ และเชื้อราในผ้าขนหนูได้ ส่งผลต่อสภาพผิวหนังขอเราได้เช่นกัน ควรหมั่นทำความสะอาดผ้าขนหนู หรือเปลี่ยนผ้าขนหนูบ่อยๆ เพื่อสุขอนามัยของสภาพผิวและร่างกายของเราเอง
- สระผมทุกครั้งที่อาบน้ำ
การสระผมเป็นสิ่งที่ดี และขจัดคราบไคลเหงื่อออกจากหนังศีรษะได้ แต่ผู้สระผมต้องหมั่นสังเกตสภาพหนังศีรษะของตนเองว่าเกิดอาการลอก หรือผมร่วงมากจนเกินไปหรือไม่ เพราะสาเหตุอาจมาจากการสระผมบ่อยจนเกินไปจนหนังศีรษะบอบบาง ทำให้ผมแห้งได้ จนเกิดอาการระคายเคือง อักเสบ และรังแคได้
- ใช้เล็บในการเกาหนังศีรษะ ขณะสระผม
เกาหนังศีรษะขณะสระผม อาจทำให้รู้สึกผ่อนคลาย หายคัน และสดชื่น แต่หากใช้เล็บเกาหนังศีรษะมากจนเกินไป มักจะส่งผลเสียต่อสภาพหนังศีรษะ ซึ่งเป็นอันตรายมากกว่า เช่น ทำให้รูขุมขนบนหนังศีรษะกว้าง เกิดสิว ผมร่วง และแตกปลาย หรืออาจจะเป็นแผลบนศีรษะ ส่งผลต่อการอักเสบได้ด้วย
- อาบน้ำอุ่นนานเกินไป
การอาบน้ำอุ่นนั้นไม่ควรที่จะอาบนานจนเกินไป เพราะจะทำให้ผิวแห้งได้ง่าย และไม่แนะนำให้อาบน้ำอุ่นในช่วงเช้า เพราะอาจทำให้อ่อนล้าและง่วงซึม การอาบน้ำอุ่นไม่เหมาะสำหรับผู้มีความดันผิดปกติ และผู้สูงอายุ ควรสลับสับเปลี่ยนอุณหภูมิของน้ำให้เหมาะสมกับสภาพอากาศ ณ ช่วงเวลานั้นๆ
- ขัดผิวบ่อยจนเกินไป
การขัดผิวเพื่อเอาผิวเสียออกจากร่างกายให้สร้างเซลล์ผิวใหม่เป็นเรื่องที่ดี แต่หากทำเป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นผิวกายและผิวหน้า อาจทำให้ผิวหมองคล้ำแทน เนื่องจากเซลล์ผิวที่สร้างใหม่ไม่ทัน ไม่ได้รับอากาศ และไม่มีสารอาหารที่เพียงพอ กลายเป็นการทำร้ายผิวโดยไม่รู้ตัว
...
- ไม่เปลี่ยนใบมีดโกน
การโกดหนวดสามารถทำให้ใบหน้าดูเกลี้ยงเกลาและสะอาดแล้ว แต่ยังมีข้อเสียในการทำลายผิวหน้าได้เช่นกัน หากใบมีดโกนไม่ได้ถูกเปลี่ยนตามกำหนดเวลาใช้งาน ซึ่งอาจทำให้ใบมีดโกนคงประสิทธิภาพที่ดีได้ไม่เท่าเดิม รวมถึงการสะสมของแบคทีเรีย ส่งผลร้ายต่อผิว เช่น รูขุมขนอักเสบ เกิดบาดแผลบนใบหน้า เป็นสิว และผื่นคัน
...
- เลือกใช้สบู่ที่มีมอยส์เจอไรเซอร์
สบู่ในปัจจุบันมีทั้งชนิดเหลวและชนิดก้อน โดยส่วนใหญ่จะมีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญต่อสุขภาพผิวหนังของเราเป็นอย่างมาก ควรเลือกใช้สบู่ที่มีส่วนผสมนี้เป็นหลัก เพื่อป้องกันอาการผิวแห้ง ที่อาจก่อให้เกิดโรคผิวหนังอื่นๆ ที่อาจตามมาได้
ภาพ : istock
ข้อมูล : โรงพยาบาลกลาง