Netflix (เน็ตฟลิกซ์) ประกาศขึ้นราคา สำหรับบางแผนการใช้งานใน 3 ประเทศอย่าง สหรัฐอเมริกา อังกฤษ และฝรั่งเศสแล้ว หลังแผนยุติการแชร์บัญชีประสบความสำเร็จ เพื่อขยายฐานกำไรให้เพิ่มขึ้นในลำดับต่อไป

Netflix (เน็ตฟลิกซ์) ประกาศการขึ้นราคา สำหรับแผนการใช้งานในบางแพ็กเกจที่ สหรัฐอเมริกา อังกฤษ และฝรั่งเศส เริ่มวันพุธที่ 19 ตุลาคม 2566 ทำให้เกิดกระแสความไม่พอใจจากผู้ใช้งาน กลับกันยังส่งให้หุ้นขึ้นถึง 13%

สื่อต่างประเทศอย่าง รอยเตอร์ ให้ข้อมูลว่า เน็ตฟลิกซ์ มีสมาชิกเพิ่มขึ้นเกือบ 9 ล้านรายในไตรมาสที่ 3 หลังประกาศขึ้นราคา และยุติการแชร์บัญชีในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์จากวอลล์สตรีทที่ 6 ล้านคน และข้อมูลของ LSEG Netflix ได้คาดว่าจะมีการเพิ่มจำนวนที่ใกล้เคียงกันในไตรมาสปัจจุบัน (ไตรมาสที่ 4)

จากสถิติการเพิ่มขึ้นข้างต้น ของผู้ใช้บริการเน็ตฟลิกซ์ในไตรมาสที่ 3 นี้ แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของธุรกิจที่มีความใกล้เคียงกับปี 2020 ที่มีการล็อกดาวน์ในช่วงของการระบาดใหญ่ ส่งผลให้การสมัครสมาชิกพุ่งสูงขึ้นอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน

เปาโล เปสกาโทเร่ (Paolo Pescatore) นักวิเคราะห์ของ PP Foresight กล่าวว่า “การเติบโตของเน็ตฟลิกซ์ในไตรมาสที่ 3 เป็นเครื่องพิสูจน์ว่าการยุติการแบ่งปันบัญชี คือ ผลสำเร็จ และทำให้มีโอกาสในการเติบโตเพิ่มขึ้นอีก จากการหารายได้บนช่องทางอื่นอย่าง การโฆษณา ที่มีแผนเรียกเก็บ สร้างกำไรเพิ่มจากช่องทางนี้

เน็ตฟลิกซ์ ประกาศขึ้นราคา ‘แผนพรีเมียมแบบไม่มีโฆษณา’ ใน 3 ประเทศ มีผลใช้ทันที 

  • สหรัฐอเมริกา ราคาเดิมที่ 19.99 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 728 บาท) เป็น 22.99 ดอลลาร์ (ประมาณ 837 บาท)
  • สหราชอาณาจักร ราคาเดิมที่ 15.99 ปอนด์ (ประมาณ 706 บาท) เป็น 17.99 ปอนด์ ในอังกฤษ (ประมาณ 795 บาท)
  • ฝรั่งเศส ราคาเดิมที่ 17.99 ยูโร (ประมาณ 690 บาท) เป็น 19.99 ยูโร (ประมาณ 767 บาท)  

...

นอกจากนี้ยังเป็นข่าวดีของนักลงทุน หลังจากการปรับราคาครั้งนี้ ส่งผลให้หุ้นของทางเน็ตฟลิกซ์ขึ้นไปที่ 390.80 ดอลลาร์ในการซื้อขายขยายจากระดับปิดที่ 346.19 ดอลลาร์

แม้ว่าจะมีปัญหา เกิดความไม่พึงพอใจจากลูกค้า และความตึงเครียดด้านแรงงานในฮอลลีวูดจนเกิดการทำงานที่หยุดชะงักไปเมื่อไม่นานมานี้ แต่เน็ตฟลิกซ์ก็ยังคงแก้ปัญหา และดำเนินธุรกิจต่อไปอย่างราบรื่น

ความท้าทายบนเส้นทางธุรกิจของเน็ตฟลิกซ์ กับสตรีมมิงรายอื่นปัจจุบันมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยรวมยังถือว่าเน็ตฟลิกซ์มีฐานลูกค้า และความแข็งแรงของธุรกิจที่ดีกว่า อย่างไรก็ตาม การขึ้นราคาที่สวนกระแสความต้องการของผู้บริโภคบ่อยครั้ง อาจเป็นสิ่งที่ส่งผลกระทบต่อฐานผู้ใช้งานหรือไม่ หากมองในมุมกลับกัน การดำเนินธุรกิจ เรื่องของผลกำไร ก็เป็นเรื่องจำเป็นต่อทางเน็ตฟลิกซ์ที่ต้องรีบดำเนินการเช่นเดียวกัน ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าสนใจว่าธุรกิจสตรีมมิงจะมีทิศทางอย่างไรต่อในอนาคต หลังการเปลี่ยนแปลง เงื่อนไข และกฎเกณฑ์ต่างๆ ในปีนี้ของ ‘เน็ตฟลิกซ์’

ข้อมูล : Reuters

ภาพ : iStock