ต้นกำเนิดกาแฟ Dirty Coffee กาแฟยอดฮิตในปัจจุบัน ที่ชูรสชาติของเมล็ดกาแฟ และรสชาติของนมที่ผสมได้เข้ากันอย่างลงตัว

“Dirty Coffee” (กาแฟเดอร์ตี้) คือ หนึ่งในเมนูกาแฟยอดฮิต ที่ปัจจุบันมีผู้คนชื่นชอบเป็นอย่างมาก มีจุดกำเนิดมาจากประเทศญี่ปุ่น โดย คัตซึยูกิ ทานากะ เจ้าของร้านคาเฟ่บาร์ ย่านชิโมะคิตาซาวะ เมืองโตเกียว และได้ไปเปิดตัวโชว์ผลงานที่นครนิวยอร์ก จนเป็นเมนูดังที่รู้จักไปทั่วโลก

จุดเริ่มต้นของ Dirty Coffee มาจากความชื่นชอบกาแฟเอสเปรสโซ่ของคัตซึยูกิ และอยากสร้างสรรค์กาแฟเอสเปรสโซ่ที่ดื่มง่าย พร้อมนำเสนอศิลปะของกาแฟ ด้วยการแบ่งชั้นกาแฟด้วยนมแช่เย็น ทำให้กาแฟมีความกลมกล่อม และสัมผัสที่เข้มข้นอย่างลงตัวในคำเดียว รวมถึงการดื่มที่ง่าย ทำให้เมนู Dirty Coffee จึงเป็นที่นิยมไปทั่วโลก เพราะเป็นการชูวัตถุดิบจากเมล็ดกาแฟได้ดีอีกเมนูหนึ่ง ทำให้บาริสต้าทั่วโลกหันมาทำเมนู Specialty Coffee และเติมแต่งลูกเล่นบน Dirty Coffee ออกไปอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน

Dirty Coffee คืออะไร

...

Dirty Coffee เป็นกาแฟเอสเปรสโซ่เข้มข้น นำมาราดบน “นม” ในแก้วที่มีความเย็นจัด ทำให้ความเข้มข้นของกาแฟเอสเปรสโซ่ และนมแบ่งชั้นกันอย่างชัดเจน จนได้รสชาติที่แบ่งเลเยอร์ (แบ่งชั้น) อย่างมีมิติ และเป็นหนึ่งในกาแฟชอตที่สามารถทานได้ง่ายกว่าเอสเปรสโซ่ทั่วไป โดยจะมีรสชาติที่เข้มข้น นวล และความกลมกล่อมจากนมผสมอยู่อย่างเข้ากัน

ทำไมถึงต้องชื่อ Dirty Coffee ที่แปลว่า ‘เปรอะเปื้อน’ แน่นอนว่า Dirty Coffee มีส่วนผสมของนมผสมอยู่ ทำให้เวลาเราทาน Dirty Coffee แล้วนั้นจะมีคราบของกาแฟ และนมที่ผสมกันเป็นสีน้ำตาลอยู่รอบๆ แก้วกาแฟ จนเกิดเป็นความสวยงามจากคราบกาแฟ กลายเป็นงานศิลปะ ทำให้การดื่ม Dirty Coffee ทุกครั้งจนหมด ก็จะดูเปรอะเปื้อนในบริเวณรอบๆ ที่ดูเป็นงานศิลปะได้เช่นกัน

วิธีการดื่ม Dirty Coffee

ความพิเศษของ Dirty Coffee เป็นการชูวัตถุดิบหลักจากเมล็ดกาแฟด้านบน ที่มีนมเป็นตัวช่วยในความกลมกล่อม ดังนั้นผู้ทานจำเป็นต้อง “ไม่ใช้ช้อนคนกาแฟในแก้ว Dirty Coffee” ร้านกาแฟเสิร์ฟมาอย่างไรก็ให้ทานอย่างนั้น ด้วยการค่อยๆ จิบไปที่ละลำดับ จึงจะได้รสชาติที่สมบูรณ์ และกลมกล่อม โดยไม่เหมือนกาแฟลาเต้ และกาแฟคาปูชิโน่ทั่วไป

รสชาติของ Dirty Coffee

ส่วนประกอบ และหน้าตาของ Dirty Coffee จะมีความคล้ายคลึงกับกาแฟลาเต้ และ กาแฟคาปูชิโน่ ซึ่งมีส่วนผสมของนมเป็นองค์ประกอบหลัก แต่รสชาติของ Dirty Coffee นั้นจะได้หลากหลายมากๆ ในหนึ่งแก้ว

โดย Dirty Coffee จะต้องค่อยๆ ลิ้มรสความเข้มข้น และความนวล ที่มีความร้อน และเย็น ผสมกันไปจนหมดแก้ว และได้จากรสชาติของเมล็ดกาแฟเข้มข้นจากด้านบน และกาแฟผสมนมเย็นในแก้วจากด้านล่าง เพราะนมจะช่วยรักษารสชาติความอร่อยในแต่ละชั้นไว้ อีกทั้งกลิ่นจะมีความหอมแตกต่างไปไปตามลำดับ

Dirty Coffee จึงมีสูตรที่ไม่ตายตัว ซึ่งขึ้นอยู่กับวัตถุดิบ เมล็ดกาแฟ ชนิดของนม รวมถึงบางร้านกาแฟอาจใส่ไอเดียเพิ่มเติมจากวัตถุดิบอื่น และรวมถึงกลิ่นต่างๆ ลงไปได้อีก ทำให้ Dirty Coffee จึงได้แตกแขนงออกไปอย่างหลากหลาย ขึ้นอยู่ที่ความคิดสร้างสรรค์ของแต่ละร้านกาแฟที่จะนำเสนอออกมาในรูปแบบใด และอาจมีรสชาติที่ไม่เหมือนกัน ทำให้เมนู Dirty Coffee มักจะถูกวางขายอยู่ในร้านกาแฟที่นำเสนอเมนู Specialty Coffee ในหลายๆ ร้าน เพื่อชูจุดเด่นของร้านกาแฟตนเอง

วิธีการชงกาแฟ Dirty Coffee ทานเองที่บ้าน

  • แช่แก้วกาแฟชอตให้มีความเย็นที่ 5 องศาฯ หรือต่ำกว่า
  • ใช้นมสดเย็น เพื่อให้นมมีเนื้อที่ข้นกว่านมในอุณหภูมิปกติ
  • สกัดกาแฟเข้มข้น จากเมล็ดกาแฟที่ชื่นชอบ
  • ราดกาแฟเอสเปรสโซ่ชอตที่ทำเสร็จลงบนนม และแก้วที่มีความเย็น

สามารถเติมส่วนผสมที่ชื่นชอบลงไปเพิ่มเติมได้ เช่น วิปปิ้งครีม ไซรัป และวัตถุดิบอื่นๆ ตามสูตรที่ชื่นชอบของตนเองได้.

ภาพ : istock