ภาวะเกล็ดเลือดต่ำ เกิดจากความผิดปกติภายในร่างกายที่ส่งผลกระทบต่อการผลิตเกล็ดเลือดให้ต่ำกว่าปกติ ซึ่งมาจากหลายสาเหตุด้วยกัน
จากกรณีที่คุณหมอฟันท่านหนึ่งได้โพสต์เฟซบุ๊กถึงคนไข้ที่มาถอนฟัน แต่สังเกตเห็นว่าบริเวณแขนขาของคนไข้มีรอยจ้ำเลือดขึ้นผิดปกติ จึงได้ส่งตรวจเลือดแล้วพบว่ามีภาวะเกล็ดเลือดต่ำ ซึ่งเป็นอันตรายมาก หากมีการถอนฟันอาจทำให้เลือดไหลไม่หยุดได้
ด้วยเหตุนี้จึงทำให้หลายคนเกิดความสนใจและสงสัยว่าภาวะเกล็ดเลือดต่ำ เกิดจากอะไร มีอาการเตือนไหม และอันตรายหรือไม่
ภาวะเกล็ดเลือดต่ำ เกิดจากอะไร
ปกติแล้วมนุษย์จะมีเกล็ดเลือดอยู่ประมาณ 150,000-450,000 เซลล์ต่อปริมาณเลือด 1 ลูกบาศก์มิลลิเมตร หรือ ไมโครลิตร ซึ่งถูกสร้างขึ้นจากเซลล์ต้นกำเนิดที่อยู่ภายในไขกระดูกที่ทำหน้าที่เหมือนเป็นโรงงานสร้างเม็ดเลือดทุกชนิด
ในกรณีที่เกล็ดเลือดต่ำ คือ มีระดับเกล็ดเลือดน้อยกว่า 150,000 เซลล์/ไมโครลิตร ร่างกายอาจไม่แสดงอาการได้ แต่ถ้าหากมีภาวะเกล็ดเลือดต่ำกว่า 30,000 เซลล์ต่อไมโครลิตร จะก่อให้เกิดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดเลือดออกได้เอง โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีอุบัติเหตุ หรือการกระทบกระแทกมาก่อนได้เลย
ภาวะเกล็ดเลือดต่ำ เกิดจาก 3 สาเหตุหลัก ได้แก่
- ไขกระดูกสร้างเกล็ดเลือดได้น้อยลง
- การที่เกล็ดเลือดถูกทำลายมากกว่าปกติ เช่น ภาวะที่ร่างกายสร้างแอนติบอดี้ต่อเกล็ดเลือด ทำให้เกล็ดเลือดโดนทำลายมากขึ้น
- เกิดจากกรณีที่คนไข้มีภาวะโรคตับ ทำให้มีม้ามโต เกล็ดเลือดส่วนหนึ่งจึงเข้าไปอยู่ในม้าม เมื่อเจาะเลือดจะพบว่ามีระดับเกล็ดเลือดต่ำลงได้
ภาวะเกล็ดเลือดต่ำ มีอาการอย่างไร
หน้าที่ของเกล็ดเลือดคือช่วยในการแข็งตัวของเลือดในกระบวนการห้ามเลือดของร่างกาย หากร่างกายมีภาวะเกล็ดเลือดต่ำ หรือมีการทำลายเกล็ดเลือดเพิ่มกว่าปกติ จะมีอาการดังต่อไปนี้
...
- มีเลือดออกตามผิวหนัง เป็นจุดเล็กๆ แดงๆ
- มีอาการเลือดออกตามไรฟัน
- มีเลือดกำเดาออก
- มีรอยช้ำจ้ำตามแขนขา เหมือนได้รับการกระแทกมาแล้วช้ำ แต่จริงๆ แล้วไม่ได้กระแทกอะไร กล่าวคือเมื่อกระแทกอะไรนิดหนึ่งก็เป็นรอยช้ำ

ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล เผยว่า ที่ผ่านมาพบผู้ป่วยภาวะเกล็ดเลือดต่ำประมาณ 2-4 คนต่อประชากร 100,000 คน สาเหตุส่วนใหญ่มาจากภูมิคุ้มกันในร่างกายทำงานผิดปกติ ซึ่งมีรายงานว่าพบผู้ป่วยภาวะเกล็ดเลือดต่ำอย่างต่อเนื่อง แต่มีจำนวนไม่มากเมื่อเทียบกับโรคอื่นๆ
อย่างไรก็ตาม หากตรวจพบว่ามีปริมาณเกล็ดเลือดต่ำกว่า 30,000 เซลล์ต่อไมโครลิตร หรือถ้าต่ำกว่า 10,000 เซลล์ ก็จะอันตรายมาก เพราะอาจมีเลือดออกตามอวัยวะต่างๆ เช่น เลือดออกในสมอง เลือดออกในลำไส้ ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที คนไข้ก็จะมีอันตรายถึงชีวิตได้
ดังนั้นหากพบว่าตนเองมีอาการคล้ายกับภาวะเกล็ดเลือดต่ำ ควรรีบเข้ามาพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและทำการรักษาต่อไป
ข้อมูลอ้างอิง: สมาคมโลหิตวิทยาแห่งประเทศไทย, คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล, โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ สภากาชาดไทย