เชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่คงเคยได้ยินกันว่ามหาวิทยาลัยระดับท็อปของประเทศหรือมหาวิทยาลัยที่ดีสุดในไทย นั้นมีที่ไหนบ้าง รวมถึงเด็กๆ ชั้นมัธยมที่มีชื่อมหาวิทยาลัยในฝันกันอยู่แล้วว่าอยากเข้าเรียนต่อที่ไหน แต่เคยมีใครสงสัยหรือไม่ว่าลิสต์จัดอันดับมหาวิทยาลัยที่พูดถึงกันในแต่ละปีนั้นมาจากที่ไหน ได้รับการจัดอันดับโดยใคร วันนี้ ENCONCEPT จะพาไปเจาะลึกกับองค์กรจัดอันดับการศึกษา หรือที่เรียกกันว่าระบบ QS World University Rankings หนึ่งในระบบที่น่าเชื่อถือระดับต้นๆ ของโลก ว่าคือใคร มีความน่าเชื่อถืออย่างไร รวมไปถึงมีเกณฑ์วัดผลอะไรบ้าง

QS World University Rankings คืออะไร

QS World University Rankings คือการจัดอันดับประจำปีของมหาวิทยาลัยทั่วโลก จัดทำโดย Quacquarelli Symonds (QS) ซึ่งเป็นบริษัทสัญชาติอังกฤษที่เชี่ยวชาญด้านการศึกษาและการศึกษาในต่างประเทศ เป็นหนึ่งในระบบการจัดอันดับมหาวิทยาลัยที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางและมีอิทธิพลมากที่สุดในโลก QS มีการเผยแพร่การจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลกทุกปี ได้รับการยอมรับและมีอิทธิพลอย่างกว้างขวางในชุมชนวิชาการและสถาบันอื่นๆ ด้วยเช่นกัน

การจัดอันดับมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุด วัดจากเกณฑ์อะไรบ้าง

เนื่องจากเกณฑ์วัดผลหรือตัวบ่งชี้จากทาง QS World University Rankings เองนั้นก็อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เรื่อยๆ ดังนั้น อาจจะต้องมีการตรวจสอบหรืออัปเดตข้อมูลกันปีต่อปี โดยในบทความนี้เราจึงอยากแชร์เกณฑ์วัดผลหลักๆ ที่ใช้ในการจัดอันดับมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุด รวมถึงการจัดอันดับมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในไทยด้วย โดยวัดจาก 5 ตัวชี้วัด ดังต่อไปนี้

1. Academic Reputation ชื่อเสียงทางด้านวิชาการ

ตัวชี้วัดด้านชื่อเสียงทางวิชาการ คิดเป็น 40% โดยอิงจากการสำรวจนักวิชาการทั่วโลกและประเมินชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยในด้านคุณภาพการสอนและการวิจัย ปริมาณและคุณภาพของงานวิจัยรวมถึงสิ่งพิมพ์ สิทธิบัตร และผลงานทางวิชาการอื่นๆ ที่ผลิตโดยมหาวิทยาลัยนั้น

2. Employer Reputation การยอมรับจากนายจ้าง

ตัวชี้วัดด้านการยอมรับจากผู้ว่าจ้าง คิดเป็น 10% อีกหนึ่งตัวชี้วัดมหาวิทยาลัยในหมู่นายจ้างและองค์กรธุรกิจต่างๆ โดยชี้ถึงความสามารถในการผลิตบัณฑิตที่มีคุณภาพออกสู่ตลาดแรงงานได้มากน้อยแค่ไหนนั่นเอง

3. Student to Faculty Ratio สัดส่วนอาจารย์ต่อนักศึกษา

ตัวชี้วัดด้านสัดส่วนอาจารย์ต่อนักศึกษาคิดเป็น 20% อาจารย์หนึ่งท่านต่อปริมาณนักศึกษาที่ลงทะเบียนเรียน ซึ่งไม่ควรมากเกินไปเพื่อให้สามารถดูแลได้อย่างทั่วถึง และสามารถสอนหรือถ่ายทอดความรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า

4. Citations Per Faculty การอ้างอิงผลงานทางวิชาการ

ตัวชี้วัดด้านการอ้างอิงผลงานทางวิชาการ คิดเป็น 20% จะเป็นผลงานวิชาการต่างๆ ของอาจารย์และนักศึกษาในมหาวิทยาลัย ซึ่งการตีพิมพ์งานวิจัยหรือวารสารต่างๆ นั้นเป็นเครื่องการันตีว่าสามารถนำความรู้ไปต่อยอดทำงานวิจัยได้

5. International Faculty Ratio & International Student Ratio สัดส่วนอาจารย์และนักศึกษาต่างชาติ

ตัวชี้วัดด้านสัดส่วนอาจารย์และนักศึกษาต่างชาติ คิดเป็นอีก 10% วัดความเป็นสากลของตัวมหาวิทยาลัยจากการที่มีสัดส่วนอาจารย์ชาวต่างชาติที่เข้ามามีส่วนร่วมในสถาบัน ซึ่งจะบ่งชี้ถึงความหลากหลายและความเชี่ยวชาญระดับโลก นอกจากนี้ อัตราส่วนของนักศึกษาต่างชาติที่เข้ามาลงทะเบียนเรียนยังบ่งบอกถึงคุณภาพและความเป็นสากลได้เป็นอย่างดี

ที่นี้ก็คงเข้าใจกันแล้ว ว่าเมื่อเราพูดถึงบรรดามหาวิทยาลัยชั้นนำว่าเป็นอันดับท็อปของโลก รวมถึงมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในไทยนั้นมีที่มาที่ไปหรืออ้างอิงมาจากอะไร หวังว่าจะหายสงสัยกันไม่มากก็น้อย ส่วนใครที่อยากรู้ว่ามหา'ลัยที่ดีสุดในไทยมีที่ไหนบ้าง สามารถเข้าไปดู 10 รายชื่อมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในไทย เรียบเรียงข้อมูลโดย ENCONCEPT โรงเรียนสอนภาษาอังกฤษที่คอยอยู่เคียงข้างเด็กไทยและน้องๆ วัยเรียนมามากกว่า 27 ปี พร้อมดูแลทุกคนให้เข้าเส้นชัยและได้เรียนมหาวิทยาลัยในฝัน มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดสำหรับทุกคนอย่างแน่นอน

สนใจเรียนภาษาอังกฤษกับ ENCONCEPT
โทร. 080-434-3838
Line: @ENCONCEPT
Website: ENCONCEPT E-ACADEMY