พฤติกรรมการจีบ การออกเดตของวัยรุ่นกลุ่ม Gen Z ที่เปลี่ยนไปจากสมัยก่อน และมักจะมีบทพิสูจน์ใหม่ๆ ในการเข้าหากันอยู่เสมอ โดยเน้นด้านสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดี ใช้ความจริงใจมาก่อนลำดับแรก ก่อนเริ่มดูใจ

กลุ่มคน Gen Z ถูกมองว่าเป็นกลุ่มคนที่กำลังมีบทบาทสำคัญกับสังคม วัฒนธรรม และการใช้ชีวิตของคนในยุคใหม่หลังจากนี้ เพราะกลุ่มคน Gen Z มีความคิดนอกกรอบ และมักจะฉีกกฎเกณฑ์เดิม นำเสนอแนวทางและรูปแบบใหม่ ที่ไม่มีคนรุ่นใดทำมาก่อน ทั้งในเรื่องของการเข้าสังคม หรือความรักก็เช่นกัน

เฟย์ ไอโอโซทาลูโน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Tinder กล่าวว่า คน Gen Z นี้ กำลังทำให้วิธีการเลือกเดตเปลี่ยนไป เน้นความจริงใจ สบายใจ ไม่ซับซ้อน ในการออกเดต ซึ่งเปลี่ยนแปลงไปจากแต่ก่อนมากที่สุดเท่าที่เคยพบมา

รายงานอนาคตของการเดต 2023 (Future of Dating Report 2023) เผย หัวข้อ “ยุคทองของการออกเดต ที่เน้นความเป็นตัวตนที่แท้จริง” เป็นรายงานที่จัดทำขึ้นครั้งที่ 2 โดยฉบับแรกเปิดตัวในปี 2564 เป็นการเปิดเผยวิเคราะห์ถึงเทรนด์ใหม่ในการเดตที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 และหลังจากทุกอย่างกลับมาสู่ภาวะปกติในช่วงปีที่ผ่านมา สามารถรายงานสรุปได้ 3 หัวข้อ ดังนี้ 

ภาพ : istock
ภาพ : istock

...

รักในการเป็นตัวของตัวเองอย่างแท้จริง 

คน Gen Z เชื่อว่าการเป็นตัวของตัวเองเป็นเรื่องสำคัญที่สุดเมื่อต้องออกเดต สิ่งนี้ทำให้เกิดการเปิดใจ รวมทั้งทั้งสองต้องนึกถึงสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดี รวมถึงต้องมีความซื่อสัตย์ และให้เกียรติซึ่งกันและกัน

  •  80% ยอมรับว่าการดูแลตัวเองสำคัญที่สุดเมื่อต้องออกเดต 
  •  79% ต้องการให้คู่เดตให้ความสำคัญกับการดูแลตัวเองเช่นเดียวกัน 
  •  75% ของคน Gen Z บอกว่าคู่แมตช์ จะยิ่งดูมีเสน่ห์ดึงดูดใจมากขึ้น หากมีสุขภาพจิตที่ดี

นอกจากนี้ Gen Z ให้ความสำคัญกับเรื่องความซื่อสัตย์ต่อตัวเอง 79%, การให้เกียรติกัน 78%, และการเปิดใจ 61% มากกว่าจะมองแค่เพียงรูปลักษณ์ภายนอกที่มีเพียง 56% เท่านั้น ด้วยทัศนคติที่ว่า “ชอบก็ดี ไม่ชอบก็ไป” ซึ่งหมายความว่าพร้อมที่จะเดินจากไป ถ้านั่นคือการแสดงออกที่มีความซื่อสัตย์ต่อตัวเอง และความตรงไปตรงมาที่เป็นจุดเด่นของกลุ่มคน Gen Z ทำให้ปฏิเสธกันได้ง่ายขึ้น และไม่ยืดเยื้อ

ภาพ : istock
ภาพ : istock

คนทุกกลุ่มเท่าเทียมกันอย่างไร้ข้อจำกัด 

กลุ่ม Gen Z สามารถยอมรับและเข้าใจในมุมมองต่อเรื่องเพศวิถี เพศสภาพ เชื้อชาติ วัฒนธรรม และข้อจำกัดเรื่องระยะทาง รวมถึงความสัมพันธ์แบบมีคู่หลายคน ความสัมพันธ์แบบมีคู่คนเดียว และความสัมพันธ์รูปแบบใหม่อย่าง ‘คนคุย’ ที่ต่างคนต่างมีเหตุผลในตัวเอง 

นอกจากนั้น ยังถือว่าบุคลิกของแต่ละคนนั้น คือ สิ่งสำคัญที่สุด สมาชิกที่ตอบแบบสอบถามกว่า 80% เผยว่า เคยออกเดตกับชาวต่างชาติมาแล้ว และกว่าครึ่งเคยเปิดใจเดตกับคนที่มีความบกพร่องทางร่างกาย ออทิสติก หรือสมาธิสั้น ในขณะที่ 2 ใน 3 หรือ 66% ของวิจัยเห็นด้วยว่า แอปพลิเคชันหาคู่สามารถเปิดโอกาสให้ได้พบปะกับผู้คนนอกวงสังคม หรือคนที่ไม่มีโอกาสเจอในชีวิตประจำวัน ซึ่งเรื่องนี้มีความสำคัญอย่างมากกับสมาชิกที่เป็นชาว LGBTQIA+ เนื่องจากแอปพลิเคชันหาคู่นี้จะเป็นคอมมูนิตี้แรกๆ ที่ทำให้รู้สึกปลอดภัยในการเปิดตัว (Coming out) ก่อนที่จะกล้าบอกกับเพื่อนฝูงและคนในครอบครัวด้วยซ้ำ

ภาพ : istock
ภาพ : istock

...

เทคโนโลยีเข้ามีบทบาทสำคัญกับการหาคู่

เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญในการพบเจอกันในปัจจุบัน โดยคนส่วนใหญ่ที่อายุต่ำกว่า 30 ปี ใช้แอปพลิเคชันหาคู่ในการพบปะคนใหม่ๆ ซึ่งเผยว่า 55% เคยมีความสัมพันธ์ที่จริงจัง และ 37% รู้ว่าคนใกล้ตัวเคยมีความสัมพันธ์ในแบบเดียวกัน

Gen Z ที่โตมาในยุคดิจิทัล มีการคาดหวังว่าเทคโนโลยีจะต้องใช้งานง่าย และไม่ซับซ้อน โดยโลกดิจิทัลคือหัวใจหลัก การทำให้การจีบกันและการออกเดตเป็นเรื่องง่ายขึ้น สนุก และปลอดภัย ไม่ใช้แค่การคาดเดาว่าใครจะชอบหรือไม่เท่านั้น ซึ่งยังสามารถควบคุม พิสูจน์ และพิจารณาปัจจัยต่างๆ ของคู่ตนเองได้ทั้งหมดจากโปรไฟล์และการพูดคุย

คน Gen Z กล่าวว่า แม้ว่าจะตื่นเต้นกับการนำ AI มาช่วยในการจับคู่ แต่ก็อาจใช้ไม่ได้ในความเป็นจริงทั้งหมด เพราะโปรไฟล์ที่ถูกกรอกแบบอัตโนมัติในแอปพลิเคชันต่างๆ จะไม่มีความถูกต้อง และมีความผิดพลาดได้ ทำให้ไม่น่าสนใจเท่าที่ควร แต่ก็ยังเป็นเรื่องที่ดีในการได้รู้จักไลฟ์สไตล์ แม้จะถูกต้องหรือไม่ถูกต้องในข้อมูลก็ตาม ก็สามารถช่วยให้สร้างบทสนทนา เพื่อทำลายกำแพงความอึดอัดที่มีต่อกัน

จากบทสรุปทั้ง 3 ข้อนี้ พอล บรูนสัน ผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์เชิงลึกของ Tinder สรุปได้ว่า : การออกเดตของคน Gen Z ชอบให้ความสำคัญกับการสร้างความสัมพันธ์กันอย่างจริงจัง โดยชื่นชอบความกล้าแสดงออกถึงตัวตนของตนเองเป็นอย่างมาก ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา ทำให้ ‘เวลา’ เป็นสิ่งที่มีค่า 

การเดตลองใจ หรือหยั่งเชิงในแบบเดิมๆ ไม่ใช่รูปแบบการเดตของ Gen Z อย่างแน่นอน เพราะจากรายงานฉบับใหม่นี้ พบว่า

  • 32% ของ Gen Z มีแนวโน้มที่จะเทอีกฝ่ายน้อยกว่าคนที่มีอายุมากกว่า 33 ปี ขึ้นไป 
  • 77% ของผู้ใช้แอปพลิเคชันหาคู่นั้น ตัดสินใจตอบกลับคนที่โดนใจภายใน 30 นาที 
  • 40% เลือกตอบกลับภายใน 5 นาที และกว่า 3 ใน 4 เลือกตอบกลับในทันที ซึ่งทำให้เห็นถึงความแตกต่างอย่างชัดเจน เมื่อเทียบกับการเดตเมื่อ 10 ปีที่แล้วของคนยุคมิลเลนเนียลที่ 3 ใน 4 หรือประมาณ
  • 73% ยอมรับว่าในยุคที่ออกเดตนั้น การเล่นตัว แสดงออกแบบคลุมเครือ หรือการหว่านเสน่ห์นั้นเป็นเรื่องปกติ

...

ส่วนเรื่องแต่งงานไม่ได้เป็นเรื่องที่มีความสำคัญในลำดับต้นๆ ของคน Gen Z แต่อย่างไรก็ตาม พอล บรูนสัน เสริมว่า คน Gen Z จะประสบความสำเร็จในการแต่งงานมากที่สุด เพราะ Gen Z ให้ความสำคัญกับการมีสุขภาพจิตอารมณ์ที่ดี และมีการสื่อสารที่ชัดเจนกันตั้งแต่ต้น

พอล บรูนสัน กล่าวเสริม สำหรับสมาชิก LGBTQIA+ บน Tinder หรือแอปพลิเคชันหาคู่อื่นๆ เป็นกลุ่มที่มีการเติบโตเร็วที่สุด และมีกลุ่มที่ไม่ระบุอัตลักษณ์ทางเพศ (non-binary) เพิ่มมากที่สุด โดยในแอปพลิเคชัน Tinder มีจำนวนถึง 104% ในปีที่ผ่านมา

เชื่อว่าการที่คน Gen Z ยอมรับความแตกต่างและแนวทางที่ครอบคลุมคนทุกกลุ่ม ทั้งเรื่องเพศสภาพและเพศวิถีนี้ เป็นแรงผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในยุคสมัยใหม่ คนนิวเจนกำลังปูทางให้กับคนรุ่นต่อไปในอนาคต ให้กล้าที่จะยอมรับตัวตนที่แท้จริง และใช้ชีวิตของตัวเองให้มีคุณภาพที่ดีที่สุด.

ข้อมูล : Future of Dating Report 2023