นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่วงดนตรีร็อกจากอังกฤษ "The 1975" มาทัวร์คอนเสิร์ตในประเทศไทย เพราะหากนับครั้งล่าสุดใน The 1975 Live In Bangkok 2023 ที่เพิ่งจัดแสดงไป ณ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี ก็ถือว่าพวกเขาได้เดินทางมาเล่นคอนเสิร์ตในไทยแล้วถึง 3 ครั้งด้วยกัน ไลฟ์สไตล์ไทยรัฐออนไลน์ ได้เก็บภาพและบรรยากาศของวันคอนเสิร์ตครั้งล่าสุดมาฝากกัน
รีวิวคอนเสิร์ต The 1975 Live In Bangkok 2023 คอนเซปต์โรงละครเวที กับตัวตนหลอนๆ ในโลกดนตรี
นับตั้งแต่ "The 1975" วงดนตรีจากอังกฤษ นำโดยฟรอนต์แมน แมตตี้ ฮีลีย์ (Matty Healy) เริ่มปล่อยอัลบั้มเดบิวต์ครั้งแรกในชื่อเดียวกับชื่อวงเมื่อปี 2013 ถือเป็นจุดเริ่มต้นแจ้งเกิดให้พวกเขา จากเพลงฮิต "Robbers" และได้เดินทางมาทัวร์คอนเสิร์ตในประเทศไทยครั้งแรกเมื่อปี 2015 การมาแสดงในไทยตอนนั้นพวกเขาเล่นในสถานที่ความจุผู้ชมไม่กี่พันคน
แต่เมื่อปล่อยอัลบั้มชุดที่ 2 ซึ่งใช้ชื่อว่า I Like It When You Sleep, for You Are So Beautiful yet So Unaware of It (2016) และอัลบั้มชุดที่ 3 อย่าง A Brief Inquiry into Online Relationships (2018) เรียกได้ว่าเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ชื่อของ The 1975 เป็นที่รู้จักในฐานะวงดนตรีที่ประสบความสำเร็จ การเดินทางมาทัวร์คอนเสิร์ตในไทยครั้งที่ 2 เมื่อปี 2019 ต้องเพิ่มรอบการแสดงถึง 2 วัน
...
สำหรับการกลับมาครั้งที่ 3 ในชื่อ "The 1975 live in Bangkok 2023" บัตรคอนเสิร์ตขายหมดเกลี้ยง ตอกย้ำการรอคอยของแฟนๆ จำนวนมาก ในช่วงเวลา 4 ปี ที่ห่างหายไปจากการทัวร์ในไทย ทางวง The 1975 มีผลงานอัลบั้มใหม่อีก 2 ชุดด้วยกัน ได้แก่ Notes on a Conditional Form (2020) และ Being Funny in a Foreign Language (2022)
ทั้งนี้ ระหว่างการทัวร์คอนเสิร์ตโปรโมตอัลบั้มชุดใหม่ก่อนจะมาแสดงในไทย ปฏิเสธไม่ได้ว่า The 1975 ถูกตั้งคำถามถึงหลายดราม่าที่เกิดขึ้น รวมถึงการพฤติกรรมบางอย่างของนักร้องนำอย่างแมตตี้ ฮีลีย์ ที่แสดงออกบนเวทีในโซนยุโรป จึงยิ่งทำให้คอนเสิร์ตครั้งนี้ของ The 1975 ในประเทศไทย ถูกจับตามองเป็นพิเศษจากแฟนๆ หลายกลุ่ม ทั้งในเรื่องของโชว์ความสามารถทางดนตรี และท่าทีการเคลื่อนไหวต่างๆ ที่อาจสร้างเซอร์ไพรส์ได้
แน่นอนว่าเมื่อบัตรคอนเสิร์ตขายหมดเกลี้ยง จึงทำให้บรรยากาศของแฟนๆ ที่มารอชมคอนเสิร์ตในครั้งนี้คึกคักเป็นพิเศษ เนืองแน่นไปด้วยผู้ชมหลายวันที่ยืนต่อคิวซื้อสินค้าที่ระลึกของวง รวมถึงทยอยเดินเข้าไปสู่ฮอลล์การแสดงของอิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี การแสดงของวง The 1975 ระบุเวลา 21.15 น. เมื่อถึงเวลาดังกล่าว ไฟทั้งฮอลล์ก็ดับลงตรงเวลา พร้อมกับหน้าจอ LED ขนาดใหญ่ที่เผยให้เห็นภาพหลังเวทีขณะที่ แมตตี้ และสมาชิกวงคนอื่นๆ กำลังเตรียมตัวเดินขึ้นเวที ท่ามกล่างเสียงเชียร์สนั่นของแฟนๆ มากกว่าหมื่นคน
การทัวร์ในครั้งนี้พวกเขาใช้ชื่อว่า The 1975 's At Your Best โดยได้ Tobias Rylander ที่เคยร่วมงานกับ The 1975 ในอัลบั้มที่ผ่านมา มารับหน้าที่ออกแบบเวทีในคอนเซปต์โรงละคร มีฉากห้องนั่งเล่นในบ้านอยู่บนเวที มีนักดนตรียืนเรียงรายอยู่บนนั้น โดยมี แมตตี้ นักร้องนำเปรียบเสมือนนักแสดงหลักบนเวทีร็อก ภาพที่ขึ้นจอ LED จะเป็นภาพขาวดำที่ได้รับแรงบันดาลใจจากภาพยนตร์ยุค 80 แต่ก็แอบเสียดายที่โชว์ในไทยมีการย่อสเกลฉาก ไม่ได้จัดเต็มเหมือนในโซนยุโรป
เบื้องหลังของแนวคิดทัวร์คอนเสิร์ตในครั้งนี้ ศิลปินจึงเปรียบเป็นตัวแทนของทุกคนที่ไม่ว่าพวกเขาจะมีบทบาทใดในโลกภายนอก แต่เมื่อกลับมาถึงห้องส่วนตัวก็จะมีเวลาเป็นของตัวเอง ได้ทำเรื่องบ้าๆ เพี้ยนๆ เหมือนอย่างที่ แมตตี้ กลายเป็นภาพสะท้อนของภาพพฤติกรรมประหลาดบนเวที นี่คือคอนเซปต์เบื้องหลังการทัวร์ที่สมาชิก The 1975 เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อดนตรีอย่าง Rolling Stone
พวกเขายังเผยว่าแฟนเพลงของ The 1975 จะชื่นชอบเพลงที่มีเนื้อหาคลุมเครือ ไม่จำเป็นต้องตีความให้ชัดเจนว่าแต่ละเพลงสื่อถึงอะไรบ้าง เช่นเดียวกับการทัวร์ครั้งนี้ที่พวกเขาเข้มวงดกับการจัดเซ็ทลิสต์น้อยกว่าครั้งก่อนๆ เพราะในแต่ละโชว์เซ็ทลิสต์อาจไม่เหมือนกัน บางครั้งนึกอยากหยิบเพลงเก่าๆ ที่ไม่ได้เล่นนานแล้วมาร้องก็ย่อมเกิดขึ้นได้ เช่นเดียวกับรายชื่อเพลงที่แสดงในประเทศไทย ไม่ได้เรียงลำดับเซ็ทลิสต์เหมือนก่อนหน้านั้น จึงทำให้ผู้ชมไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าเพลงต่อไป The 1975 จะสร้างเซอร์ไพรส์ด้วยเพลงใดบ้าง
...
สำหรับคลังเพลงที่นำมาเล่นในคอนเสิร์ตได้มีการเลือกเพลงใหม่จากอัลบั้มชุดล่าสุด เริ่มตั้งแต่ "Looking for Somebody (to Love)" รวมถึงเพลงจากอัลบั้มเก่าๆ มาจัดส่วนส่วนอย่างพอดี เอาใจแฟนเพลงหลายยุค สลับทั้งเพลงเร็วจังหวะสนุกสนานและเพลงช้าบัลลาดครบทุกอารมณ์ สังเกตได้ว่า The 1975 ได้มีการนำเครื่องดนตรีที่หลากหลายมาเล่นมากขึ้น เช่น แซ็กโซโฟน คีย์บอร์ดไฟฟ้า และเครื่องเพอร์คัชชัน ที่ทำให้ดนตรีมีมิติมากยิ่งขึ้น โดยพยายามลดการใช้ซินธิไซเซอร์ให้มากที่สุด
นอกจากนี้ สังเกตได้ว่าวงดนตรีเมื่อมาทัวร์โซนเอเชีย ก็มักจะระมัดระวังการแสดงออกหลายๆ อย่าง เนื่องด้วยเหตุผลทางวัฒนธรรม ทำให้เราไม่ได้เห็นการแสดงออกของแมตตี้ที่เรียกเสียงฮือฮาเหมือนอย่างที่เขาทำในการทัวร์โซนยุโรป แม้จะมีแฟนเพลงชูป้ายขอจูบเป็นของขวัญวันเกิด แต่แมตตี้ก็ปฏิเสธและบอกว่าไม่สามารถให้ได้ ซึ่งก่อนนี้เขาเคยเลือกลัคกี้แฟนทั้งผู้หญิงและผู้ชายขึ้นไปจูบบนเวที กินเนื้อดิบโชว์ หรือหยิบโทรศัพท์ของแฟนเพลงคนหนึ่งไปบันทึกเบอร์ปริศนา ซึ่งไม่ใช่เบอร์ของเขา แต่เป็นเบอร์ของจิตแพทย์เก่งๆ คนหนึ่งที่เขาอยากแนะนำแฟนเพลง เป็นต้น
...
ในส่วนของเพลงช้าที่สร้างโมเมนต์ที่ดีในค่ำคืนนั้น ต้องยกให้ "About You", "Be My Mistake" และ "I Always Wanna Die (Sometimes)" ที่ผู้ชมร้องตามกันได้ทั้งฮอลล์ ตลอดจนเพลงฮิตจากอัลบั้มชุดแรกอย่าง "Robbers" ที่สร้างเซอร์ไพรส์อย่างมาก หลังจากมีแฟนเพลงวัยรุ่นคนหนึ่งชูป้ายขอขึ้นมาเล่นกีตาร์เพลงนี้ แมตตี้ถามย้ำว่า "นายเล่นเป็นจริงๆ ใช่ไหม?" ก่อนจะอนุญาตให้ขึ้นมาบนเวทีและเล่นกีตาร์เพลงนี้ร่วมกับวง
ในส่วนของการหยิบเพลงเก่าๆ ของอัลบั้มชุดแรกๆ อย่าง "A Change of Heart", "The Sound" และ "Sex" มาเล่น ก็ถือว่ายังรักษาความเดือดและเข้มข้นทางดนตรีไว้ได้เช่นเดิม แม้ว่าปกติแล้ววงดนตรีเมื่อทำเพลงไปเรื่อยๆ อาจมีการปรับเปลี่ยนแนวเพลงให้ซอฟต์ลง หรือมีความป๊อบมากขึ้น แต่สำหรับ The 1975 ยังคงสร้างบรรยากาศให้คิดถึงความทรงจำเก่าๆ ในสมัยผลงานชุดแรกๆ ของพวกเขาได้เป็นอย่างดี
...
ตลอดเกือบ 2 ชั่วโมงของการแสดงคอนเสิร์ต The 1975 Live In Bangkok 2023 เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว โดยส่วนตัวสิ่งที่สัมผัสได้ชัดเจนก็คือ การเติบโตทางดนตรีของพวกเขา สเกลการจัดคอนเสิร์ตที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ สำหรับการทัวร์คอนเสิร์ตในแต่ละครั้งก็เต็มไปด้วยโปรดักชันและลูกเล่นใหม่ๆ ให้คอยติดตาม เสมือนพวกเขาพยายามที่จะหากิมมิกใหม่มานำเสนอในทุกครั้งของการเดินสายทัวร์ จึงเป็นเรื่องที่น่าจับตามองต่อไปว่า "ตัวตนทางดนตรี" ของ The 1975 จะมุ่งหน้าไปทิศทางใดต่อไป...
รายชื่อเพลงที่เล่นในคอนเสิร์ต The 1975 Live In Bangkok 2023
1. Looking for Somebody (to Love)
2. The Ballad of Me and My Brain
3. Part of the Band
4. Oh Caroline
5. If You're Too Shy (Let Me Know)
6. I'm in Love With You
7. fallingforyou
8. Happiness
9. About You
10. It's Not Living (If It's Not With You)
11. An Encounter
12. Robbers
13. A Change of Heart
14. Be My Mistake
15. Somebody Else
16. Inside Your Mind
17. Love It If We Made It
18. I Always Wanna Die (Sometimes)
19. The Sound
20. Sex
21. Give Yourself a Try
สำหรับคอเพลงสากลที่ชื่นชอบอีเวนต์ดนตรีและคอนเสิร์ตต่างประเทศ สามารถติดตามอ่านความเคลื่อนไหวเพิ่มเติมได้ที่ ไทยรัฐออนไลน์ไลฟ์สไตล์
เรื่อง : Tatiya K.
ขอบคุณภาพ : Mangosteenfest
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง