“นาคบาศ” หรือ “ศรของอินทรชิต”... อานุภาพทำลายได้ทั้งสามโลก เป็นอาวุธที่พระพรหมประทานให้อินทรชิตและได้ทำพิธีชุบศร ภายหลังตกเป็นของพญานาคราชเป็นผู้ครอบครอง
เมื่อครั้ง “พรานบุญ” หยิบยืมไปก็ทำให้จับกินรีได้ นาคบาศ...จึงได้ชื่อว่าเป็นบ่วงเชือกที่แข็งแรงที่สุด กล่าวกันว่าขนาดพญาครุฑ เจ้าแห่งนกยังต้องกลัว
ถ้าเป็นเครื่องรางของขลัง “บ่วงนาคบาศ” ก็จัดว่าเป็น “เครื่องรางแห่งโชคลาภ...ป้องกันภัย” ผู้มีไว้ครอบครองต่างรู้ดีถึงประโยคที่ว่า “มีกิน...ไม่มีอด กินแบบงูกินหางกันต่างตัวก็ต่างกิน ยิ่งกินก็ยิ่งรัดเข้าหากัน พอชนกันก็คลายออก”
“กินไม่หมด” สั้นๆง่ายๆคือ...คำจำกัดความที่ใช้เรียกกัน
“นาคบาศ” ตำราโบราณครูบาอาจารย์ว่าไว้ สามารถชนะทุกอย่าง พูดง่ายๆก็คือ...“ชนะหมด” หรือจะนำมาใช้ทำน้ำมนต์เสริม ป้องกันภูตผี คุณไสยต่างๆรอบทิศรอบด้านได้ดีนักแลถือได้ว่า...เป็นเมตตามหานิยม ใครมีจะช่วยให้แคล้วคลาดปลอดภัย ค้าขายดี รุ่งเรือง มีกินมีใช้ไม่มีวันอด แถมยังพ่วงท้ายมาด้วยข้อเด่นเรื่องการเสี่ยงโชค มีเสน่ห์ต่อเพศตรงข้ามอีกต่างหาก
...
@@@@@@
“ถ้ำ” ประตูสู่เมืองบาดาล อาจารย์ชัยพร ศิริพรไพบูลย์ ผู้เชี่ยวชาญเรื่องถ้ำและนักธรณีวิทยาแถวหน้าเมืองไทย เล่าให้ฟังไว้ว่า คนในภาคอีสานของประเทศไทยรวมทั้งผู้คนในประเทศแถบลุ่มแม่น้ำโขง มักจะมีความเชื่อจากเรื่องเล่าขานที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน คือ...เรื่องที่เกี่ยวกับพญานาคและเมืองบาดาล
จากหนังสือเรื่องนาคในประวัติศาสตร์อุษาคเนย์ โดยอาจารย์สุจิตต์ วงษ์เทศ ท่านได้เขียนไว้ว่า คนพื้นเมืองแถบนี้ล้วนมีความผูกพันกับ... “นาค” และมีเรื่องราวของนาคที่เกี่ยวข้องกับศาสนา
สำหรับ “ประเทศไทย” นั้น มีเรื่องราวมากมายหลายตำนานที่เกี่ยวข้องกับพญานาค เช่น ตำนานการเกิดแม่น้ำโขง โดยการแข่งกันขุดแม่น้ำของพญานาค 2 ตนที่เป็นเพื่อนรักกันมาก แต่กลายมาเป็นศัตรูที่ต้องมาทำสงครามกันเพราะความเข้าใจผิดจากเรื่องเล็กๆน้อยๆ
นั่นก็คือ “พญาศรีสุทโธนาค” กับ “พญาสุวรรณนาค” ที่ครองเมืองที่หนองกระแส ซึ่งปัจจุบันมีความเชื่อกันว่าอยู่บริเวณใต้ทะเลสาบหนองหาน
หรือ...ล่าสุดที่เป็นข่าวดังตามสื่อต่างๆในปี 2563 ก็คือ เรื่องราวของ “ถ้ำนาคา” ในจังหวัดบึงกาฬ ซึ่งมีตำนานของปู่อือลือ ที่กล่าวถึงการเกิดบึงโขงหลงที่เชื่อกันว่าเกิดจากการล่มเมืองของพญานาค ซึ่งเกิดจากปฏิสัมพันธ์ที่ไม่ลงตัวของพญานาคกับมนุษย์ในเมืองนั้น จึงมีการลงโทษโดย สาปให้บริวารของตนที่ทำผิดจารีต
“สาป”... ให้กลายเป็น “หิน” สิงสถิตอยู่ในสถานที่ต่างๆทั่วเมืองบึงกาฬ ซึ่งรวมทั้งหินที่ดูคล้ายพญานาคในถ้ำนาคานั้นด้วยเช่นกัน
เมื่อพูดถึง “ถ้ำหินทราย” ในภาคอีสานแล้ว คนในท้องถิ่นมีความเชื่อที่ว่าถ้ำหลายแห่งในภาคอีสานนั้นคือ “ประตู” ที่จะนำพาเราไปสู่...“เมืองบาดาล” ซึ่งถ้ำส่วนใหญ่จะเป็นถ้ำหินทราย โดยเฉพาะในจังหวัดที่อยู่ริมแม่น้ำโขงและจะมีถ้ำจำนวนมากที่ถูกใช้เป็นสำนักสงฆ์หรือวัด อีกทั้งหลายแห่งได้เป็นสถานที่ที่พระสงฆ์นิยมมาฝึกสมาธิ...ปฏิบัติธรรมของบรรดาเกจิอาจารย์...อริยสงฆ์หลายรูป
จากการศึกษาของ อาจารย์ชัยพร ซึ่งเคยทำงานในภาคอีสานมาหลายปี ประกอบกับในระยะหลังได้มีโอกาสเข้าไปสำรวจถ้ำหินทรายหลายแห่งในภาคอีสานจนพบว่าบทบาทและความสำคัญของถ้ำหินทรายนั้นมีมากมายหลายด้าน นอกเหนือไปจากเป็นแหล่งโบราณคดีและศาสนาแล้ว...
...
ยังมีประโยชน์ต่อการศึกษาวิจัยในมิติใหม่ๆ ได้ เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลก การยกตัวของแผ่นดินและการเปลี่ยนแปลงลักษณะธรณีสัณฐาน เช่น การเกิดเสาเฉลียงบางแห่งซึ่งบริเวณนั้นเคยเป็นถ้ำมาก่อน หรือแม้แต่การเกิดหินถล่มที่หน้าผาบริเวณโขงเจียม จนเกิดเป็นแหล่งภาพเขียนสีที่เก่าแก่
@@@@@@
“นาคบาศ” สายทางเหนือล้านนา ถือว่าเป็นที่สุดแห่งเครื่องราง ถ้าเป็นรุ่นเก่าโบราณจะหายากมาก และเป็นที่นิยมอย่างมากด้วยเช่นกัน... ใครมีไว้ครอบครองบูชาด้วยความเคารพ ชีวิตจะร่มเย็นเป็นสุขเปรียบเสมือนมี “นาค”...มาอยู่ด้วย โดยมีความเชื่อกันว่า...เป็นของดีทางภาคเหนือตอนบนที่หายากที่สุด
มีผู้บันทึกไว้ถึงวิธีบูชาด้วยว่า ให้แช่ “นาคบาศ” ด้วยน้ำสะอาด บูชาด้วยดอกไม้สีขาว เอาไว้ต่ำกว่าหิ้งพระและในทุกวันพระก็ให้เปลี่ยนดอกไม้
อีกเรื่องราวเล่าขานเกี่ยวกับ “บ่วงนาคบาศ”... ขณะที่กำลังจะตรัสรู้ เมื่อครั้งที่พระพุทธองค์เผชิญกับพญามาร ได้มี “พญานาค” เข้ามาช่วยขัดขวางเหล่าพญามารไว้ ด้วยการขดเป็นวงเหมือนห่วงนาคบาศ ในความเชื่อแต่โบราณที่เล่าสืบต่อๆกันมาก็คือ...“บ่วงนาคบาศจะช่วยปกป้องคุ้มครองภัยทั้งหลาย ซึ่งสมัยก่อนน่าจะหมายถึงภัยพิบัติที่เกิดขึ้น”
...
ความเชื่อถือ ความศรัทธาทั้งหมดทั้งมวลเหล่านี้ถูกผสมผสานรวมเข้าไว้ด้วยกัน ทำให้เชื่อกันว่า หากผู้ใดมีบ่วงนาคบาศไว้ในครอบครอง อาจมีเหตุอัศจรรย์ใจ ได้พบเจอปรากฏการณ์ที่เกี่ยวพันกับเหล่าพญานาคที่สถิตอยู่หนึ่งในผู้เลื่อมใสศรัทธาบูชาติดตัว บอกไว้อย่างมั่นเหมาะเสมือนคำยืนยัน...เชื่อไม่เชื่อก็อย่าได้ลบหลู่ ส่วนตัวแล้ว “บูชาแล้ว...ขออะไรก็ได้ ทำมาหากินไม่มีอดมีแต่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ” ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ
เรื่องราวของ “พญานาค”...เป็นเรื่องที่คุ้นชิน ตามความเชื่อของผู้คนในแถบลุ่มน้ำโขงมานานแล้ว จนเกิดมีตำนานหรือเรื่องเล่าอันเก่าแก่ที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน ไม่ว่า...จะเป็นตำนานการเกิดแม่น้ำโขง ที่มีตำนานของเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดของสองพญานาคและพญาแถน
อีกทั้ง...เรื่องราวบางเรื่อง พลังบางอย่างที่หลายๆคนสัมผัสได้...เป็นเรื่องที่ยากจะอธิบายให้คนอื่นเข้าใจ รับรู้ได้เหมือนๆกัน บางคนก็ว่า... เป็นผลมาจากสัมผัสการรับรู้เหนือธรรมชาติ การฝึกปฏิบัติในญาณสมาธิ ฯลฯ บางคนก็ว่า...เป็นประสบการณ์เกิดขึ้นเอง ไม่สามารถที่จะหาเหตุผลอื่นใดมาอธิบายได้จริงๆ
...
“ศรัทธา”...นำมาซึ่งปาฏิหาริย์? เชื่อไม่เชื่อโปรดอย่าได้...“ลบหลู่”.
รัก-ยม