“พรุ่งนี้ต้องทำงาน” ประโยคสุดหลอนที่ทุกคนต้องเจอหลังหยุดยาวช่วงเทศกาลไปหลายวัน การต้องกลับมาทำงานจึงเป็นเรื่องเศร้าที่เลี่ยงไม่ได้ เรามีวิธีฟื้นฟูจิตใจให้กลับมาคึกคักรับวันทำงานมาฝาก
หลังจากได้หยุดพักผ่อนช่วงเทศกาลไปหลายวัน โดยเฉพาะเทศกาลปีใหม่ สงกรานต์ การต้องกลับมาทำงานในวันรุ่งขึ้นอาจทำให้หลายคนเกิดภาวะหดหู่หลังหยุดยาว หรือ Post-holiday blues ขึ้น เนื่องจากรู้สึกว่ายังพักผ่อนไม่เต็มที่ ทำให้เกิดความเครียดเมื่อต้องนึกถึงภาระหน้าที่การงานและบรรยากาศในที่ทำงานที่จะต้องเจอในวันพรุ่งนี้ โดยมักจะแสดงออกผ่านอาการต่างๆ ต่อไปนี้
- รู้สึกไม่สดชื่น อาจมีปวดหัว ปวดเมื่อยตามตัว
- มีความกังวลเรื่องทุกอย่างจนเกินเหตุ
- เหนื่อยง่าย พักผ่อนเท่าไรก็ไม่พอ รู้สึกหลับไม่อิ่ม
- การจดจ่อกับสิ่งต่างๆ ไม่ค่อยดี ไม่ค่อยมีสมาธิ
- หงุดหงิดง่าย
- บางคนอาจรู้สึกจมดิ่งไปกับอารมณ์เศร้าหมอง จนรู้สึกว่าชีวิตตนเองช่างน่าเบื่อและหดหู่
อาการเหล่านี้มักเกิดขึ้นช่วงสั้นๆ ตั้งแต่ 2-3 วัน ไปจนถึง 3 สัปดาห์ หลังจากนั้นอาการหดหู่เหล่านี้ก็จะหายไปเอง ส่วนคนที่มีแนวโน้มเกิดอาการดังกล่าว คือคนที่มีความกดดัน หรือความเครียดในแต่ละวันสะสมอยู่ก่อนแล้ว คนที่มีความไม่มั่นคงทางอารมณ์สูง รวมถึงคนที่มีประสบการณ์วันหยุดพักผ่อนที่แตกต่างจากการใช้ชีวิตประจำวันปกติมากๆ เช่น ไปเที่ยวต่างประเทศ หรือต่างจังหวัดในช่วงหยุดยาว
วิธีฟื้นฟูจิตใจหลังหยุดยาว
สำหรับคนที่อยากลดภาวะหดหู่หลังหยุดยาว (Post-holiday blues) สมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทยได้แนะแนวทางไว้ดังนี้
...
- วางแผนชีวิตล่วงหน้า เพื่อลดความสับสนและความกังวลใจ ถึงภารกิจที่ต้องทําหลังจากกลับมารับผิดชอบต่อจนสิ้นปี
- บันทึกสิ่งที่อยากเปลี่ยนแปลง เพื่อให้ชีวิตมีเป้าหมายมากขึ้น อาจปรับจากเป้าหมายที่ตั้งไว้ในช่วงปีใหม่ก็ได้เช่นกัน
- พูดคุยกับคนรอบข้าง ถึงความสุขที่ผ่านมาในช่วงวันหยุด หรือ ความกังวลใจที่จะต้องกลับมาทํางาน
- ไม่เทียบตัวเองกับคนอื่น เพราะแต่ละคนมีกิจกรรมและความชอบที่แตกต่างกัน ความสุขจึงเป็นสิ่งที่นํามาเปรียบเทียบกันไม่ได้ และ
- หาความตื่นเต้นใหม่ๆ เสมอ เช่น การเรียนรู้สิ่งที่ไม่เคยเรียนมาก่อน ทํากิจกรรมที่สนุกและตื่นเต้น หรือวางแผนการเดินทางครั้งถัดไป เพื่อให้ชีวิตมีสีสัน และสภาพจิตใจพร้อมรับมือกับทุกปัญหาในอนาคต
ดังนั้นใครที่กำลังมีภาวะหดหู่หลังหยุดยาว ลองนำวิธีเหล่านี้ไปใช้เพื่อช่วยฟื้นฟูจิตใจของตนเองให้กลับมาสดใสเพื่อรับมือกับการทำงานที่เรารัก หรืออาจลองคิดง่ายๆ โดยตั้งเป้าหมายว่ามาทำงานเก็บเงินเพื่อไปเที่ยวที่ที่อยากไป อยากกินของที่ชอบ ช็อปปิ้งของที่อยากได้ จะได้มีกำลังใจและแรงฮึดในการทำงานมากขึ้นอีกทางหนึ่ง.
ข้อมูลอ้างอิง: สมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย, กรมสุขภาพจิต