ชั้นวางของ เป็นหนึ่งในเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้สำหรับออกแบบตกแต่งภายใน ไม่ว่าจะเป็นภายในบ้าน หอพัก คอนโดฯ หรือสำนักงาน ชั้นวางของจึงมีให้เลือกหลายแบบหลายสไตล์ ขึ้นอยู่กับว่าเราต้องการนำชั้นวางของไปใช้ตกแต่งส่วนใด เช่น ห้องรับแขก ห้องนอน ห้องครัว ห้องอ่านหนังสือ เป็นต้น โดยที่การดูแลรักษาชั้นวางของประเภทต่างๆ ก็ถือเป็นสิ่งจำเป็นที่ควรหมั่นทำอยู่เสมอ เพื่อรักษาชั้นวางของให้ใหม่อยู่เสมอ ใช้งานได้ยาวนาน อีกทั้งยังเป็นการจัดสิ่งของให้เป็นระเบียบ ดูสวยงาม เสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้ผู้อยู่อาศัย

รู้จัก "ชั้นวางของ" แต่ละประเภท ควรเลือกใช้แบบไหนดี?

ชั้นวางของ ผลิตจากวัสดุหลายขนาดและหลายชนิด เช่น พลาสติก ไม้ เหล็ก ซึ่งมีคุณสมบัติรองรับน้ำหนักที่แตกต่างกัน จึงเลือกใช้ให้เหมาะสม เพื่อป้องกันความเสียหาย อีกทั้งช่วยให้การใช้งานยาวนานขึ้นอีกด้วย สำหรับประเภทของชั้นวางของที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย ยกตัวอย่างต่อไปนี้

ชั้นวางของที่แยกเป็นชั้น
การมีชั้นวางของที่สามารถวางของในแต่ละชั้นได้ จะช่วยให้เราสามารถจัดเรียงสิ่งของให้หยิบจับใช้ได้ง่ายมากขึ้น โดยเฉพาะชั้นวางของ 2 ชั้น และชั้นวางของ 3 ชั้น ที่นิยมใช้งานกัน เนื่องจากมีจำนวนชั้นไม่เยอะจนเกินไป สามารถยกเคลื่อนที่ได้สะดวก และแยกของเป็นสัดส่วนได้ง่าย

ชั้นวางของติดผนัง
ชั้นวางของประเภทนี้เหมาะสำหรับจัดเข้ามุมและวางให้ชิดผนังห้อง เพื่อออกแบบห้องให้มีสัดส่วน จะได้มีพื้นที่เหลือไว้ใช้สอยด้านอื่นๆ ส่วนใหญ่ชั้นวางของติดผนังจะแยกออกเป็นชิ้นส่วนต่างๆ เพื่อให้เราสามารถประกอบเองได้ ทั้งเป็นชั้นวางของไม้และชั้นวางของเหล็ก ซึ่งควรคำนึงถึงวัตถุที่เราจะวางบนชั้นวางของด้วย ว่าสามารถรองรับน้ำหนักได้หรือไม่

...

ชั้นวางของในครัว
แน่นอนว่าการมีชั้นวางของวางไว้ในครัว จะช่วยให้เราจัดขวดเครื่องปรุง รวมถึงของใช้ต่างๆ ให้มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย และหยิบจับสะดวกได้มากยิ่งขึ้น หากเป็นชั้นวางของขนาดเล็กๆ ก็สามารถวางช้อนส้อม หรือขวดเครื่องปรุงขนาดต่างๆ วางไว้ในตำแหน่งใกล้มือ หยิบและมองเห็นได้ง่าย ช่วยจัดครัวให้ดูเรียบร้อยสะอาดตา

ชั้นวางของไม้
สำหรับคนที่ชื่นชอบการจัดบ้านสไตล์มินิมอล มักมองหาชั้นวางของที่ทำมาจากวัสดุไม้ มาใช้ตกแต่งห้องตามสไตล์ที่ชื่นชอบ ซึ่งชั้นวางของประเภทนี้จะมีสีเข้ม-อ่อน แตกต่างกันตามเนื้อไม้ที่ใช้ผลิต สามารถนำมาใช้ตกแต่งด้วยทำเป็นชั้นวางหนังสือ ชั้นวางกรอบรูป ชั้นวางของตกแต่ง หรือชั้นวางกระถางต้นไม้ ข้อดีของชั้นวางไม้คือ น้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายได้ง่าย ที่สำคัญควรเคลือบสารป้องกันเชื้อรา เพื่อรักษาให้ชั้นวางของใช้งานได้นานๆ 

ชั้นวางของเหล็ก
ใครที่ต้องการชั้นวางของที่ทำมาจากวัสดุที่แข็งแรงและทนทาน มีโครงสร้างที่แข็งแรง ชั้นวางของเหล็กอาจเป็นตัวเลือกดีๆ ที่น่าสนใจไม่น้อย มักนิยมนำมาใช้วางของที่ค่อนข้างมีน้ำหนัก รองรับวัตถุหนักๆ ได้ดี อาจนำมาใช้เป็นชั้นวางของอเนกประสงค์ตามความต้องการ ในปัจจุบันมีการออกแบบชั้นวางของเหล็กให้ดูดีทันสมัย นำมาใช้ตกแต่งภายในบ้านและสำนักงานเสริมความเก๋ได้ดี

5 วิธีดูแลชั้นวางของติดผนัง ชั้นวางของในครัว ชั้นวางของอเนกประสงค์ ให้ดูเหมือนใหม่อยู่เสมอ

1. ทำความสะอาดเดือนละ 2 ครั้ง
สามารถทำความสะอาดชั้นวางของง่ายๆ ได้ด้วย "ผ้าไมโครไฟเบอร์" ผลิตมาจากเส้นใยสังเคราะห์ ที่มีคุณสมบัติช่วยซับฝุ่นและขจัดคราบสกปรกได้ดี โดยนำมาเช็ดทำความสะอาดประมาณเดือนละ 2 ครั้ง เพื่อไม่ให้ชั้นวางของมีฝุ่นเกาะหนาจนเกินไป โดยเราควรหยิบวัตถุที่อยู่บนชั้นวางของลงมาก่อน แล้วจึงทำความสะอาดให้ทั่วถึง รวมถึงด้านหลังของชั้นวางของ ซึ่งเป็นจุดอับที่สะสมฝุ่นและเชื้อโรค โดยเฉพาะด้านหลังของชั้นวางของที่ทำจากไม้ อาจเป็นจุดที่มีปลวกทำรังอยู่ก็ได้ 

...

2. ใช้น้ำยาเช็ดทำความสะอาดให้ถูกประเภท
ชั้นวางของแต่ละประเภทก็จะทำมาจากวัสดุที่แตกต่างกัน การทำความสะอาดจึงควรคำนึงถึงลักษณะของพื้นผิวด้วย เช่น หากเราใช้คราบน้ำยาจากสารฟอกขาวมาทำความสะอาด ก็อาจไม่เหมาะกับชั้นวางของบางประเภท เพราะอาจทำให้เสียหายไว และมีอายุการใช้งานที่สั้นลง หรือหากชั้นวางของเป็นสนิมก็ควรเลือกใช้วิธีกำจัดสนิมที่เหมาะสม เพื่อยืดการใช้งานไปนานๆ

3. วางสิ่งของที่มีน้ำหนักเหมาะสมกับชั้นวางของ
ชั้นวางของไม่สามารถรองรับน้ำหนักสิ่งของหรือวัตถุทุกชนิดได้ เช่น หากนำหนังสือจำนวนหลายเล่มที่มีน้ำหนักมาก มาวางรวมกันบนชั้นวางพลาสติก ซึ่งไม่สามารถรองรับน้ำหนักมากๆ ได้ ก็อาจทำให้ชั้นวางเสียหาย หรือล้มลงมาได้ หรือการนำของตกแต่งเซรามิกขนาดใหญ่ไปวางบนชั้นวางติดผนังขนาดเล็ก ก็อาจทำให้ชั้นวางพังเสียหายได้เช่นกัน อีกทั้งอาจเกิดอุบัติเหตุได้อีกด้วย ดังนั้นการเลือกวางวัตถุให้เหมาะสมถือเป็นหนึ่งในวิธีดูแลรักษาชั้นวางของที่ไม่ควรมองข้าม

4. หลีกเลี่ยงบริเวณที่มีแสงแดดจัด
การนำชั้นวางของไปวางในตำแหน่งที่มีแดดส่องจัด นอกจากจะทำให้ชั้นวางของและสิ่งของบนชั้นวางสีซีดลงแล้ว อาจทำให้ชั้นวางของมีอายุการใช้งานที่สั้นลง เพราะวัสดุจะเปราะพังง่ายขึ้น โดยเฉพาะชั้นวางไม้และพลาสติก นอกจากนี้ ชั้นวางเหล็กก็ไม่ควรนำไปวางในบริเวณที่โดนน้ำ หรือฝนสาดถึง เพราะจะทำให้เกิดสนิมเร็วนั่นเอง

...

5. ซ่อมบำรุงและหมั่นสังเกตรอยแตกเสมอ
ข้าวของเครื่องใช้ทุกประเภทย่อมเสื่อมไปตามอายุการใช้งาน แต่เราสามารถดูแลรักษาให้ชั้นวางของมีการใช้งานที่ยาวนานขึ้นได้ด้วยการหมั่นทำความสะอาด บำรุงรักษา และหมั่นสังเกตรอยตำหนิ รอยแตก รอยร้าวอยู่เสมอ เพื่อซ่อมให้ทันท่วงที ก่อนที่ชั้นวางของอาจเกิดความเสียหาย ซึ่งอาจทำให้ของหล่นตกลงมา เกิดอุบัติเหตุและสร้างความเสียหายให้แก่ทรัพย์สินได้

สุดท้ายนี้ จะเห็นได้ว่าชั้นวางของมีหลายประเภท เราควรจะเลือกซื้อให้เหมาะสมกับการใช้งาน อย่าลืมหมั่นดูแลและรักษาความสะอาดอยู่เสมอ เพื่อให้ชั้นวางของกลายเป็นหนึ่งในเฟอร์นิเจอร์ หรือของตกแต่งบ้านและสำนักงานที่ดูสวยใหม่ และสามารถใช้งานได้ยาวนานนั่นเอง