เป็นอีกหนึ่งข่าวดีรับเดือน Pride Month ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติรับร่าง พ.ร.บ.คู่ชีวิต เรียบร้อยแล้ว แต่ก็มีข้อโต้แย้งจากกลุ่ม LGBTQ+ ว่า พ.ร.บ.ดังกล่าวนั้นยังไม่ครอบคลุมสิทธิประโยชน์หลายๆ ด้านเหมือนคู่รักชายหญิงทั่วไป ต่างจาก พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม ที่ทางพรรคก้าวไกลเป็นผู้ผลักดัน ซึ่งมีการรับรองสิทธิของคู่สมรสทุกเพศไว้อย่างเท่าเทียมกันและเสมอภาค มาดูกันว่าทั้ง 2 พ.ร.บ.นี้มีความแตกต่างกันอย่างไร และคู่รัก LGBTQ+ จะได้รับสิทธิอะไรบ้าง
สิทธิของ พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม มีดังนี้
- สิทธิและหน้าที่ในการหมั้นและรับหมั้น
- หน้าที่อุปการะเลี้ยงดูกันและกัน
- หน้าที่ในการเป็นผู้อนุบาล/ผู้พิทักษ์ ถ้าอีกฝ่ายเป็นคนไร้หรือเสมือนไร้ความสามารถ
- สิทธิเรียกร้องค่าอุปการะ
- สิทธิดำเนินคดีอาญาแทนคู่อีกฝ่าย
- สิทธิจัดการทรัพย์สินร่วมกัน
- สิทธิการให้และรับมรดก
- สิทธิในการเลิกเป็นคู่ (หย่า) โดยเหตุแห่งความยินยอมของอีกฝ่าย
- สิทธิรับบุตรบุญธรรมร่วมกัน
- สิทธิในการเซ็นยินยอมรักษาพยาบาล
- สิทธิในการจัดการศพอีกฝ่ายที่เสียชีวิต
- สิทธิรับสวัสดิการร่วมจากรัฐในฐานะคู่สมรส
- สิทธิในการใช้นามสกุลร่วมกับอีกฝ่าย
- สิทธิในการเปลี่ยนสัญชาติอีกฝ่ายเป็นสัญชาติไทย
- สิทธิในการขอวีซ่าเดินทางในฐานะคู่สมรส
...
สาระสำคัญของ พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม ประกอบด้วย
- การแก้ไขถ้อยคำในหลายมาตราที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์บัญญัติว่า “สามีและภรรยา” เป็น “คู่สมรส”
- มีการปรับถ้อยคำจากคำว่า “ชาย” หรือ “หญิง” เป็น “บุคคล” เพื่อให้สอดคล้องกับหลักการสมรสระหว่างบุคคล
- ข้อวิจารณ์หลักที่มีการแสดงความไม่เห็นด้วยต่อร่าง พ.ร.บ.คู่ชีวิต คือ การไม่ครอบคลุมการเข้าถึงสวัสดิการ และสิทธิประโยชน์บางประการของคู่ชีวิต เช่น การลดหย่อนภาษีของคู่สมรส
- ไอลอว์ ชี้ว่า ร่าง พ.ร.บ.คู่ชีวิต กำหนดถ้อยคำที่แยกออกมาเป็น “คู่ชีวิต” ทำให้คู่ชีวิตขาดโอกาสในการเข้าถึงสวัสดิการ หรือสิทธิประโยชน์ที่รัฐได้กำหนดไว้ให้คู่สมรส เช่น การลดหย่อนภาษีของคู่สมรสตามประมวลรัษฎากร
สำหรับ พ.ร.บ.คู่ชีวิต ที่ทาง ครม. มีมติรับร่างพิจารณาไปแล้วเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2565 มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
สิทธิของ พ.ร.บ.คู่ชีวิต มีอะไรบ้าง
- หน้าที่ในการอุปการะเลี้ยงดูซึ่งกันและกัน
- อำนาจจัดการแทนผู้เสียหายในคดีอาญาเช่นเดียวกับสามีหรือภริยา
- สิทธิรับบุตรบุญธรรมร่วมกัน
- สิทธิรับมรดกในฐานะทายาทโดยธรรม
- สิทธิและหน้าที่ในการเป็นผู้อนุบาลหรือผู้พิทักษ์ หากอีกฝ่ายเป็นคนไร้ หรือเสมือนไร้ความสามารถ
- สิทธิเซ็นยินยอมให้รักษาพยาบาลอีกฝ่าย
- สิทธิจัดการศพ
สาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ.คู่ชีวิต มีดังนี้
- คู่ชีวิต หมายถึง บุคคลสองคนซึ่งเป็นเพศเดียวกันโดยกำเนิด และได้จดทะเบียนคู่ชีวิตตาม พ.ร.บ.นี้
- กำหนดให้ศาลที่มีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีเยาวชนและครอบครัว มีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีตาม พ.ร.บ.นี้
- การจดทะเบียนคู่ชีวิตจะทำได้ต่อเมื่อบุคคลทั้งสองฝ่ายยินยอม มีอายุ 17 ปีบริบูรณ์ และทั้งสองมีสัญชาติไทย หรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีสัญชาติไทย รวมทั้งกำหนดบุคคลต้องห้ามไม่ให้จดทะเบียนคู่ชีวิต เช่น ทั้งสองคนเป็นญาติสืบสายโลหิตกัน เป็นพี่น้องร่วมบิดามารดา หรือร่วมแต่บิดาหรือมารดา เป็นต้น
- กรณีที่ผู้เยาว์จะจดทะเบียนคู่ชีวิต ต้องได้รับความยินยอมของบิดา มารดา ผู้รับบุตรบุญธรรม ผู้ปกครอง หรือศาล และเมื่อจดทะเบียนคู่ชีวิตแล้วผู้เยาว์ย่อมบรรลุนิติภาวะ
- กำหนดบทบัญญัติเพื่อรองรับลักษณะความสัมพันธ์ของคู่ชีวิต เช่น ต้องอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัวและช่วยเหลืออุปการะเลี้ยงดูกันตามความสามารถและฐานะของตน
- คู่ชีวิตมีอำนาจจัดการแทนผู้เสียหายเช่นเดียวกับสามีหรือภริยา และมีอำนาจดำเนินคดีต่างผู้ตายต่อไปเช่นเดียวกับสามีหรือภริยา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ป. วิ อาญา)
- ทรัพย์สินระหว่างคู่ชีวิต แบ่งเป็นสินส่วนตัวและทรัพย์สินร่วมกัน
- การสิ้นสุดการเป็นคู่ชีวิต คู่ชีวิตย่อมสิ้นสุดลงด้วยความตาย ศาลพิพากษาให้เพิกถอน หรือการเลิกการเป็นคู่ชีวิต รวมทั้งกำหนดเหตุฟ้องเลิกการเป็นคู่ชีวิต เช่น คู่ชีวิตฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอุปการะเลี้ยงดู หรือยกย่องผู้อื่นฉันคู่ชีวิต ประพฤติชั่ว ทำร้าย ทรมานร่างกายหรือจิตใจ จงใจละทิ้งอีกฝ่ายหนึ่งไปเกิน 1 ปี
- บุตรบุญธรรม เมื่อคู่ชีวิตได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขใน พ.ร.บ.นี้ และ ป.พ.พ. แล้ว สามารถรับบุตรบุญธรรมได้ รวมทั้งคู่ชีวิตฝ่ายหนึ่งจะจดทะเบียนรับผู้เยาว์ ซึ่งเป็นบุตรบุญธรรมของคู่ชีวิตอีกฝ่ายหนึ่งมาเป็นบุตรบุญธรรมของตนด้วยก็ได้
- เมื่อคู่ชีวิตฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตาย ให้คู่ชีวิตอีกฝ่ายหนึ่งมีสิทธิและหน้าที่เช่นเดียวกับคู่สมรสตามบทบัญญัติใน ป.พ.พ. ว่าด้วยมรดก
- กำหนดให้นำบทบัญญัติใน ป.พ.พ. ว่าด้วยคู่สมรส ครอบครัว และบุตรบุญธรรม มาใช้บังคับแก่คู่ชีวิตด้วยโดยอนุโลมในบางกรณี
...
ดังนั้นเมื่อพิจารณาตามสิทธิและหน้าที่ของทั้ง 2 พ.ร.บ. แล้วจะพบว่า พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม มอบสิทธิและเสรีภาพในการสมรสและใช้ชีวิตคู่แก่คู่รัก LGBTQ+ หรือกลุ่มคนหลากหลายทางเพศได้เสมอภาคไม่ต่างจากการสมรสของคู่รักชายหญิงทั่วไปมากกว่า พ.ร.บ.คู่ชีวิต
ล่าสุด (14 มิ.ย. 2565) วิปรัฐบาลมีมติคว่ำร่างพ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม ของพรรคก้าวไกล โดยส่งสัญญาณรับเเค่ร่างของรัฐบาลคือ พ.ร.บ.คู่ชีวิตเท่านั้น โดยอ้างว่าร่างของรัฐบาลตอบโจทย์กลุ่มหลากหลายทางเพศมากกว่าข้อเรียกร้อง ส่งผลให้แฮชแท็ก #สมรสเท่าเทียม ขึ้นติดเทรนด์ในโลกโซเชียล และสร้างคำถามให้กับประชาชนจำนวนมากที่ไม่พอใจกับมติในครั้งนี้
นอกจากประเทศไทยแล้ว ที่ผ่านมาประเด็นของการผลักดันกฎหมายการสมรสของกลุ่มคนหลากหลายทางเพศ มีการเรียกร้องในหลายๆ ประเทศทั่วโลก จากข้อมูลของ Rocket Media Lab เผยว่า ปัจจุบันมีประเทศและดินแดนที่มีกฎหมายรับรองการแต่งงานของคู่รักเพศเดียวกันทั้งหมด 51 ประเทศ/ดินแดน แต่หากพิจารณาเฉพาะประเทศหลักๆ จะพบว่ามีเพียง 31 ประเทศเท่านั้น โดยประเทศล่าสุดคือ สวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งจะมีผลในวันที่ 1 กรกฎาคม 2022.
อ้างอิงข้อมูล: iLaw, Rocket Media Lab