หน้ากากอนามัย ศ.นพ.บรรณกิจ โลจนาภิวัฒน์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ม.เชียงใหม่ รับมอบหน้ากากอนามัยจาก ธีรวิทย์ ศิรินาม ผู้แทนบริษัทไทยเบฟเวอเรจ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการป้องกันในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่คณะแพทยศาสตร์ ม.เชียงใหม่ วันก่อน.
เสรีภาพสื่อ คือเสรีภาพประชาชน
หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ ยักษ์ใหญ่สารพัดสี จำหน่ายมากที่สุดของประเทศ ฉบับประจำวันอาทิตย์ที่ 1 สิงหาคม 2564
“ธนูเทพ” ประจำการรับใช้ท่านผู้อ่าน...จากสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทย ส่งผลให้มีผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมาก เฉลี่ยวันละเกือบ 2 หมื่นราย และมีผู้เสียชีวิตวันละกว่า 100 ราย ทั้งโรงพยาบาลสนาม และโรงพยาบาลหลัก เตียงรักษาไม่เพียงพอ จนต้องจัดระบบให้ผู้ป่วยระดับสีเขียว อาการไม่หนักรักษาตัวอยู่ที่บ้าน...

...
ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้ตอบคำถามของสื่อมวลชนผ่านเพจไทยคู่ฟ้า เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ถึงสถานการณ์โควิดในขณะนี้ว่า การที่ตัวเลขไม่ลดลงด้วยเหตุผลหลายประการ อาจมีข้อบกพร่องอยู่บ้าง แต่สิ่งสำคัญคือความร่วมมือกัน สิ่งที่ห้ามอย่าทำเลย ถ้ายังทำกันอยู่ก็จะแก้ปัญหาไม่ได้ การเดินทาง การไปมั่วสุม วันนี้ก็มีหลายกรณีที่เกิดขึ้นในปัจจุบันนี้เป็นต้นตอการระบาด ตัวเลขสีแดงที่ขึ้นทุกวันตนเข้าใจว่าประชาชนสนใจตัวเลขเหล่านี้เจ็บเท่าไหร่ตายเท่าไหร่ อาจมองดูแล้วน่าตกใจ แต่อยากให้สนใจตัวเลข เพื่อนบ้านบ้าง ต่างประเทศบ้าง ทั่วโลกได้รับผลกระทบด้วยกันทั้งสิ้น มากบ้างน้อยบ้าง อันดับต้นๆ มีหลายประเทศ มากกว่าเราหลายเท่า เราตั้งใจไม่อยากให้มีการเสียชีวิต หากทำตามมาตรการครบทุกอย่าง อย่างน้อยก็ป้องกันตัวเองได้ก่อน ป้องกันครอบครัวได้ก่อน ถ้าระมัดระวังตัวเองได้ก็จะลดการติดเชื้อลงไป...
นายกฯทำงานไม่เคยทิ้งสักงาน และไม่ใช่เรื่องโควิดอย่างเดียว แต่โควิดเป็นเรื่องหลักที่ประชาชนเดือดร้อน ยังมีเรื่องอื่นๆอีก นายกฯต้องทำทุกเรื่องและไม่เคยท้อ เพียงแต่เสียใจ เห็นใจกับคนที่สูญเสียและให้กำลังใจกับคนที่ทำงานอย่าท้อแท้ เราต้องทำด้วยกัน เพราะเราคือคนไทยด้วยกัน วันนี้นักการเมืองก็ขอร้องแล้วกัน ถือว่าเป็นผู้แทนประชาชนมาจากประชาชน ก็ต้องมีหลักการคิด หลักการวิเคราะห์ บางเรื่องมันก็ไม่ใช่ทางการเมือง ที่จะมาสร้างความเกลียดชังกันโดยใช่เหตุ เพราะประเทศชาติกำลังมีปัญหาต้องเข้าใจตรงกันตรงนี้ เรื่องของทางการเมืองก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ดังนั้น อย่าใช้โอกาสตรงนี้มาทำให้ทุกอย่างมีปัญหา...
ทั้งนี้ นายกฯประยุทธ์ ยังได้ระบุถึงการจัดหาวัคซีนด้วยว่า อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ยืนยันว่า เดือน ส.ค. จะเข้าสู่สถานการณ์ที่ดีขึ้น เพราะเท่าที่ถามดูหลายประเทศมีปัญหาเรื่องวัคซีนที่สั่งจองเหมือนกัน อาจมีปัญหาขีดความสามารถในการผลิต เพราะลูกค้าเยอะ เขาก็จำเป็นต้องตัดยอด ส่วนการกระจายวัคซีนโดยพื้นฐานทุกจังหวัดได้รับการฉีด มากน้อยขึ้นอยู่กับสถานการณ์ จำนวนประชากร อย่าจับผิดกันเลย เขาพยายามทำเต็มที่แล้ว เรื่องวัคซีนทุกประเทศมีปัญหาหมด แต่วันนี้ให้ กระทรวงการต่างประเทศ และ ภาคธุรกิจ ไปเจรจากับ บริษัทผู้ผลิต ว่าสามารถเพิ่มเติมได้อีกหรือไม่ ถ้าทำได้ก็นำเข้าสู่มาตรฐานตรวจสอบของ กระทรวง สาธารณสุข ยินดีปลดล็อกให้นำเข้าได้ แต่ต้องเป็นวัคซีนที่มีคุณภาพ และนำเข้าได้จริง ส่วน วัคซีนสปุตนิก วี อยากได้มานาน เป็นวัคซีนหลัก แต่บริษัทไม่พร้อม ส่งเอกสารไม่ครบ วันนี้ได้ปรับลดเอกสารไปเยอะ เดี๋ยวจะกลายเป็นว่าไปกีดกันรับแต่ของเดิมๆ เราเปิดรับทุกยี่ห้อ...ขอให้จริงและเป็นไปด้วยความรวดเร็ว เพราะเวลานี้ความหวังสุดท้ายของประชาชน คือวัคซีน อย่าให้สิ่งที่พูดกลายเป็นเฟกนิวส์ก็แล้วกัน

...
เฮ้อ...หลังจาก นายกฯประยุทธ์ สั่งการให้ทุกกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ และใช้กฎหมายเข้ม ดำเนินคดีกับบรรดา ผู้ปล่อยข่าวปลอม หรือ เฟกนิวส์ และ เจตนาบิดเบือนข้อเท็จจริง สร้างความสับสนให้แก่สังคม ในสถานการณ์วิกฤติไวรัสโควิด-19 พร้อมทั้งออกข้อกำหนดตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 29) เพื่อให้สอดคล้องกับการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ที่ขยายเวลาการบังคับใช้ประกาศออกไปจนถึงวันที่ 30 ก.ย.2564 โดยประเด็นหลักอยู่ที่ ข้อ 1 ห้ามผู้ใดเสนอข่าว จำหน่าย หรือทำให้แพร่หลาย ซึ่งหนังสือสิ่งพิมพ์ หรือสื่ออื่นใด ที่มีข้อความอันอาจทำให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัว หรือเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารทำให้เกิดความเข้าใจผิดในสถาน-การณ์ฉุกเฉิน จนกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ หรือความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดีของประชาชนในเขตพื้นที่ที่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน
โดยไม่สนเสียงทักท้วงจากองค์กรสื่อมวลชน ที่ขอให้ทบทวนการใช้กฎหมายเข้ม ที่เข้าข่าย จำกัดสิทธิเสรีภาพสื่อมวลชนและประชาชน ...ขณะที่ ดร.วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย ระบุถึงการที่ องค์กรสื่อ ออกมาคัดค้านข้อกำหนด ศบค. ที่ออกตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มาตรา 9 เรื่องมาตรการเพื่อไม่ให้มีการบิดเบือนข้อมูลข่าวสารอันทำให้เกิดความเข้าใจผิด ว่าข้อกำหนดดังกล่าวเป็นการลอกข้อความจาก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อเป็นการย้ำให้รู้ว่าต้องระมัดระวัง แต่หมายความว่า หากจะมีความผิด ข้อความนั้นต้องเป็นเท็จ ถ้าเป็นข้อเท็จจริง ไม่ถือว่าผิด แต่ในปัจจุบันมีการเผยแพร่ข้อความเท็จซ้ำเติมสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม ต่อให้ไม่มีข้อกำหนดดังกล่าว ถ้าเผยแพร่ ข้อความอันบิดเบือน ก็มีความผิดตาม กฎหมายอาญา หรือ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ อีกทั้งตามรัฐธรรมนูญ หากมีการเสนอเรื่องราวที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง กระทบต่อความมั่นคงของรัฐ ความสงบเรียบร้อยของประชาชน สิทธิเสรีภาพของผู้อื่น และกระทบต่อสุขภาพอนามัยประชาชน รัฐธรรมนูญก็ไม่คุ้มครอง ตอนนี้มี ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับสุขภาพ เกิดขึ้นถือว่าเป็นการกระทำที่ผิด แต่ขณะเดียวกันสิ่งที่ องค์กรสื่อ ออกมาเรียกร้องถือเป็นสิทธิ รัฐบาลรับฟัง และระมัดระวังการบังคับใช้กฎหมายอยู่แล้ว โดยขณะนี้มีการกำชับเตือนให้เจ้าหน้าที่ระมัดระวังในการบังคับใช้กฎหมาย
...

...
ก็อย่างที่ “ธนูเทพ” เคยย้ำไว้ การใช้อำนาจตามกฎหมายพิเศษจัดการกับ ผู้ปล่อยข่าวปลอม หรือ ตัดต่อบิดเบือนข้อมูลทางสื่อโซเชียล เพื่อให้ประชาชนเกิดความสับสนในสถานการณ์วิกฤติไวรัสโควิดระบาด ถือเป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องเร่งดำเนินการ เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยในสังคม โดยเฉพาะการดำเนินการของ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติ ต้องแยกแยะให้ชัดเจนว่าเรื่องไหนข้อมูลใดเป็น ข่าวปลอม เรื่องใดเป็น การแสดงความคิดเห็นตามข้อเท็จจริง เพื่อไม่ให้ใช้อำนาจกลั่นแกล้ง ปิดกั้นการแสดงความคิดเห็น...ที่สำคัญจากข้อกำหนดที่ออกมา ที่ระบุว่า สื่อห้ามเผยแพร่ข้อความอันอาจทำให้ประชาชนหวาดกลัว เรื่องนี้จะทำให้เกิดปัญหาในการ ตีความ เพราะบางเรื่องอาจ เป็นข้อเท็จจริง ที่ไม่ใช่ ข่าวปลอมหรือบิดเบือน และจุดนี้อาจเป็นปมให้เจ้าหน้าที่ใช้อำนาจแบบเหวี่ยงแห...
ฉะนั้น สมควรต้องมีการทบทวนข้อกำหนดตรงนี้ อย่าให้กระทบกับสื่อที่มีหน้าที่เสนอข้อเท็จจริง สะท้อน ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนให้รัฐบาลได้รับรู้และแก้ไข...ควรต้องเคารพในหน้าที่ของกันและกัน เพราะเสรีภาพสื่อ คือเสรีภาพของประชาชน เข้าใจตรงกันนะ
หนังสือวางแผง...คุกกี้รัน เกมปริศนาปฏิบัติการตามหาคุกกี้ วลี จิตจำรัสรัตน์ แปล

สังคมทั่วไป...
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ขอเชิญชวนประชาชนทุกภาคส่วนร่วมกับธนาคารกรุงศรีอยุธยา เดินหน้าร่วมฝ่าวิกฤติโควิด-19 เพื่อสนับสนุน สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) ในการปฏิบัติภารกิจนำส่งผู้ป่วยโควิดกลับไปรักษายังโรงพยาบาลตามภูมิลำเนาช่วยบรรเทาปัญหาผู้ป่วยล้นเตียงโรงพยาบาลใน กทม. โดยร่วมสมทบค่าใช้จ่าย “คนละ 99 บาท” ผ่านธนาคารกรุงศรีอยุธยา ชื่อบัญชี สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ เลขที่บัญชี 057-1-41391-7 ผู้บริจาคสามารถขอเอกสารเพื่อลดหย่อนภาษีได้ 1 เท่า สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม 08-1960-1669 และ 08-5260-1669
ศพ ลัดดา ตั้งพูลสินธนา ตั้งสวดศาลาเตชะอิทธิพร (ศาลา 1) วัด เทพศิรินทราวาส 1 ส.ค. คืนสุดท้าย สวดฯชุดแรก 17.30 น. และชุดที่สอง 18.00 น., 2 ส.ค. 08.00 น. ทำพิธีกงเต๊ก และ 3 ส.ค. 11.00 น. เคลื่อนศพไปประกอบพิธีบรรจุ ที่สุสานสุขสมบูรณ์ 2 อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี และศพ ระพีชัย สกุลรัตนะ ลูกชาย พล.อ.อ.อัครชัย-สุนิดา สกุลรัตนะ อยู่วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน สวดพระอภิธรรมถึง 4 ส.ค. เวลา 18.00 น. ฌาปนกิจศพวันที่ 5 ส.ค. เวลา 16.00 น.

“ธนูเทพ”