ผู้บริหารรุ่นใหม่ที่เข้ามาต่อยอดอาณาจักรธุรกิจของครอบครัว อภิภู พรหมโยธี ทายาทตระกูลดังที่มีชื่อเสียงในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ได้ใช้วิสัยทัศน์คนรุ่นใหม่มาพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ในมือให้ก่อเกิดมูลค่า สร้างความมั่นคงทางธุรกิจของครอบครัว

อภิภู พรหมโยธี หรือ แวร์ ผู้บริหารคลื่นลูกใหม่ของตระกูล “พรหมโยธี” ทายาท กำจรเดช พรหมโยธี และเป็นหลานของ ม.จ.บรรเจิดวรรณวรางค์ วรวรรณ (ท่านหญิงแต๋ว) และ พล.อ.มังกร พรหมโยธี (หลวงพรหมโยธี) เจ้าของที่ดินย่านหลังสวนผืนงาม และเป็นอดีตนักกีฬาขี่ม้าทีมชาติไทย ประเภทศิลปะการบังคับม้า ปัจจุบัน คุณแวร์นั่งเก้าอี้บริหารในตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ณวรางค์ แอสเซท จำกัด ดูภาพรวมของบริษัททั้งหมด โดยบอกว่า ตอนนี้ดูงานภาพรวมของบริษัท ทั้งด้านการขาย การบริการ และงบประมาณ รวมไปถึงการพัฒนาโครงการใหม่ๆ ในทำเลศักยภาพ โดยเน้นพัฒนาโครงการที่จำนวนยูนิตไม่มาก เพื่อความเป็นส่วนตัว การออกแบบที่หรูหรา สะท้อนความเป็นเอกลักษณ์ของณวรางค์ แอสเซท ซึ่งงานโครงการแรกได้พัฒนาคอมมูนิตี้ มอลล์ใจกลางเมือง ที่ชื่อว่า “The Portico (เดอะ ปอร์ติโก)” และตามมาด้วยโครงการ “ณ วรา เรสซิเดนซ์” คอนโดมิเนียมระดับลักชัวรี เอกสิทธิ์เพียง 96 ครอบครัว บนถนนหลังสวน ต่อด้วยโครงการ ณ วีรา พหลฯ-อารีย์ คอนโดมิเนียม ในซอยพหลโยธิน 14 และเมื่อปี 2563 ได้เปิดตัวโครงการ ณ รีวา เจริญนคร คอนโดมิเนียม สูง 29 ชั้น วิวแม่น้ำเจ้าพระยา บนถนนเจริญนคร มูลค่าโครงการ 1,300 ล้านบาท

“สำหรับปีนี้เรามีแผนพัฒนาโครงการเพื่อตอบโจทย์ ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ เตรียมเปิดขาย 3 โครงการใหม่ ได้แก่ โครงการ ณ ไอรา สายลม-อารีย์ Vertical Residence สูง 7 ชั้น จำนวนเพียง 5 ยูนิต ตั้งอยู่ในซอยสายลม (พหลโยธิน ซ.8) ราคาเริ่มต้น 38 ล้านบาท โครงการรามอินทรา-วงแหวน บ้านเดี่ยว จำนวน 18 ยูนิต ราคาขายเฉลี่ย 15 ล้านบาท รวมถึงคอนโดระดับซุปเปอร์ลักชัวรี บนทำเลหลังสวน มูลค่าโครงการ 4,000 ล้านบาทครับ” ผู้บริหารคนเก่งบอกถึงโปรเจกต์ในมือ

...

เมื่อถามถึงความสนใจในงานพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ผู้บริหารรุ่นใหม่คนนี้บอกว่า ตนเกิดและเติบโตย่านหลังสวน เห็นความเปลี่ยนแปลงในทุกยุคทุกสมัย ความสนุกสนานมีชีวิตชีวาถือเป็นเสน่ห์ของย่านนี้ ผสานกับการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ที่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา เมื่อมีโอกาสดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ จึงมีแนวคิดที่จะถ่ายทอดการพัฒนาคอนโดมิเนียมผ่านไลฟ์สไตล์ตัวเอง โดยมีแนวคิดการออกแบบของพี่ชาย (องคฤทธิ์ พรหมโยธี) มาร่วมกันทำงาน

แม้จะเป็นคนรุ่นใหม่แต่ คุณแวร์ กลับสนใจในวิถีการปฏิบัติธรรมวิปัสสนากรรมฐาน ก่อให้เกิดสติที่ได้นำมาใช้ในการทำงาน โดยบอกว่า จุดเริ่มต้นเกิดจากคุณแม่ (อัมพิกา พรหมโยธี) ที่ปฏิบัตธรรมเป็นประจำอยู่แล้ว เลยทำให้ได้มีโอกาส ติดสอยห้อยตามจนเป็นความคุ้นชิน และเคยได้บวชเรียนด้วย ทำให้ได้ศึกษาอย่างจริงจัง โดยส่วนตัวศรัทธาในวิธีคิดที่ว่า การวิปัสสนาหมายถึงการมองดูสิ่งต่างๆ ตามความเป็นจริง เพราะธรรมชาติคนเรามักจะสั่งจิตให้คิดไปนั่นไปนี่ ปรุงแต่งทุกอย่าง เพราะ ฉะนั้นการวิปัสสนาจะทำให้ เราตามดูอารมณ์ที่ไปผูกกับสิ่งต่างๆ อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น นำมาซึ่งการคิดวิเคราะห์ ปรับใช้ในหลายๆอย่างในชีวิตประจำวันแบบไม่รู้ตัว”...มุมความสำเร็จของผู้บริหารคนนี้.