“นางกวัก” บูชาเป็น “เมตตามหาอุด”... กวักเรียกลูกค้า “นางกวัก”...ตามคติความเชื่อเป็นเทพีแห่งโชคลาภ รูปร่างลักษณะโดยทั่วไปอยู่ในร่างผู้หญิง สวมเครื่องแต่งกาย แต่งองค์ทรงเครื่องประดับแบบไทย นั่งพับเพียบ มือซ้ายจะวางบนตักหรือวางแตะข้างลำตัว
ส่วนมือขวานั้นจะยกขึ้นมาระดับหัวไหล่ทำท่า...“กวักมือเรียก”
คนไทยแต่อดีตมีความเชื่อศรัทธาต่อแม่นางกวักด้วยว่าจะช่วยกวักเรียกทรัพย์ นับถือกันอย่างยิ่งในหมู่พ่อค้าแม่ขายว่าหากได้บูชาแล้วจะช่วยเรียกทรัพย์ เรียกลูกค้าให้มาอุดหนุนกันอย่างหนาแน่น
โบราณนานมา...การนับถือนางกวักนั้น บ้างก็ว่ามีความเชื่อมโยงเริ่มขึ้นมาจากการนับถือแม่โพสพ ซึ่งเป็นการนับถือผีผู้หญิง กระนั้นแล้ว “นางกวัก” ก็คือผีที่พัฒนาเป็นเทพที่คอยกวักเงินกวักทองกวักทรัพย์มาให้ผู้ที่ได้บูชา บันทึกส่งต่อกันมาแต่ในอดีตมีอีกว่า การหล่อปั้นนางกวักนั้นน่าจะเริ่มเกิดขึ้นครั้งแรกในยุคกรุงศรีอยุธยา ที่พบเห็นก็จะเป็นขนาดบูชา สร้างจากเนื้อโลหะ ดินเผา รวมถึงมีการแกะสลักด้วยไม้
...
ยุครัตนโกสินทร์ การนับถือนางกวักปรากฏชัดมากขึ้น ช่วงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ด้วยในช่วงเวลานั้นเป็นช่วงที่สยามประเทศมีเศรษฐกิจการค้าเฟื่องฟู มีการขยายตัวของกิจการร้านรวงมากขึ้นเรื่อยๆทั้งในกรุงเทพมหานคร เมืองใหญ่
นอกจากนี้แล้ว จะเกี่ยวข้องกันมากน้อยอย่างไร เท็จจริงประการใดนั้นก็ยังปรากฏข้อมูลด้วยว่าเป็นช่วงเวลาใกล้เคียงกันกับที่ในประเทศญี่ปุ่นก็มีความเชื่อศรัทธาเกี่ยวกับแมวกวักเรียกทรัพย์ด้วยเหมือนกัน
กระนั้นแล้ว...ที่มาที่ไปของ “นางกวัก” ยังคงไม่ชัดนัก ตามบทสวด “คาถาบูชานางกวัก” กล่าวถึงว่าเป็นบุตรีของปู่เจ้าเขาเขียวไว้ดังนี้...
“โอม มหาสิทธิโชคอุดม โอมปู่เจ้าเขาเขียวมีลูกสาวคนเดียว ชื่อแม่นางกวัก ชายเห็นชายรัก หญิงเห็นหญิงรัก รู้จักทุกตำบล คนรักทุกถ้วนหน้า โอมพวกพานิชชา พากูไปค้าถึงเมืองแมน ค้าหัวแหวน ก็ได้แสนทะนาน กูค้าสารพัดการก็ได้กำไรคล่องๆ กูจะค้าเงินก็เต็มกอง กูจะค้าทองก็เต็มหาบ...
กลับมาเรือนสามเดือน เลื่อนเป็นเศรษฐี สามปีเป็นพ่อค้าสำเภา โอมปู่เจ้าเขาเขียว ประสิทธิแก่กูคนเดียว สวาหะ”
คาถาข้างต้นนี้ว่ากันว่าสำคัญนัก...เจ้าของกิจการร้านรวงมุ่งเน้นพลังบวกเอาดีด้านค้าๆขายๆ เมตตามหานิยม จักส่งเสริมให้ดีแล้วก็ยิ่งดีขึ้นๆไปอีกตามลำดับ ใครศรัทธาว่านโมก่อน 3 จบ แล้วก็ตามด้วย “คาถาบูชานางกวัก” ฉบับแปลนี้กันได้
เชื่อมโยงนิทานพื้นบ้านลพบุรีที่ได้รับอิทธิพลจากรามเกียรติ์ฉบับพระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ 1 เนื้อเรื่องกล่าวถึงตอนพระรามต่อสู้กับท้าวกกขนาก เจ้าเมืองสิงขร ผู้มีใจอยุติธรรมถูกศรพรหมาสตร์ตรึงไว้บนเขาวงพระจันทร์ และถูกสาปว่าจะถูกปลด ปล่อยออกไปได้ก็ต่อเมื่อถึงยุคพระศรีอาริย์ หรือ...ลูกศรถูกรดด้วยน้ำส้มสายชู
นางนงประจันทร์ธิดาจึงเพียรทอผ้าจีวรจากใยบัวเตรียมถวายพระศรีอาริย์ในอนาคต วันดีคืนดีก็ได้แปลงกายเป็นหญิงมาซื้อน้ำส้มสายชูหวังจะนำไปปลดปล่อยผู้เป็นพ่อ ชาวบ้านรู้ข่าวก็โกรธ รังเกียจนางมากกลัวว่าหากท้าวกกขนากหลุดออกมาจากคำสาปได้จะมาก่อเรื่องร้ายๆขึ้นมาอีก
ร้อนใจถึง...“ปู่เจ้าเขาเขียว” สหายสนิทท้าวกกขนากเกิดมีใจสงสารนางขึ้นมา ก็ได้ส่ง “นางกวัก” ซึ่งเป็นธิดาขึ้นไปอยู่เป็นเพื่อน จากนั้นเป็นต้นมาปรากฏว่าผู้คนก็มีแต่จะรักใคร่นางนงประจันทร์ นำลาภผลเรื่องดีๆมาให้ นี่เอง... ที่ “นางกวัก” ถูกยกย่องให้เป็นผู้ที่นำความสุขสมบูรณ์มาให้โดยเฉพาะในเรื่องโภคทรัพย์
“นางกวัก” รูปลักษณะตามคติความเชื่อนั้นเป็นหญิงสาวหน้าตา สวยงาม สวมเครื่อง ประดับตาม ธรรมเนียม ไทย ไว้ผมแบบโบราณทรงดอกกระทุ่มหรือปีก ห่มผ้าโจงกระเบน นั่งพับเพียบ มือซ้ายวางบนตัก เคียงข้างถุงเงิน...ที่มีการจดจารคาถาหัวใจสีวลี...มุ้งเน้นส่งเสริมเรื่องโชคลาภ
...
อีกมือหนึ่งยกขึ้นกวักเรียกทรัพย์เข้าหาตัว หากสังเกตให้ดีๆจะพบว่าระดับมือนั้น...หากอยู่สูงกว่าปากจะสะท้อนให้หมายถึงว่า “กินไม่หมด” ...แต่ถ้าต่ำกว่าก็จะหมายถึง “กินไม่พอ”
สะท้อนนัยความหมายสื่อความต้องการโชคลาภ ทรัพย์สิน เงินทองเข้าตัวได้เสมอๆกัน
หนึ่งในผู้ที่บูชานางกวักมานานกว่า 30 ปี เล่าประสบการณ์ให้ฟังว่า เขาบูชานางกวักองค์ใหญ่ขนาดความสูงราวๆฟุตกว่าๆบนหิ้งพระ จะออกจากบ้านไปทำมาค้าขายที่ไหนก็จะไหว้ตั้งจิตอธิษฐาน
หรือแม้แต่จะเดินทางไปเจรจาธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ก็จะขอให้ราบรื่นทุกครั้งไป ผ่านมานานถึงวันนี้แม้ว่าจะไม่เคยได้โชคใหญ่ก้อนโตถูกหวยรวยเบอร์คว้าโชคใหญ่ลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 แต่ชีวิตก็ไม่เคยอดอยาก ไม่มีเงินใช้ อาจจะเรียกได้ว่าเงินทองไม่เคยขาดมือ ค้าขายก็สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีทุกครั้งทุกคราไป
ที่สำคัญ...เส้นทางชีวิตก็ราบรื่นดี ไม่มีปัญหาจุกจิกกวนหัวใจ ไม่เคยมีปัญหาร้ายแรงใดๆเกิดขึ้นในครอบครัวเลยแม้แต่ครั้งเดียว
...
ทั้งหมดเหล่านี้ เชื่อไม่เชื่ออย่างไรก็อย่าได้ลบหลู่นะครับ ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะครอบครัวผมดำเนินชีวิตอย่างมีเหตุมีผล ตัดสินใจดำเนินการในเรื่องอะไรก็เป็นไปตามเหตุปัจจัย ไม่เคยไปฝืนหรือเลือกทางเดินที่ผิดๆ ใช้สมอง สติปัญญาไตร่ตรองให้รอบคอบ รอบด้าน ...ก็อาจส่งผลต่อเนื่องให้ได้ผลแต่เรื่องดีๆ กลับคืนมา
พลังอันใดที่เป็นสิ่งเหนือธรรมชาติ ไม่เคยคิดว่าไม่มี หากแต่ความดีที่นำมาปรับใช้ในการดำเนินชีวิตก็ต้องทำอย่างสม่ำเสมอ เสมอต้นเสมอปลาย “คิดดี ทำดี แล้วสิ่งดีๆก็จะตามมา”
ถามว่าได้ “นางกวัก” นี้มาได้อย่างไร ต้องบอกว่าที่มาที่ไปนั้นไม่รู้ครับ ตั้งแต่เด็กๆแล้วก็เห็นที่บ้านบูชาอยู่บนหิ้งพระในบ้าน ย้ายบ้านมาหลายครั้งแล้วก็ยังจัดที่บูชาไว้เหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยนแปลง
เรื่องราวดีๆที่ผ่านเข้ามาในชีวิต แม้ว่าใจหนึ่งจะคิดว่าได้มาจากสิ่งดีๆที่เราได้กระทำลงไป แต่กับบางเรื่อง บางเหตุการณ์...ก็ปฏิเสธไม่ได้เหมือนกันว่ามีสิ่งเหนือธรรมชาติบางอย่างช่วยส่งเสริมอำนวยพรให้สำเร็จได้ เรื่องทำนองอย่างนี้...ไม่ใช่เกิดแค่ครั้งสองครั้ง หากมีเกิดขึ้นอยู่เรื่อยๆ เกิดบ่อยๆมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วนเลยทีเดียว
“ศรัทธา”...นำมาซึ่งปาฏิหาริย์? เชื่อไม่เชื่อโปรดอย่าได้...“ลบหลู่”.
รัก–ยม