ใครยังคิดว่างานศิลปหัตถกรรมไทยไม่ทันยุคจะต้องเปลี่ยนความคิด เมื่อมาชม 40 คอลเล็กชันใหม่จากครูช่างศิลปหัตถกรรม และผู้ผลิตงานศิลปหัตถกรรมจากทั่วประเทศ 40 ราย ซึ่งได้รับคัดเลือกมาพัฒนาในโครงการ SACICT CONCEPT 2020 ริเริ่มโดย ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) หรือ SACICT โดยมุ่งพัฒนางานศิลปหัตถกรรมไทยให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตปัจจุบัน และตอบสนองความต้องการของตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศในระยะยาว เพื่อสร้างอาชีพและรายได้ที่มั่นคงให้แก่ประชาชนได้อย่างยั่งยืน

กว่าจะเป็น 40 ผลงานอย่างที่เห็น ได้มีการคัดเลือกผู้สมัครจากทั่วประเทศ ประกอบด้วยผู้ผลิตงานศิลปหัตถกรรมจากหลากหลายสาขาความเชี่ยวชาญ อาทิ งานสิ่งทอ งานจักสาน งานไม้ งานเซรามิก งานโลหะ ฯลฯ มาร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์ต้นแบบใหม่ ภายใต้การแนะนำจากที่ปรึกษาด้านการออกแบบจาก Mobella Design Team, Ease Studio, Salt and Pepper Design Studio, PHTAA Living Design และ Atelier 2+ โดยลงพื้นที่ยังชุมชนเพื่อศึกษาและพัฒนาตั้งแต่กระบวนการผลิต เน้นการต่อยอดภูมิปัญญาและความเชี่ยวชาญดั้งเดิมของผู้ผลิตงานศิลปหัตถกรรม เพื่อให้ตอบรับความต้องการของผู้บริโภคกลุ่มใหม่ ขยายตลาดให้กว้างขึ้น พร้อมสร้างความเป็นไปได้ใหม่ในเชิงพาณิชย์ให้งานศิลปหัตถกรรมไทย

(จากซ้าย) 

คุณเจรมัย พิทักษ์วงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน)
คุณรชนาท พจนารถ หัวหน้าฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน)
คุณเพ็ญศิริ ปันยารชุน ผู้จัดการสายงานพัฒนาผลิตภัณฑ์และศักยภาพ ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน)
ดร.หญิงฤดี ภูมิศิริรัตนาวดี ผู้ก่อตั้งยุทธศาสตร์ทุนคนไทยสู่กระบวนการสร้างบ้านประเทศไทย
คุณอดิศักดิ์ จันทร์วิทัน รองผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) เป็นประธานเปิดงาน
คุณนิธิบดี เที่ยงวรรณกานต์ ที่ปรึกษาด้านส่งเสริมวัฒนธรรมและศิลปหัตถกรรม ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน)
คุณธวัลภัสร์ ชัยปรีชาสิทธิ์ ที่ปรึกษาด้านการออกแบบนิเทศศิลป์ ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน)
คุณน้องนุช ชวาลา ที่ปรึกษาการประชาสัมพันธ์และการสื่อสารองค์กร ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน)

SACICT CONCEPT SHOWCASE จัดขึ้นที่ชั้น G สามย่านมิตรทาวน์ เมื่อวันที่ 26 - 30 สิงหาคม ที่ผ่านมา ซึ่งนอกจากจะไปเดิมชมทั้ง 40 คอลเล็กชันแล้ว ยังมีกิจกรรมเสวนาในหัวข้อ “พลิกมุมมองงานคราฟต์ไทย ทันกระแสโลกธุรกิจ” ที่นักออกแบบและผู้ร่วมโครงการมาแบ่งปันประสบการณ์จากการทำงานและต่อยอดในโครงการนี้

แม้งานจะจบไปแล้ว แต่องค์กรหรือหน่วยงานใดกำลังมองหาของขวัญและของที่ระลึกแบบชิคๆ หรือห้าง ร้าน โรงแรมและนักออกแบบที่ต้องการเสื้อผ้า เครื่องประดับ ของใช้และของตกแต่งสไตล์ไทยสมัยใหม่ สามารถดาวน์โหลด E-Book ของทั้ง 40 คอลเล็กชัน เพื่อต่อยอดการออกแบบและสั่งผลิตได้ ซึ่งนอกจากจะทำให้เกิดรายได้หมุนเวียนสู่ชุมชนแล้ว ยังเป็นการสืบสานงานศิลปหัตถกรรมไทยอย่างยั่งยืนอีกทางหนึ่งด้วย มาดูคอลเล็กชันที่น่าสนใจว่ามีการพัฒนาและต่อยอดกันอย่างไรบ้าง

นักษัตร โดย บัวเหลืองปักไทย

เข็มกลัดที่ปรับประยุกต์จากงานปักสะดึงกรึงไหม ต่อยอดภูมิปัญญาสู่ลายปักที่ร่วมสมัย พัฒนาเป็นเครื่องประดับที่ทุกคนสวมใส่ได้ง่ายในชีวิตประจำวัน และยังใช้เป็นของที่ระลึกประจำปีนักษัตรนั้นๆ ได้อีกด้วย

Layer โดย ศิลาทิพย์

ต่อยอดภูมิปัญญาแห่งครกอ่างศิลา โดยนำเศษหินที่เหลือจากการผลิตมาพัฒนาเป็นที่ใส่เครื่องเขียน ใส่อุปกรณ์สำหรับใช้ในครัว และแจกัน โดยผสมผสานกับวัสดุชนิดอื่นๆ อย่างเหล็กพ่นสี ในรูปแบบที่ทันสมัย

Backyard Story โดย Kiree

ต่อยอดงานผ้าฝ้ายย้อมสีธรรมชาติจากชุมชนคีรีวง จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งเด่นด้วยภูมิปัญญาการย้อมสีผ้าจากเปลือกมังคุด ฝักสะตอ แก่นขนุน ฯลฯ มาผสานกับลวดลายของเส้นสายที่แปรงที่มีเอกลักษณ์

Thoong Cushion โดย Primpraewa

สืบสานภูมิปัญญาผ้าไหมแพรวาและลวดลายแบบชนเผ่าภูไท ด้วยการออกแบบเป็นผลิตภัณฑ์ตกแต่งบ้านอย่าง “เบาะธุง” ที่ผสานลวดลายสองวัฒนธรรมคือ ผ้าไหมแพรวา และธุง ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดกาฬสินธุ์

ฉัตร โดย Angsa

“เงินยัดลาย” งานศิลปหัตถกรรมขึ้นชื่อของตำบลบ้านกาด จังหวัดเชียงใหม่ โดยใช้เส้นเงินหรือทองขนาดเล็กมาวางลวดลายขดไปมาในโครงสร้างชิ้นงาน ต่อยอดความวิจิตรสู่งานโคมไฟขนาดใหญ่ ที่เกิดจากการเรียงร้อยชิ้นงานขนาดเล็กเป็นชั้นลดหลั่นกัน

Stitch โดย บ้านเฮาเสาไห้

รื้อฟื้นภูมิปัญญาผ้าทอโบราณของชาวไทยวน อำเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี ด้วยการพัฒนาชุดเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งมีต้นแบบมาจากตั่งและหมอนผา ปรับรูปทรงหมอนให้เป็นเรขาคณิต เลือกใช้สีโมโนโทน โดยคงเอกลักษณ์การเย็บตะเข็บอย่างลายจ่องแอ่วเขียด และลายปีกผีเสื้อแบบดั้งเดิม

Catdo (Cat + Condo) โดย โฉมสุดา โทนุการ

ต่อยอดผ้าขาวม้าจากเส้นใยย้อมสีธรรมชาติของชุมชนลาวครั่ง จังหวัดอำนาจเจริญ โดยทดลองย้อมสีและทอลายใหม่เป็นผ้าขาวม้าร่วมสมัย ทำเป็นเฟอร์นิเจอร์สัตว์เลี้ยงที่สามารถใช้ตกแต่งบ้านไปในตัว

A Tale of Wood โดย วิสาหกิจชุมชนหัตถกรรมไม้แกะสลักบ้านกิ่วแลน้อย (ป้าลัยแกะสลัก)

ต่อยอดความเชี่ยวชาญการแกะสลักไม้เป็นภาพนูนต่ำของช่างฝีมือในชุมชน มาสร้างเอกลักษณ์ด้วยบานตู้แกะสลักเป็นลวดลายที่ได้แรงบันดาลใจจากลายผ้าศิลปาชีพผสานกับลายเรขาคณิต ลดทอนรายละเอียดให้เรียบง่ายและร่วมสมัยขึ้น

สมิหลา โดย กลุ่มโหนดทิ้ง

การต่อยอดงานจักสานใยตาล เพื่อเพิ่มมูลค่าให้ส่วนประกอบของต้นตาลที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ โดยนำผืนใยตาลสานมาสร้างสรรค์เป็นโคมไฟรูปทรงกลมดัดโค้ง และจัดวางชุดโคมไฟตั้งพื้นกึ่งงานศิลปะบนสวนกรวดในถาดทองเหลือง

Phu-Kao โดย JUTATIP

ผ้าฝ้ายเข็นมือย้อมสีธรรมชาติทอด้วยเทคนิค “เกาะล้วง” เกิดพื้นผิวนูนคล้ายงานปัก พัฒนาเป็นชุดหมอนตกแต่งที่ได้แรงบันดาลใจมาจากภูมิทัศน์เทือกเขาในจังหวัดขอนแก่น โดยออกแบบให้มีช่องใส่ของด้วย

A Sense of Tribe โดย Ethnica

แบรนด์กิจการเพื่อสังคมที่ทำงานร่วมกับกลุ่มผลิตทอผ้าชาวเขา พัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่มสินค้าตกแต่งบ้าน โดยนำผ้าที่มีลวดลายจากเทคนิคการเย็บต่อผ้าลายกระดูกงูมาใช้เป็นผ้าหุ้มเก้าอี้พับ

ปาเต๊ะ-ปาเต๊ะ โดย ศศินาหัตถศิลป์ชุมชน

นำผ้าปาเต๊ะพื้นเมืองของชุมชนทางภาคใต้มาเพ้นต์ลายและปักเลื่อมให้เกิดเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว นำมาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ช่วยสร้างรายได้ให้แก่คนในชุมชนสหกรณ์ครู จังหวัดสุราษฎร์ธานี

Batik Legacy โดย ดาหลาบาติก

สืบทอดวิธีการทำผ้าบาติกโบราณที่สะท้อนการผสานวัฒนธรรมทั้งมลายู จีน และไทย ผ่านการพัฒนางานบาติกพิมพ์โลหะให้ร่วมสมัย เน้นการออกแบบจัดวางลายผ้าใหม่ ลดทอนลายบางส่วน โดยยังคงใช้การผสมสีแบบดั้งเดิม

A Finesse of Bamboo โดย 247 Studio

เพิ่มมูลค่าให้งานจักสานไม้ไผ่ลาย “ดาวล้อมเดือน” ของชาวบ้านในอำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี รวมถึงงานจักสานเตยปาหนันของศิลปาชีพ โดยนำมาผสมผสานกับงานโลหะให้เป็นกล่องใช้เก็บเครื่องประดับ

Kiri by Silaplant โดย บ้านเบญจรงค์บางช้าง

ใช้เทคนิคการทำเครื่องเคลือบศิลาดล ซึ่งมีผิวแตกลายงาบนพื้นสีเขียวใส โดยเคลือบแบบไม่เต็มใบ ทำเป็นกระถางต้นไม้พร้อมขาตั้งโลหะ ที่ออกแบบให้เป็นขาตั้งแบบสูง แต่เมื่อพลิกกลับวางอีกด้านก็กลายเป็นขาตั้งแบบเตี้ยได้ด้วย

พัน โดย ละมุนละไม คราฟต์สตูดิโอ

ต่อยอดงานเซรามิกสู่ของตกแต่งบ้าน โดยทดลองพิมพ์ลายบนดินด้วยการนำเชือกมาพันให้เกิดร่องรอย ผสานกับเทคนิคการทำสีด้วยผงโลหะ ออกมาเป็นชุดของตกแต่งบ้านหลากหลายสีสัน ลวดลาย และผิวสัมผัส

A Thread of Hemp โดย ผลิตภัณฑ์ใยกัญชงทรายทอง

ต่อยอดผลิตภัณฑ์ผ้าใยกัญชงให้มีความแปลกใหม่นอกเหนือไปจากเครื่องเเต่งกายและกระเป๋า โดยถักเส้นใยกัญชงแบบโครเชต์ให้โปร่ง ออกแบบเป็นของตกแต่งอย่างโคมไฟห้อยเพดาน และตะกร้าใส่ของ

สะเอว โดย NERA

ต่อยอดเทคนิคการร้อยลูกปัดประดับบนชุดมโนราห์ โดยลดทอนลวดลายให้เรียบง่าย เลือกใช้ลูกปัดสีใสและสีขาว ออกแบบรูปทรงให้โค้งเว้าสะท้อนถึงรูปทรงของชุดมโนราห์ และถักเป็นยูนิตซ้ำกันเพื่อประกอบได้หลากหลายแบบ

Universe โดย บ้านรักเฉลิมพระเกียรติ InnoYa

พัฒนาเทคนิคการทำผ้าบาติกข้าว โดยเลือกใช้สีสันแปลกใหม่ขับเน้นลวดลายที่เกิดจากรอยแตกของแป้งที่บดจากข้าว ดูคล้ายกับภาพดวงดาว ทำเป็นโคมไฟตกแต่งผนังและฝ้าเพดาน

ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.sacict.or.th 

ดาวน์โหลด E-Book SACICT Concept 2020