ต้นแบบของผู้หญิงแถวหน้าทำงานที่ต้องดูแลครอบครัวและดูแลงานที่รับผิดชอบ กรณิศ งามสุคนธ์รัตนา สาวเก่งที่สวมหมวก 2 ใบ ทำหน้าที่ดูแลลูกๆของตนเอง และดูแลลูกบ้านในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งทำงานสองหน้าที่ด้วยหลักยึดเดียวกันที่ใช้ “ใจ” ทำงาน

กรณิศ งามสุคนธ์รัตนา ทำหน้าที่ตัวแทนประชาชนในฐานะ ส.ส.เขตคลองเตย และวัฒนา กรุงเทพมหานคร พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ซึ่งในบทบาทการเป็นนักการเมือง ต้องดูแลความเดือดร้อนของประชาชน อีกบทบาทที่สำคัญอย่างยิ่งยวดไม่แพ้กันคือ บทบาทคุณแม่ที่ดูแลลูกชายทั้ง 3 คน ผู้หญิงแถวหน้าคนนี้บอกว่าทั้ง 2 บทบาท มีสิ่งเหมือนกันคือเป็นเรื่องของการดูแลที่ต้องใช้ “ใจทำ” ทั้งสิ้น เริ่มต้นจากการดูแลลูกๆ แม้งานจะรัดตัว แต่ทุกครั้งที่เธอมีเวลาจะตื่นแต่เช้า เพื่อทำกับข้าวให้ลูกๆ ส่วนเวลาว่างก็พยายามให้เวลาพูดคุยกับลูกๆ เหมือนเพื่อน เพื่อจะได้รู้ว่าลูกคิดอย่างไร และสอนพวกเขาไปด้วย เช่นเดียวกับการดูแลประชาชน ที่ต้องดูแลเขาเหมือนคนในครอบครัวเช่นกัน ความทุกข์ของพวกเขาคือความทุกข์ของเราเหมือนกัน เราทำงานด้วยใจ เป็นผู้ฟังที่ดี ต้องเปิดใจรับฟังและแก้ปัญหาให้เขา พัฒนาคุณภาพชีวิตของเขา

...

“การเข้ามาทำงานในการเมือง เป็นเพราะครอบครัวให้การสนับสนุน ลูกๆเติบโตขึ้น สามารถดูแลตัวเองได้แล้ว ทำให้มีเวลามากขึ้น จริงๆเป็นคนที่ชอบการทำงานหนัก และทำงานตลอดเวลาอยู่แล้ว การทำหลายบทบาทไปพร้อมๆกันจึงไม่เป็นปัญหา แต่กลับกลายเป็นความสนุก ส่วนตัวเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับการรักในสิ่งที่ทำมาก เพราะเชื่อว่าเป็นพื้นฐานสำคัญที่ทำให้ทุกสิ่งที่ทำออกมาได้ ดี เพราะทำด้วยใจจริงๆ”

ในการ ทำงาน กรณิศ ย้ำว่า ทุกบทบาทตนยึดหลัก “ใจเขาใจเรา” อย่างหน้าที่ ส.ส. เราต้องเข้าไปนั่งในใจประชาชนว่าเขารู้สึกอย่างไร และต้องการความช่วยเหลืออะไร ไม่ได้มองเป็นงานการเมือง แต่มองเป็นงานตัวแทนที่ได้ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในความสามารถที่พอจะช่วยได้ ในส่วนของหน้าที่ “แม่” ตนเลี้ยงดูลูกด้วยการปล่อยให้ลูกๆได้เรียนรู้ด้วยตัวเองมาตั้งแต่เด็ก ได้ลองผิดลองถูกเอง โดยพ่อแม่จะเป็นผู้แนะนำให้ คอยสอนและชี้นำในสิ่งที่ถูกและไม่ถูก ไม่บังคับแต่จะใช้เหตุผล ที่สำคัญคือสอนให้ลูกๆใฝ่ดี รู้ผิดชอบชั่วดีและรักตัวเอง ซึ่งเป็นพื้นฐานสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งต้องบาลานซ์ทั้ง 2 บทบาทให้ดีที่สุด

พร้อมกันนี้ ในฐานะผู้หญิงยุคใหม่ ที่ต้องสวมบทเป็นทั้งคุณแม่และ อีกหลายบทบาท สาวเก่งคนนี้ จึงมีข้อแนะนำว่า ผู้หญิงยุคนี้ต้องทำงานหลายอย่างควบคู่กันไปนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย จากการทำงาน เป็นผู้แทนฯ ตนได้เห็นถึงคุณแม่ที่ยากลำบาก เพราะมีภาระทั้งทางด้านเศรษฐกิจและครอบครัว ยิ่งตอนนี้ที่ทุกคนต่างได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ในฐานะ ส.ส. เราพยายามเข้าไปช่วยคุณแม่ เรามีโครงการเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของแม่และเด็ก ที่คุณแม่ต้องทำงาน หรือโครงการส่งเสริมอาชีพ จัดสัมมนา สอนเรื่องการสร้างและพัฒนาอาชีพ จึงอยากฝากให้ทุกคนอดทน และทำหน้าที่ของแม่ให้ดีที่สุด เพราะเราเป็นสิ่งยึดเหนี่ยว และที่พึ่งพา เป็นกำลังใจของลูกๆและครอบครัว.