พิธีสะเดาะเคราะห์บูชา “พระราหู”... ตั้งนะโม 3 จบ กินนุสันตะระมาโน วะราหุ สุริยัง ปะมุญจะสิ สังวิคคะรูโป อาคัมมะ กินนุ ภีโต วะติฎฐะสีติ สัตตะธาเม ผะเล มุทธา ชีวันโต นะ สุขัง ละเภ
พุทธะคาถา ภิคีโตม์หิ โน เจ มุญเจยยะ สุริยันติ กินนุสันตะระมาโน วะ ราหุ จันทัง ปะมุญจะสิ สังวิคคะรูโป อาคัมนะ กินนุ ภีโต วะติฎฐะสีติ สัตตะธาเม ผะเล มุทธา ชีวันโต นะ สุขัง ละเภ
พุทธะคาถา ภิคีโตม์หิ โน เจ มุญเจยยะ จันทิมันติ
พระคาถาสวดบูชา “พระราหู” ข้างต้นนี้ เชื่อศรัทธากันว่ามุ่งหมายเพื่อ “ยกดวง” หรือ “แก้ดวงตก” พ้นทุกข์ ปราศจากเคราะห์ซ้ำกล้ำกรายขยับขยายดวงชะตาให้ดีขึ้น ชีวิตดำเนินไปได้อย่างราบรื่น
ขอให้ได้พบได้เจอแต่สิ่งที่ดีๆสมปรารถนาดั่งตั้งใจได้ทุกๆเรื่อง...ทุกๆจังหวะเวลา

สำหรับของไหว้ “พระราหู” นั้น...เนื่องจากว่ามีความเกี่ยวพันกับเลข “8”...มีกำลัง “12” ของไหว้ราหูจึงต้องเป็น 8 อย่าง หรือ 12 อย่าง ซึ่งจะต้องประกอบไปด้วยของคาว ของหวาน ผลไม้ เครื่องดื่มที่เป็นสีดำปรุงสุกแล้ว ที่นิยมนำมาเป็นเครื่องบูชา เช่น ไก่ดำต้ม เหล้าดำ กาแฟดำ เฉาก๊วย น้ำอัดลม...น้ำหวานสีดำ
...
ซุปไก่ดำ งาดำ ถั่วดำ ข้าวเหนียวดำ สาหร่ายดำ ไข่เยี่ยวม้า ปลาดุกย่าง ฯลฯ หรือจัดหาจัดเตรียมได้ตามสะดวกและเหมาะสม
กล่าวกันว่านอกจากสิ่งของเครื่องบูชาเหล่านี้แล้ว ผู้ศรัทธายังต้องเตรียมน้ำเปล่าไว้ 1 แก้วพร้อมกับดอกไม้สีดำ ธูปตามจำนวนของที่นำมาไหว้ หากจะให้ดีธูปที่ใช้ก็ต้องสีดำด้วยเช่นกัน
ขั้นตอนการไหว้...ให้หันหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ช่วงเวลาควรไหว้บูชาตั้งแต่เวลา 23.05 น.เป็นต้นไป เริ่มด้วยจุดธูปเทียนพร้อมตั้งนะโมเริ่มบทสวดตามพระคาถาบูชา
@ @ @ @
ว่าด้วยการกำเนิด “พระราหู” มีบันทึกไว้ 4 ตำนานด้วยกัน...ใน “ฤคเวท” พระราหูมีนามว่า “สวรรภานุ” เกิดรู้สึกอิจฉาพระอาทิตย์จึงจับพระอาทิตย์กลืนไว้ พระอินทร์จึงใช้จักรตัดหัวสรรภานุ ปลดปล่อยพระอาทิตย์ออกมา ตำนานถัดมาอยู่ในพระพุทธศาสนาพระราหูมีนามว่า “พระอสุรินทราหู” เป็นอุปราช คู่กับท้าวพรหมทัตตาสูร อยู่เมืองอสูรทางเหนือ เป็นเทวดาตระกูลเนวาสิก ที่มีท้าวเวปจิตติ เป็นใหญ่ ต่อมาท้าวสักกะได้ยึดอำนาจ ขับไล่พวกเทวดาตระกูลเนวาสิกลงมาจากเขาพระสุเมรุในขณะที่กำลังเมาสุรา
ทำให้พวกเทวดาเหล่านี้ประกาศตนใหม่ว่าเป็นพวก “อสุรา” หรือ “อสูร” สร้างเมืองอสูรขึ้นมาในหุบเขาตรีกุฎ ใต้เขาพระสุเมรุ นอกจากนี้ตามบันทึกนี้ “พระอสุรินทราหู” ยังเป็นพระโพธิสัตว์ที่จะได้เป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตอีกด้วย
ตำนานกำเนิดที่สามตามคติไทย พระศิวะได้สร้างพระราหูขึ้นมาจากการที่ทรงนำหัวผีโขมด 12 หัว บดป่นเป็นผง ห่อด้วยผ้าสีทอง บางตำราก็ว่าห่อด้วยผ้าสีทองสัมฤทธิ์แล้วประพรมด้วยน้ำอมฤตแล้วเสกได้เป็น “พระราหู” ที่มีวรกายเป็นสีนิลออกไปทางสีของทองสัมฤทธิ์
ทั้งยังมีวิมานสีนิลอยู่ในอากาศประจำอยู่ทางทิศพายัพ หรือทิศตะวันตกเฉียงเหนือ

ตำนานกำเนิดสุดท้ายตามคติฮินดู “พระราหู” เป็นโอรสของท้าวเวปจิตติ ราชาแห่งเหล่าทานพและนางสิงหิกาน้องสาวของราชาแทตยหิรัณ์-ยกศิปุ เมื่อเกิดมีกายเป็นอสูรและมีหางเป็นนาค
เรื่องราวเล่าขานน่าสนใจฉบับนิทานพื้นบ้านมีอีกว่า “พระราหู” ในอดีตชาตินั้นได้เกิดร่วมท้องเดียวกับเทวดานพเคราะห์สององค์ คือ “พระ อาทิตย์” และ “พระจันทร์” พระราหูเป็นน้องคนสุดท้อง
ครั้งหนึ่งได้ร่วมทำบุญถวายพระที่มารับบิณฑบาตร่วมกับพี่น้องทั้งสองคน พระอาทิตย์ตักบาตรด้วยภาชนะทอง พระจันทร์ตักบาตรด้วยภาชนะเงิน ส่วนพระราหูตักบาตรด้วยภาชนะที่ทำมาจากกะลามะพร้าว
เมื่อทั้งสามพี่น้องได้เกิดมาเป็นเทวดานพเคราะห์ พระอาทิตย์ จึงมีรัศมี...วรรณะเปล่งปลั่งดุจทองคำ ส่วน พระจันทร์ นั้นก็มีรัศมี ...วรรณะสุขปลั่งขาวสว่างดุจเงิน และ พระราหู มีรัศมี...วรรณะเป็นสีนิลออกไปทางทองสัมฤทธิ์ ซึ่งในบางตำราก็ว่ากายของพระราหูนั้นมีสีดำบ้าง สีเขียวบ้าง สีทองบ้าง...แตกต่างกันออกไป
...
“พระราหู” เป็นเทวดานพเคราะห์ประเภทบาปเคราะห์ ให้ผลในทางลุ่มหลงมัวเมา ฝักใฝ่ในทางด้านมืด...เป็นมิตรกับพระเสาร์ เป็นศัตรูกับพระพุทธ ในทางโหราศาสตร์ไทย พระราหูถูกแทนด้วยเลข 8 และด้วยเหตุที่สร้างขึ้นมาจากหัวผีโขมด 12 หัว จึงมีกำลังพระเคราะห์เป็น 12...ว่ากันว่าเป็นเทวดาของผู้ที่เกิดวันพุธกลางคืน

@ @ @ @
“พระราหู”...กล่าวกันว่ามีความเชื่อศรัทธาให้บูชาด้วยของดำ 8 อย่าง เช่น ไก่ดำสื่อถึงทำมา หากินได้ดิบได้ดี มีโชคมีชัย ไม่มีอด...เหล้าดำ สื่อถึงการลงทุนไม่ว่าจะทำอะไรก็ตามก็จะไม่ขาดทุน ไม่มี เจ๊ง ว่าง่ายๆกันอย่างนั้น... เฉาก๊วย สื่อถึงความเย็นฉ่ำภายในใจ จักคิดทำการใดไม่ว่าใหญ่หรือเล็กก็ให้ค่อยๆคิด ค่อยๆทำ ใจเย็นๆ ความสำเร็จอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม...กาแฟดำ สื่อถึงจักคิดการสิ่งใดก็ให้สมหวังไปทุกเรื่อง
ข้าวเหนียวดำ สื่อถึงความเหนียวแน่น เข้มแข็งด้านสถานะการเงิน ความคล่องตัวในการหมุนเงินไม่ติดขัด เหนียวแน่นประดุจข้าวเหนียวที่จับตัวรวมกันเป็นกลุ่มก้อนกันอย่างไม่เสื่อมคลาย...
...
ไข่เยี่ยวม้า สื่อถึงการจักทำสิ่งใด ติดต่อกับใครก็สำเร็จลุล่วงได้ดั่งใจหวัง สมหวังตั้งใจไม่ว่าจะเจรจาต่อรองใดๆก็ตาม...ถั่วดำ สื่อถึงความเจริญงอกงาม รุ่งเรืองตามที่ใจคิดปรารถนา และสุดท้าย ขนมเปียกปูน สื่อถึงการได้มาซึ่งบำเหน็จ รางวัล ตามที่ตั้งใจหมายปอง
โดยเฉพาะใน “วันพุธ” ขอให้ได้ไปไหว้ขอพระราหูจักมีโชค มีลาภ ร่ำรวยเงินทองไหลมาเทมา เพราะถือกันว่าพระราหูเป็นเทพเจ้าแห่งโชคลาภ...ความร่ำรวย
ส่วนใครที่เกิดปีชวด ฉลู ขาล เถาะ มะโรง มะเส็ง มะเมีย มะแม วอก ระกา และปีกุน...เชื่อกันมากว่าหากมาขอบารมีพระราหูให้หนุนนำส่งเสริม จะเป็นการเปิดเคราะห์

นำโชคลาภมาสู่ตัว รับพรได้สำเร็จสมหวังกันได้อย่างถ้วนทั่วทุกประการ
“พระอสุรินทราหู โพธิสัตว์” วัดเขาซก จ.ชลบุรี บูชาด้วยพระคาถาสุริยะบัพพา-จันทรบัพพา อีกหนึ่งแห่งที่เป็นศูนย์รวมศรัทธาของผู้คนหลั่งไหล เข้ามาทำบุญ สักการะ มุ่งหวังปัดเป่าเคราะห์ร้าย ทุกข์โศก...จะช่วยได้มากได้น้อยอย่างไรนั้นคงต้องดำเนินเป็นไปตามกำลังบุญทำกรรมแต่งสั่งสมของแต่ละบุคคล
...
“ศรัทธา”...นำมาซึ่งปาฏิหาริย์? เชื่อ ไม่เชื่อโปรดอย่าได้...“ลบหลู่”.
รัก–ยม