เปิดเวทีพระเครื่องสำนักข่าวหัวเขียวด้วย ธรรมะของ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ว่า “มองโลกในแง่ดี ก็หลอกตัวเอง มองโลกในแง่ร้าย ก็หลอกตัวเอง มองโลกด้วยใจเป็นกลาง จึงเห็นโลกอันแท้จริง” ข้าพเจ้าชอบมาก เพราะถ้าเราเห็นความจริงของโลกแล้ว และพยายามยอมรับให้ได้ ก็เท่ากับเข้าใกล้อริยสัจ 4 (ทุกข์ สมุทัย นิโรค มรรค) 4 ความจริงอันประเสริฐ ที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ เห็นทุกข์ เหตุแห่งทุกข์ ทางดับทุกข์ หนทางดับทุกข์--แล้วเราก็จะพ้นทุกข์ ถ้ารู้แจ้งเห็นจริง
ต่อเข้าสนามพระอาทิตย์สุดท้ายของเดือนห้ากันแล้ว เริ่มกันที่ พระสมเด็จ บางขุนพรหม พิมพ์สังฆาฏิ วัดใหม่อมตรส แขวงบางขุนพรหม เขตพระนคร กรุงเทพฯ ของ เสี่ยศุภชัย สายัณห์ เห็นปั๊บก็รู้ได้ว่าเป็นพระแท้ สภาพสวยเนี้ยบ ที่ต้องชื่นชม
ทั้งฟอร์มทรง พิมพ์พระ เส้นศิลป์ และสภาพคราบกรุที่มีแต่เพียงบางๆ เปิดเห็นพิมพ์พระแบบเต็มร้อย เส้นบังคับพิมพ์ที่เป็นเอกลักษณ์โดดเด่นเฉพาะพิมพ์ ก็มีให้ส่องศึกษาชัดเจนถูกต้องตรงสเปก สรุปได้ว่าเป็นพระดีพรีเมียม ที่นับวันจะมีคุณค่าหายากมากขึ้นๆ แค่ภาพถ่ายยังจะหาดูยากเลย
...
รายการที่สอง เป็น พระผงสุพรรณ พิมพ์หน้าแก่ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ สุพรรณบุรี พระเครื่องยอดนิยมอันดับ ๑ ของเมืองสุพรรณบุรี ที่ “ตรียัมปวาย” เห็นความสำคัญในความเป็นพระพิมพ์พุทธศิลป์สมัยอู่ทอง ที่มีประวัติการสร้างอย่างยิ่งใหญ่
เข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ ทั้งพิธีกรรมพิธีการ โดยมหากษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา (สมัยพระเจ้าอู่ทองหรือเจ้าสามพระยา) และ พระมหาเถรปิยะทัสสีสารีบุตร เป็นประธาน ฝ่ายสงฆ์ พระฤๅษีพิมพาลัย เป็นประธานฝ่ายฤๅษี
จัดสร้างพร้อมพระพิมพ์รูปแบบศิลปะสมัยต่างๆ มากมาย หลายแบบ หลายขนาด เช่น พระกำแพงศอก กำแพงนิ้ว พระมเหศวร พระสุพรรณหลังผาล พระปทุมมาศ ฯลฯ ซึ่งล้วนเป็น พระเนื้อชิน
มีเพียง พระผงสุพรรณ เพียง ๑ เดียวที่เป็น เนื้อดินผสมว่าน แยกได้เป็น ๓ พิมพ์ คือ หน้าแก่ หน้ากลาง หน้าหนุ่ม
นำขึ้นจากกรุอย่างเป็นทางการเมื่อปี พ.ศ.๒๔๕๖ สมัย พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ร.๖ เสด็จ ประพาสเมืองสุพรรณ นายอี้ กรรณสูตร เจ้าเมืองสมัยนั้น ได้นำพระที่ค้นพบส่วนหนึ่ง ทูลเกล้าฯถวาย พระองค์จึงพระราชทานข้าราชบริพารตามเสด็จ นำไปใช้ บูชาติดตัว
ปรากฏมีอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่เลื่องลือสูง มีชื่อเสียง ได้รับความนิยมแสวงหากันมาก โดยเฉพาะ พระพิมพ์หน้าแก่ ที่ได้รับความนิยมสูงสุด ยิ่งเป็นพระแท้องค์งามๆ ดูง่ายๆ โชว์ได้ใช้ดี อย่างองค์นี้ ของ เสี่ยจตุโชค สัยยะนิฐี ศูนย์พระเครื่องธนบุรี
ตามมาด้วย พระคง กรุเก่า วัดพระคงฤๅษี อ.เมือง ลำพูน องค์งามหล่อ ระดับซุปเปอร์สตาร์ ของวงการพระเครื่อง
ด้วยความงดงามของพิมพ์ทรงองค์พระ ที่มีเส้นศิลป์ปรากฏคมชัด ติดเต็มตลอด โดยเฉพาะ พระพักตร์ ที่ปรากฏรายละเอียด พระเนตร พระนาสิก พระโอษฐ์ ติดชัดแบบที่เรียกว่า หูตากะพริบ ซึ่งไม่ง่าย ที่จะได้พบเห็น
แม้จำนวน พระคง จะมีมาก แต่จะหาองค์ที่สวยเลิศแบบองค์นี้ ของ เสี่ยรัน ศรัณย์ยักษ์ ที่นักนิยมพระรุ่นครูบาอาจารย์ ให้ทรรศนะว่าน่าจะเป็นองค์ที่มีความประณีตในการกดพิมพ์เป็น พระนำฤกษ์ ในพิธี หรือไม่ก็เป็น พระคะแนนร้อย พระคะแนนพัน ที่ต้องมีความพิถีพิถันอย่างสูง ถึงออกมาสวยเชี้ยบ
ต่อไปเป็น พระปิดตา พิมพ์ชะลูด เนื้อผงคลุกรักจุ่มรัก หลวงปู่เอี่ยม ปฐมนาม วัดสะพานสูง อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
...
ท่านมีกำเนิดเป็นชาว ต.แหลมใหญ่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เมื่อปี พ.ศ.๒๓๕๙ ในสมัย พระบาทสมเด็จ พระพุทธเลิศหล้าฯ ร.๒ เมื่ออายุครบบวชได้อุปสมบทที่วัดใกล้บ้านอยู่จำพรรษา ๑ ปีจึงได้ย้ายไปอยู่ศึกษาพระปริยัติธรรมที่วัดกัลยาณมิตร และไปศึกษาพระกรรมฐานต่อที่วัดประยุรวงศ์ และได้ออกธุดงค์ แสวงหาความวิเวกปฏิบัติ วิปัสสนากรรมฐาน ได้สำเร็จภูมิธรรมชั้นสูง
ถึงราวปี พ.ศ.๒๓๙๖ จึงรับนิมนต์ญาติโยมกลับมาอยู่จำพรรษาเป็นเจ้าอาวาสวัดสะพานสูง ที่อยู่ในสภาพทรุดโทรม เป็นผู้นำพระชาวบ้านช่วยกันบูรณะวัด โดยมี หลวงพิบูลย์ฯ เป็นผู้บอกบุญ นำคนมาช่วยบูรณะศาสนสถาน พระอุโบสถ กุฏิ วิหาร ศาลาการเปรียญ
โดย หลวงปู่เอี่ยม ท่านได้เริ่มสร้าง ตะกรุดพระปิดตาโสฬสมหามงคล เนื้อผงคลุกรักจุ่มรัก ตามตำรับวิชาท่าน มี ผงพุทธคุณโสฬสมงคล กับ ผงพุทธคุณไตรสรณคม เป็นส่วนผสมหลักพิมพ์เป็นองค์พระปิดตามหาลาภ มาตรฐาน ๔ แบบ คือ พิมพ์ชะลูดใหญ่ พิมพ์ชะลูด พิมพ์ตะพาบ พิมพ์พนมมือ (ครึ่งซีก) สมนาคุณผู้ร่วมกุศลสร้างวัดกับท่าน
ปรากฏว่ามีผู้ศรัทธาร่วมกุศลกับท่านกันมาก ขนาดสร้างพระแจกไม่ทัน เพียง ๓ พรรษา ท่านก็บูรณะวัดสำเร็จเรียบร้อย
ปัจจุบันพระปิดตาของท่านมีชื่อเสียงได้รับความนิยมสูงเป็น อันดับ ๒ ใน ทำเนียบพระปิดตาเนื้อผง รองจาก พระปิดตา หลวงพ่อแก้ว วัด เครือวัลย์
ซึ่งถ้าถามศิษย์สายตรง จะได้รับคำตอบว่า ราคาค่าความนิยมอาจจะแตกต่าง แต่ก็ไม่ห่างอยู่ หลักมากล้านเหมือนกัน แต่เรื่องพุทธานุภาพความศักดิ์สิทธิ์มีครบเครื่อง เรื่องแคล้วคลาด เมตตา มหานิยม มหาโชค มหาลาภ ไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน แน่นอน
อย่างองค์นี้ของ เดอะ โทน ทองพระเครื่อง ซึ่งเป็น พระพิมพ์มาตร ฐาน นิยมสุด ที่มีสภาพสมบูรณ์งดงาม เดิมๆ แล้วยังมีประสบการณ์ยืนยันความเข้มขลังมากมาย
...
ตามมาด้วย เหรียญข้าวหลามตัด รุ่นแรก พ.ศ.๒๕๐๗ เนื้ออัลปาก้า หลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง อ.ปากเกร็ด นนทบุรี สร้างโดย หลวงปู่ทองสุก เจ้าอาวาสองค์ที่ ๓ ลักษณะเป็น เหรียญปั๊ม รูปทรงสามเหลี่ยมข้าวหลามตัด ยกขอบสูง
ด้านหน้าเหรียญเป็นรูปจำลององค์หลวงปู่เอี่ยม นั่งสมาธิลอยองค์ ล้อมด้วยอักษรไทยบอกนาม หลวงปู่เอี่ยม ด้านหลังเหรียญ เป็น อักขระเลขยันต์ พุทธสังมิ เนื้อเหรียญมีทองแดง กับอัลปาก้า แบบเหรียญนี้ ของ เสี่ยอนุศักดิ์ กิติศิริสวัสดิ์ ซึ่งเป็น เหรียญบล็อก ยันต์เล็ก ที่ได้รับความนิยมสูงสุด
...
ต่อไปขอเสนอ พระพุทธรูปบูชา พุทธศิลป์สมัยสุโขทัย หน้าตัก ๖" ศิลปะพระพุทธรูปสมัยสุโขทัย ได้ชื่อเป็นพระพุทธรูปลอยองค์ของไทยอย่างแท้จริง ได้รับความนิยมเป็นสากล ด้วยพุทธศิลป์แบบเพียวอาร์ต ที่กำเนิดด้วยจินตนาการของช่างไทยทุกอณู
ได้รับความนิยมแสวงหาไว้บูชา เพื่อความร่มเย็นเป็นสุข แยกยุคสมัย เป็น ยุคต้น (คลาสสิก) ยุคกลาง ยุคปลาย พิจารณาความแตกต่างได้จากรูปทรงองค์พระ รายละเอียดของเส้นสายลายศิลป์ และอายุเนื้อโลหะ อย่างองค์นี้ของ เสี่ยพรรค คูวิบูลย์ศิลป์ พิจารณาได้ว่าเป็น พระยุคกลาง ที่มีความสมบูรณ์ งดงาม แบบ ถึง ยุค ถึงศิลป์
อีกองค์เป็น พระพุทธรูปบูชา พุทธศิลป์ สมัยเชียงแสน สิงห์ ๓ หน้าตัก ๘" เป็นพระพุทธรูปพุทธศิลป์สมัยเชียงแสน ยุคปลาย ที่รับอิทธิพล พุทธศิลป์สมัยสุโขทัยผสม
พิจารณาได้จาก พระพักตร์ เป็นแบบ ทรงกลมรูปไข่ และสัดส่วนองค์พระที่ดูอ่อนช้อยสะโอดสะองมากกว่า พระเชียงแสนยุคต้นๆ จึงเป็นการผสมผสานพุทธศิลป์ ๒ สมัยได้อย่างลงตัว มีความงดงาม สร้างศรัทธา ให้มีผู้แสวงหากันมาก เนื้อโลหะถึงยุค แบบองค์นี้ ของ เสี่ยเต้ พิษณุโลก คนชอบพระบูชา เห็นแล้วคงอยากคุยด้วยเยอะ
สุดท้ายเป็น ตะกรุดไม้ครู หลวงพ่อน้อย วัดศีรษะทอง อ.นครชัยศรี นครปฐม ซึ่งมีประวัติบันทึกด้านการศึกษาวิชาพุทธาคมของท่านว่า ก่อนมาอยู่จำ พรรษาจนได้เป็นเจ้าอาวาส วัดศีรษะทอง ท่านได้เคยเป็นศิษย์ของ พระอธิการยิ้ว วัดแค และ พระอธิการเกิด วัดงิ้วราย จ.นครปฐม เมื่อเรียนจบ จึงเดิน ทางไปเรียนวิชา สร้างวัวธนูและราหูอมจันทร์ กับ หลวงพ่อลี (ศิษย์เอก หลวงพ่อไตร) จนได้รับตำแหน่งเจ้าอาวาส
ระยะแรกๆท่านได้สร้างวัตถุมงคลเครื่องรางของขลังต่างๆตามตำรับวิชาที่รับสืบทอดมาจากประเทศลาว ที่มีความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์สูง อย่าง ตะกรุดไม้ครู นี้เป็นเครื่องรางที่ท่านสร้างออกในยุคต้น จารอักขระรอบด้านด้วยอักษรธรรมลาว แบบเดียวกับที่ใช้จารลงบน พระราหูกะลาแกะ เป็นที่รู้กันในศิษย์ใกล้ชิด ว่ามีอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์สูงด้านโชคลาภ ขจัดเคราะห์ เสริมดวงชะตา แต่จำนวนสร้างมีน้อย หายากมากในยุคปัจจุบัน อันในภาพนี้ของ ดร.ณัฐธัญ มณีรัตน์ ผู้มีชื่อเสียงในการเรียนรู้เรื่องอักขระเลขยันต์ วิชาอาคม อย่างรู้ลึก รู้จริง
ลาเดือนพฤษภา ด้วยเรื่องปิดท้าย ของ เสี่ยวัชระ กับภรรยา วิภา สามีภรรยาข้าราชการวัยเกษียณ มีลูกชายโทน ชื่อ วิศวะ เป็นเด็กสุภาพเรียบร้อย เพราะพ่อแม่เลี้ยงดูอบรมอย่างดี และกำลังจะเรียนจบปริญญา
พอเกิดเหตุโรคระบาดโควิค-๑๙ พ่อแม่ก็เป็นห่วง หวังพึ่งคุณพระ จึงพาลูกชายไปกราบพระเกจิฯชื่อดัง เพื่อขอพระเครื่องของขลังให้ลูกชายใช้คุ้มครองตัว เมื่อไปถึงลูกชายก้มกราบพระเกจิฯอย่างอ่อนน้อม แล้วพ่อก็บอกวัตถุประสงค์ให้พระเกจิฯทราบ
พระเกจิฯก็ชี้ไปที่ตู้วัตถุมงคล บอกให้ นายวิศวะ ไปเลือกเอา ชอบอันไหนเอามาให้หลวงพ่อ จะปลุกเสกกำกับมอบให้กับมืออีกครั้งเพื่อความมั่นใจ
นายวิศวะ ก็เดินไปที่ตู้วัตถุมงคลตามพระเกจิฯบอก พ่อ แม่ ก็ยิ้มปลื้มมองตาม ก่อนได้ยินเสียงพระเกจิฯพูดว่า ลูกชายดูสุภาพเรียบร้อยดี แต่ต้วมเตี้ยมคล้ายผู้หญิงเลยนะ แม่ฟังก็ตอบแบบรู้ทันว่า เขาเป็นผู้ชาย ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ ไม่ใช่กะเทยแน่ค่ะ
ก็พอดีลูกชายเดินกลับมาโดยไม่มีวัตถุมงคลใดๆในมือ แม่ก็ถามว่าไม่ชอบอะไรเลยหรือ ลูกชายก็ส่ายหน้าบอกมีแต่พระไม่ชอบ แล้วหันหน้าไปถามพระเกจิฯว่า ผมชอบ ปลัดขิก แต่ไม่เห็นมีซักอันคราวนี้ พระเกจิฯสบตาคุณแม่ ถามว่าแน่ใจ ๑๐๐% อยู่ไหม ว่าลูกแมนแน่ คราวนี้แม่ตอบเสียงแผ่วว่า ๕๐:๕๐ เจ้าค่ะ อามิตตพุทธ.
สีกาอ่าง