ศาลพระพรหมเอราวัณ หรือ เทวสถานท่านท้าวมหาพรหม สี่แยกราชประสงค์เป็นจุดหมายปลายทางที่ช่วงปกติมีทั้งคนไทย และนักท่องเที่ยวเดินทางมาเคารพสักการะขอพรจำนวนมาก แต่เมื่อเกิดโรคระบาดโควิด-19 ต้องปิดตัวไปช่วงหนึ่ง แม้ขณะนี้เริ่มเปิดให้เข้าไปกราบไหว้ขอพรแล้ว แต่จำนวนคนที่มาก็น้อยลงกว่าเดิมมาก แต่ที่นี่ทุกคนยังสู้
จากการสำรวจของทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ พบว่าที่นี่ผู้คนบางตาไปมาก มีคนไทยเพียงจำนวนหนึ่งที่เข้ามากราบไหว้ขอพร และว่าจ้างคณะละครชาตรี เพื่อรำแก้บน และยังปรับเปลี่ยนเวลาปิดสถานที่ จากเดิมปิดเวลา 20.00 น. เปลี่ยนเป็นปิดเร็วขึ้น คือเวลา 18.00 น. ส่วนเวลาเปิดยังเหมือนเดิมคือ 06.00 น.
จากการที่ปิดเร็วขึ้น และมีคนมาน้อยลง ทำให้การว่าจ้างคณะรำแก้บนลดลงด้วย โดย ณิชาภา เรืองปานกัน หนึ่งในศิลปินจากคณะรวมศิลป์ เล่าให้ฟังว่าปกติ คณะละครที่ให้บริการรำแก้บน มีอยู่ 4 คณะ จากเดิมที่แบ่งเป็น 2 ช่วงเวลา เช้าและเย็น วันละ 2 คณะ แต่ตอนนี้เหลือเพียงวันละ 1 คณะ สลับกันมาในแต่ละวัน และรับว่าจ้างรำแก้บนได้ในเวลา 08:00-17:00 น.
...
ส่วนค่าจ้างคณะรำแก้บนนั้น ยังเป็นค่าบริการเดิม คือ นางรำ 2 คน 260 บาท 4 คน 360 บาท 6 คน 610 บาท และ 8 คน 710 บาท ขณะเดียวกันขอให้ผู้ที่มาที่นี่มั่นใจในมาตรการป้องกัน เพราะนางรำทุกคนจะใส่อุปกรณ์ป้องกัน คือ Face Shield ขณะทำการแสดง และจะใส่หน้ากากอนามัยในช่วงพักการแสดง และใช้แอลกอฮอล์ในการทำความสะอาดพื้นที่และอุปกรณ์ต่างๆ เป็นระยะ
สำหรับจำนวนคนที่มาสักการะท่านท้าวมหาพรหมเป็นคนไทยส่วนใหญ่ และชาวต่างชาติที่ยังอยู่อาศัยในไทย ซึ่งจากการนับจำนวนของเจ้าหน้าที่ประจำศาลท้าวมหาพรหมนับจำนวนได้ว่า เหลือเพียง 300-500 คนต่อวัน จากเดิมเคยมีเฉลี่ยวันละ 7,000-8,000 คน
สำหรับราคาขายเครื่องสักการบูชา และของแก้บน ยังคงเป็นราคาเดิม เช่น มาลัยพร้อมธูปเทียนชุดละ 25 บาท พวงมาลัย 7 สี 7 ศอก 35 บาท ช้างไม้ขนาด 6 นิ้ว 140 บาท
ในสถานการณ์นี้ สิ่งที่ทุกคนที่นี่ทำได้ นอกจากอดทนรอเวลาให้ทุกอย่างกลับคืนมา แม้ว่าตอนนี้คนยังมาไม่มาก และรายได้ลดลงไป แต่ก็ดีกว่ารอโดยไม่ทำอะไร เพราะมีรายได้น้อยยังดีกว่าไม่มีเลย.