วันนี้ ทุกคนหน้าตาแช่มชื่นม่วนชื่นขึ้น เพราะรัฐบาลเริ่มผ่อนปรนมาตรการ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อควบคุมการระบาดของโควิด-19 ลงไปพอสมควรตามความเหมาะสม โดยอนุมัติให้หลายกิจการเปิดได้หลายสาขาอาชีพ ซึ่งก็ทำให้ลดทั้งปัญหาปากท้อง และปัญหาความเครียด ทำให้คนได้ทำมาหากิน และได้เจอกันได้บ้าง ซึ่งเชื่อว่าทุกคนคงรู้แล้วว่าต้องระวังป้องกันตัวเองยังไงไม่ให้เสี่ยงติดเชื้อ
วันนี้มีคำสอนจาก หลวงพ่อวิริยังค์ แห่งสถาบันพลังจิตตานุภาพ มาฝากท่านผู้ชม ซึ่งเหมาะกับสถานการณ์ตอนนี้ ที่ผู้คนลนลานประสาทเสียกันเป็นแถว ท่านสอนให้กำหนดจิต ว่า “ถ้าจิตเป็นหนึ่งเมื่อไร ก็เกิดเป็นสมาธิ แล้วจะเกิดสติ เกิดปัญญาตามมา แต่ถ้าจิตไม่เป็นหนึ่ง ไม่เป็นสมาธิ มันก็จะคิดไปเลอะเทอะ ตามเรื่องตามราว ตามอารมณ์อันนั้น ถือว่าไร้สาระ”
...
ต่อเข้าสนามพระของเรา ซึ่งเริ่มด้วย พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์เกศ บัวตูม กรุเก่า วัดใหม่อมตรส แขวงบางขุนพรหม เขตพระนครกรุงเทพฯ จำได้ว่าเคยลงภาพไปแล้ว มาวันนี้ภาพมาในชื่อของ เสี่ยศุภชัย สายัณห์ แสดงว่ามีการซื้อขายเปลี่ยนมือเรียบร้อย ถึงบอกว่า พระแท้ องค์สวยๆ อยู่กับใครไม่นาน
นักนิยมพระรุ่นครูบาอาจารย์ สั่งสอนนักหนาว่า การได้ดูพระแท้ องค์งามๆ สภาพเดิม บ่อยๆ จะทำให้ ดูพระเป็น เล่นพระได้ อย่างรวดเร็ว อย่าง พระสมเด็จองค์นี้ ที่เป็นพิมพ์หายาก สภาพสมบูรณ์ โดยเฉพาะ พิมพ์พระมีความชัดลึก พื้นพิมพ์พระปรากฏคราบขาวของแป้งโรยพิมพ์เดิมๆ เป็นอีกจุดพิจารณาสำคัญ ที่บอกได้ว่าเป็นพระสภาพเดิมๆไม่มีการเซาะแต่งศัลยกรรมใดๆ
องค์ที่สอง คือ พระรอด พิมพ์ใหญ่ กรุวัดมหาวัน อ.เมือง จ.ลำพูน พระเครื่องทรงค่าราคาสูงสุดของเมืองเหนือ สภาพสมบูรณ์ มีริ้วรอยสัมผัสใช้เล็กน้อย ทำให้ผิวเนื้อมีสีเข้มดูดีมีพลังความเข้มขลังน่าศรัทธา
ฟอร์มองค์ได้รูปทรงดีเยี่ยม พิมพ์พระติดชัดลึกเสมอกันแบบสุดพิมพ์ ผนังโพธิ์ดูพลิ้วงามตามพุทธศิลป์สมัยหริภุญไชย เนื้อพระละเอียดเนียนนุ่มแน่น สีเนื้อมาตรฐานน้ำตาลพิกุลแห้งดูสวยซึ้งตา
โดยรวมเป็นพระหลักยอดนิยม สภาพสมบูรณ์ สวยมีเสน่ห์ น่ามอง แบบที่นักนิยมพระบอกว่า ยิ่งส่อง ยิ่งสวย นั่งส่อง นอนส่อง ได้ทุกวันไม่มีเบื่อ ก็ดีใจด้วยกับเจ้าของพระ เสี่ยบุญมาก มีสุขใจ ที่ชื่อนามสกุลดี แล้วยังมีพระชั้นยอดในครอบครอง
ลำดับสาม คือ พระพิมพ์ยืน ปางประทานพร กรุเจดีย์เล็ก วัดใหม่อมตรส แขวงบางขุนพรหม เขตพระนคร กทม. ของ เสี่ยอิทธิ ชวลิตธำรง แต่ไม่แน่ใจว่าเคยลงให้ชมไปหรือยัง แต่พระสวยๆ ดูแล้วก็ดูซ้ำได้ หน้าหลังสมบูรณ์งดงาม ทั้งรูปทรง พิมพ์พระ สภาพคราบกรุ เดิมๆ เป็นพระดีมีคุณภาพเข้าขั้น “พระองค์ครู” ได้อีกองค์
รายการต่อไป เป็น พระกริ่งประภามณฑล พ.ศ.๒๔๘๑ พระครูกัลยาณวิสุทธิ์ (อ.กึ๋น) วัดดอน เขตยานนาวา กทม. จัดสร้างแบบปั้นหุ่น ขึ้นช่อ เทหล่อแบบโบราณ ด้วยเนื้อโลหะผสม ประกอบพิธีเททองโดยอาราธนา สมเด็จพระสังฆราช (แพ ติสฺสเทว) เป็นประธานในพิธี
ลักษณะเป็นรูปจำลององค์ พระไภษัชยคุรุ พระพุทธเจ้าทางยา มีประภามณฑลหลังพระเศียร ประทับนั่งเหนือฐานบัวสองขั้น ในพระหัตถ์ซ้ายมีหม้อน้ำมนต์ พุทธศิลป์แบบมหายาน ใต้ฐานบรรจุเม็ดกริ่ง
...
ปัจจุบันเป็นพระกริ่งยอดนิยม ราคาหลักหมื่นปลายถึงแสนต้น ถือเป็นพระกริ่งฯสายวัดสุทัศน์ ที่มีอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ปรากฏเป็นประสบการณ์สูง ด้านเสริมสิริมงคล ป้องกัน โรคภัย กำจัดคุณไสย เสนียดจัญไร--ใครมีก็อาราธนามากันโควิด-19 เลย
ต่อไปเป็น เหรียญรุ่นแรก เนื้ออัลปาก้า พ.ศ.๒๕๐๗ ของ พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร วัดป่าถ้ำขาม สกลนคร ซึ่งได้รับความนิยมสูงสุด ราคาอยู่ที่ หลักล้าน
ลักษณะเป็น เหรียญปั๊ม ทรงกลมรูปไข่ ด้านหน้าเหรียญเป็นรูปจำลองหลวงพ่อ ด้านข้างครองผ้าจีวรลดไหล่ พาดผ้าสังฆาฏิครึ่งองค์
ด้านล่างมีอักษรไทย บอกชื่อ พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร ด้านหลังเหรียญ เป็นอักขระพระคาถาพญายูงทอง ว่า นะโมวิมุตตานัง นะโมวิมุตติยา ซึ่งเป็นคาถาภาวนาประจำตัวท่าน มีอานุภาพ ด้านคุ้มครองป้องกันภัย เมตตามหานิยมสูง
...
อีกเหรียญ เป็น เหรียญลงยา หลังหนุมาน เนื้อเงิน พ.ศ. ๒๔๘๒ พระครู นิวาสธรรมขันธ์ (หลวงพ่อเดิม พุทธสโร) วัดหนองโพธิ์ อ.พยุหะคีรี นครสวรรค์
เป็นเหรียญหลักยอดนิยมราคาหลักแสน เป็นเหรียญปั๊มทรงกลม รูปไข่ ด้านหน้าเป็นรูปจำลององค์หลวงพ่อนั่งสมาธิเต็มองค์ พื้นเหรียญลงยาสีเขียว มีอักขระพระคาถา รอบว่า อะสังวิสุโลปุสะพุภะ นะโมพุทธายะ
ด้านหลังเป็น รูปหนุมานเหิรหาว ล้อมด้วยอักขระพระคาถา นะมะนะอะ นอกอนะกะ กอ ออ นอ อะ นะอะกะอัง พุทธะสังมิ จิเจรุนิ นะมะพะทะ นะชาลีติ เมอะมะอุ หะนุมานะ อันมีอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ครอบจักรวาล เน้น ด้านพะบู๊ สู้ศึก ต่อสู้ แข่งขัน--เป็นเหรียญสร้างน้อย หายากสุดกว่าเหรียญรุ่นใด ในตระกูล
...
อีกรายการ ขอเสนอ พระพุทธรูปบูชา พุทธศิลป์สมัยอู่ทองยุคต้น (หน้าแก่) สนิมเขียว หน้าตัก ๕" ศิลปะในองค์พระงดงามตระการตา สมบูรณ์แบบด้วยศิลป์แห่งยุคสมัย ด้วยฝีมือช่างชั้นเทพ ที่แสดงเอกลักษณ์ของพุทธศิลป์แห่งยุคสมัย ไว้เป็นมรดกแผ่นดิน ให้ได้สืบสานถึงปัจจุบัน
นับอายุสมัยได้มากกว่า๗๐๐ ปี องค์พระยังมีสภาพสมบูรณ์ปรากฏสนิมเขียว (หยก) สนิมคราม คราบฝ้ารากรุขึ้นเกาะแน่นเข้าเนื้อ คลุมทั่วองค์ เสริมส่งให้องค์พระมีความงามสง่า ล้ำค่า บอกถึงรสนิยมในการเล่นหาสะสม แบบสากล ของ ดร.หมอ เจ้าของพระ
สุดท้ายเป็น พระราหู กะลาแกะ อาจารย์ปิ่น ฐาเนสโก วัดศีรษะทอง อ.นครชัยศรี นครปฐม พระเกจิอาจารย์ ศิษย์ผู้สืบทอดตำแหน่งเจ้าอาวาส และวิชาลงอักขระเลขยันต์ปลุกเสก พระราหู ของ หลวงพ่อน้อย นาวารัตน์
ท่านเป็นชาวลาวอพยพ เมื่อปีขาล พ.ศ.๒๔๕๗ ในสกุล ตะโกทอง มารดาท่านเป็นญาติกับ หลวงพ่อน้อย จึงอพยพมาอยู่ใกล้วัดเมื่อสมัยปลาย ร.๔ อยู่ถึงปี พ.ศ.๒๔๘๕ จึงให้ท่านอุปสมบทที่วัดศีรษะทองโดย หลวงพ่อน้อย เป็นพระอุปัชฌาย์
อยู่ศึกษาวิชาความรู้ กับ ล.พ.น้อยได้ ๓ พรรษา ตั้งใจจะลาสิกขา แต่ หลวงพ่อน้อย ซึ่งกำลังอาพาธ มองเห็นว่าท่านจะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาวัด จึงขอคำมั่นกับ อาจารย์ปิ่น ว่า อาตมาขอให้ท่านอยู่สร้างโบสถ์ให้เสร็จก่อนค่อยสึกจะได้ไหม ท่านก็รับปาก
จากนั้นไม่นาน หลวงพ่อน้อย ก็มรณภาพ ท่านจึงได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดศีรษะทอง ต่อ อยู่ถึงปี พ.ศ.๒๕๐๕ จึงสร้างโบสถ์เสร็จ พร้อมจัดพิธีฝังลูกนิมิตเสร็จเรียบร้อยเมื่อปี พ.ศ.๒๕๐๗ จึงได้ลาสิกขาที่วัดท่าผา อ.บ้านโป่ง ราชบุรี มาเป็นอาจารย์ฆราวาส
ขณะรับตำแหน่งเจ้าอาวาส ท่านได้สร้าง พระราหูกะลาแกะ ตามตำรับวิชาที่รับถ่ายทอด จาก หลวงพ่อน้อย มอบผู้ร่วมกุศลกับท่าน โดย กะลาแกะ ยุคแรก อย่างองค์นี้ เป็นฝีมือแกะโดย ลุงศรีใหญ่ ซึ่งเป็นผู้แกะ ราหูหน้าครู มาแต่สมัย หลวงพ่อน้อย
ความแตกต่างอยู่ที่ลายมือจารอักขระเป็นลายมือ อาจารย์ปิ่น อย่างองค์ของ เสี่ยเพชร มรดกไทย ซึ่งเป็นองค์ดารา ที่มีความสมบูรณ์งดงาม ราคาอยู่ที่หลักแสนต้นๆ
ลากันด้วยเรื่องปิดท้าย ในงานสวดพระอภิธรรมศพ เซียนพระรุ่นเก่า ที่เสียชีวิตด้วยโรคชรา
คืนที่มีพรรคพวกในวงการพระเครื่องเป็นเจ้าภาพ ก็มีนักนิยมพระ นักสะสมมาร่วมงานมากหน้าหลายตา ก่อนถึงเวลาพระสวด คนที่คุ้นเคยก็จับกลุ่มส่องพระกัน
ในจำนวนนั้นมี เสี่ยสุรินทร์ เจ้าของร้านปุ๋ย ซึ่งเป็นลูกค้าเช่าพระขาประจำกับผู้ตาย เห็นเซียนพระใหญ่ๆ ใครเห็นก็รู้จัก มานั่งอยู่ใกล้ๆ ก็แนะนำตัวทำความรู้จัก พร้อมขอให้ช่วยตรวจสอบพระที่คล้องคออยู่ ๙ องค์ บอกเป็นพระที่เช่าจากผู้ตายทุกองค์
เซียนใหญ่ก็รับพระไปส่องครบองค์ แล้วถามราคา เสี่ยสุรินทร์ ก็บอกไปตามความจริง เซียนใหญ่ก็พยักหน้า บอกทุกองค์เป็นพระแท้ แต่ราคาสูงไปหน่อย เป็นราคาอนาคต ถึงจะมีกำไร เสี่ยสุรินทร์ ฟังแล้วขมวดคิ้วถาม อนาคตขนาดไหน เซียนใหญ่ก็ตอบหยอกๆว่า ประมาณถึงลูกบวชมั้ง
เสี่ยสุรินทร์ ฟังแล้วคิดหนัก จะถามต่อ ก็พอดีพระสวด พอจบพิธี ก็แยกย้ายกันไป ถึงวันเผา มาเจอกันอีกครั้ง เสี่ยสุรินทร์ รีบเอา พระสมเด็จ บางขุนพรหม ที่คล้องคอมาองค์เดียว ให้เซียนใหญ่ดู บอกว่า เพิ่งซื้อผู้ตายมา ๓ ล้านเมื่อเดือนก่อน เซียนใหญ่ส่องแล้ว บอกองค์นี้แท้แน่และสวยด้วย ราคาก็ยุติธรรม ขายตอนนี้ ผมซื้อทันที ๒ ล้าน
เสี่ยสุรินทร์ ฟังแล้วยิ้มออกแต่ขอพระคืน บอกว่าผมสบายใจ ไม่ต้องรอกำไรถึงลูกบวชแล้ว เพราะผมเพิ่งจ่ายไป ๕ แสน เดี๋ยวผมจะเขียนเช็คให้อีก ๒.๕ แสน ใส่โลงเผาไป ผมก็มีกำไรแล้ว--สรุปว่าที่ซื้อพระราคาอนาคตมาแพงไป มีองค์ราคาปัจจุบันมาเฉลี่ย เคลียร์ได้ทั้งหมดเลย เจ้าค่ะ อามิตตพุทธ.
สีกาอ่าง