“ใจที่ฟุ้งกระเจิง มักยากจะกลับสู่ความสงบ พบที่พักด้วยตนเองไม่ได้ บางทีจึงต้องหาบางสิ่งที่สงบสุขกว่าตนเองมาช่วยปรับให้เข้าที่จะได้มีเวลานิ่งหายใจยาวแทนการไม่อยากมีลมหายใจกันบ้าง...ลองทอดตามองใบไม้และกิ่งก้านด้วยใจที่อ่อนโยน
...อ่อนโยนนานพอที่จะนิ่ง นิ่งนานพอที่จะรู้สึกผ่อนพัก พักนานพอที่ชีวิตจะแสดงความเรียบง่ายสบายดีไม่ต่างจากใบไม้และกิ่งก้านที่อยู่อย่างสันติและมีความผาสุก”
กระทั่งรู้สึกเป็น “สมาธิ” เข้าถึงความมี “ชีวิต” อันเบิกบานไร้ที่ติ หน้าท้องพองออก ลาก สายลมหายใจยืดยาว นิ่มนวล ระบายลมหายใจออก ปล่อยวางทั้ง “ความว่าง” และ “ความวุ่น”
ถ้าไม่สังเกต...สังเกตเสียวันนี้ ยังดี...ยังมีสิ่งมีชีวิตแสดงแม่แบบชีวิตแสนสุข ช่วยให้เข้าใจหรือกระทั่งพาเราเข้าถึงจิตวิญญาณที่เบิกบาน โดยไม่ลำบาก สังเกตบ่อย สงบบ่อย แล้วอยู่ต่อด้วยใจที่ไร้ทุกข์
...
“ความสุข...ไม่ใช่การได้อย่างใจ แต่เป็นการ ได้ใจรู้จักธรรม” Cr. เฟซบุ๊กเพจ “Dungtrin”
@ @ @ @
ศรัทธาความเชื่อเกี่ยวกับ “ฮู้” หรือ “ยันต์จีน” ยังเป็นกระแสนักเขียนผู้ใช้นามปากกาว่า “สิงห์สุริยันต์” สะท้อนประสบการณ์แบบไม่น่าเชื่อและไม่เคยเจอที่ไหนมาก่อนให้ฟังกรณี “ยันต์แช-เล้งฮู้” ของ คุณสง่า กุลกอบเกียรติ ผู้สร้างวิหาร เซียน นักธุรกิจมากมายนับถือท่านมาก ที่เคยไปหาท่านที่บ้านแล้ว
...เห็นท่านนั่งสบายๆบนเก้าอี้โซฟา มือจับอยู่บนหัวผู้หญิงวัยสักห้าสิบปี ร่างท้วมนั่งที่พื้นแบบหน้าแดงก่ำตัวสั่นพั่บๆๆๆ แค่แวบแรกนี้ภรรยาท่านก็ลากไปคุยด้วยที่อีกห้องหนึ่ง สักพักก็พามาหาท่านเซียน สิ่งที่เห็นคือหญิงที่หน้าแดงตัวสั่นฟุบอยู่ที่พื้น ก็...ไม่เคยเห็นใครมีพลังลี้ลับประหลาดล้ำอย่างนี้มาก่อนเลย
อีกตัวอย่างที่น่าเล่าคือ ภาพประกอบของบ้านที่มีรูป “ยันต์กระดาษ” ติดที่ประตูภายในบ้าน บ้านนี้เริ่มจากสามีเกษียณงานก็อยากมาสายไหว้เจ้า ในครั้งสอง...ภรรยาบอกว่าครั้งนี้จะมาไหว้ให้รีบขายทาวน์เฮาส์ได้เร็วๆ แต่ ปัญหามีว่า...ฟังราคาซื้อแล้วบอกว่าไม่ลอจิก...ไม่เป็นตรรกะ มันถูกผิดปกติ
เขาบอกว่าก็เห็นว่าถูกมากเลยรีบไปดูแล้วซื้อเลย หลังโอนเจ้าของจึงบอกว่าเป็นลูกชายที่เคยอยู่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตคาที่ เขาบอกว่า มิน่าล่ะได้กลิ่นเหม็นมาก จึงรีบขายถูกๆ ก็ต้องจับทำพิธีเอาสิ่งไม่ดีที่ตามตัวออกทันที พอมาไหว้รอบ 3 ก็ถามว่าเป็นไง เขาบอกว่ากำลังสร้างบ้านใหม่
“แต่...เนื่องจากบ้านนี้อยู่ต่างจังหวัดที่ว่าแรง ประมาณว่ามีประวัติเจ้าเมืองดุ สั่งตัดหัวคนที่สี่แยกหลายครั้ง...ซึ่งรุ่นเหลนเจ้าเมืองเสียชีวิตด้วยมะเร็งลำคอ จึงบอกซินแสศาลเจ้าตั่วเหล่าเอี๊ยให้ช่วยเคลียร์”
ซินแสสั่งให้เอากระดาษเงินกระดาษทองกลับไปไหว้ที่บ้านซึ่งราคาก็แพง ของไหว้จัดเยอะ การอธิษฐานต้องสอนแบบให้ท่องกันเลย ผลคือ...พอไหว้เสร็จเขาพบว่า
อู่ซ่อมรถที่ชอบเอารถมาจอดในถนนส่วนตัวของเขา เป็นการละเมิดสิทธิ์ต้องแจ้งความฟ้องร้องกัน วันนั้นเลยก็ได้มาทยอยขับรถที่จอดไว้มากมายออกไปจนหมด และไม่เคยมาจอดอีกเลย บ้านนี้ได้ยันต์ไปจากทั้ง 2 ศาลเจ้า ...แต่ติดผิดๆถูกๆอย่างที่เห็นว่า อันที่เป็นกรอบใหญ่ใส่กรอบได้เป็นของศาลเจ้าหมู่บ้านหอยนางรม แต่ควรติดเหนือประตูแบบให้อยู่กึ่งกลาง ส่วนยันต์เล็กของอีกศาลเจ้าต้องไม่ใส่กรอบแล้วติดให้ปลิวๆ
แต่...แม้จะรู้แล้วว่าผิด ก็ยังไม่ให้แก้ เพราะการโยกยันต์อาจกลายเป็นไม่ดีก็ได้ ก็ทิ้งไว้อย่างนี้ก่อน แต่เขาบอกว่าทันทีที่ติดยันต์ก็ได้เงินที่คนติดหนี้จนต้องฟ้องร้องกันคืนมาจนหมด
@ @ @ @
ยันต์กระดาษมี 2 แบบคือ พิมพ์สำเร็จรูป กับเขียนสดๆด้วยมือบนกระดาษว่างๆ
...
ยันต์แบบล่าสุดที่ได้ความรู้มาคือ “หยก”...ที่ถูกสลักกลายด้านหนึ่งเป็นอักขระมนต์ของเจ็งคุ้ย ซึ่งเป็นเทพปราบมาร อีกด้านเป็นลายโป้ยก่วยหรือแปดทิศ ศาลเจ้าหมู่บ้านหอยนางรมต้อง ไปเอามาจากศาลเจ้าต้นสังกัดในจีนแผ่นดินใหญ่อีกที
อาจจะกล่าวได้ว่าสรรพคุณยันต์หยกที่ใช้การแขวน มีกฎว่า ต้องแขวนที่ล็อบบี้ของสถานที่ในที่สูง หรือไว้ที่ห้องทำงานก็ได้ แต่ห้ามตอกตะปูเพื่อแขวนเด็ดขาด ก็มีประมาณห้า...หกบ้านที่มีเรื่องเล่ากลับมาในความน่าอัศจรรย์ อย่างรายที่สอง...ที่เช่ายันต์หยกไปเพราะข้างๆบ้านเป็นบ้านร้าง...ผ่านไป 2 อาทิตย์ก็ได้คุยกัน
เขาบอกว่าตั้งแต่แขวนบ้านอยู่เย็นเลย คือพ่อแม่ภรรยาไม่ทะเลาะกันจากที่ทะเลาะกันทุกวันจนลูกหลานไม่มีความสุข ผ่านไป 1 เดือนแล้วคุยกัน เขาบอกว่าที่บ้านร้างมีฝูงแมวจรชอบเข้ามาอึฉี่ในบ้านเขา ก็ไม่เข้ามาอีกเลย อีกบ้านหนึ่งจะเอายันต์ไปแขวนที่โรงงาน โชคดีที่ถามเขาว่าจะแขวนยังไง เขาบอกว่าจะตั้งหิ้งสูงๆ
แล้วเอายันต์วางบนพานทั้งกล่องไม่เอาออกมาแขวน ซินแสบอกว่าถ้าจะวางบนพานก็ต้องหาวิธีให้ยันต์วางตั้ง หันหน้าให้ถูกด้าน เขาเล่าว่า คนงานที่เคยทะเลาะมีเรื่องมาฟ้องเจ้าของทุกเย็น ก็สงบได้น่าอัศจรรย์ และหน้าโรงงานมีแมวจร 2 ตัว ตัวหนึ่งหายไป อีกตัวถูกรถชนตาย
...
มีตัวอย่างอีกบ้านที่เป็นร้านค้า 5-6 ห้องแถว สามีชอบทะเลาะกับเพื่อนบ้านประมาณว่าไม่ชอบให้มาจอดหน้าร้านหรือใกล้ๆ เขาบอกว่าปกติเช้าๆ เปิดหน้าร้านจะมีแมว 8 ตัว จับเป็นคู่อยู่บนหลังคารถของเขา 4 คัน แต่พอแขวนยันต์หยกก็ไม่มีอีกเลย แม่บ้านบอกว่าที่ผ่านมาช่วงเช้าๆ แมวพวกนี้ชอบคาบหัวปลามาจัดปาร์ตี้เสมอ ตอนนี้ไม่มีเลย และสามีก็ระงับอารมณ์ในการจะออกไปต่อว่าเพื่อนบ้านได้ดีขึ้น
ปิดท้ายด้วยเคสของห้องแถวที่โดนคนขโมยยันต์ไป 2 ครั้งแล้ว ซินแสบอกว่า “ยันต์ที่หายไป เป็นการช่วยรับเคราะห์ให้ และคนที่เอาไปก็ไม่ใช่ว่าจะดี” นี่คือสิ่งที่อยากจะบอกว่าเราเคยชินว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต้องศักดิ์สิทธิ์กับทุกคน แต่กับคนที่ขโมยของเขาไป ของขลังนั้นอาจกลายเป็นอัปมงคลที่มีพลังลบรุนแรง...
“แรง”...จนอาจทำให้มีอันเป็นไป ซึ่งมีตัวอย่างเล่าจากหลายศาลเจ้าและหลายบ้าน เรื่องทำนองอย่างนี้ทำให้หวนคิดไปถึงสมัยเรียนเศรษฐศาสตร์จุฬาฯ จะมีทฤษฎีที่ฝรั่งใช้ว่า “In-visible Hand” แปลว่า “มือที่มองไม่เห็น” เป็นการสรุปที่นักเศรษฐศาสตร์บอกเหตุผลที่ช่วงเศรษฐกิจดีฟูเฟื่องสุดๆ แล้วอยู่ดีๆเหมือนมีมือที่มองไม่เห็นดึงลงมาจนเศรษฐกิจตกต่ำสุดๆ...แต่ก็จะมีมือที่มองไม่เห็นเช่นกันมาทำให้ค่อยๆดีขึ้นๆ
และการมีของ “โควิด-19” ก็คงเป็นเช่นนั้นกระทั่งที่ทำให้เป็นมาและจะเป็นไป...มือนี้ไม่เห็นก็เหมือนเห็น?
“ศรัทธา”...นำมาซึ่งปาฏิหาริย์? เชื่อไม่เชื่อโปรดอย่าได้...“ลบหลู่”.
รัก–ยม