มาตรการหยุดเชื้อเพื่อชาติ เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ นะคะ อยู่บ้านต้านโควิดกัน แม้จะได้ยินเสียงบ่นทุกๆ วันว่า “เหงาจัง” “คิดถึงเหลือเกิน” เมื่อไหร่ชีวิตเดิมๆ จะกลับมา? ตอนนี้รับมือกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าให้ดีที่สุดก่อน รอดเป็นวันๆ เดี๋ยวก็รอดทุกวัน กินร้อนช้อนเรา ไม่เอาตัวไปอยู่ใกล้ๆ ใคร ทำหน้าที่ของเราต่อไปอย่างดีที่สุด
มีเวลาอยู่บ้านมากมายค่ะช่วงนี้ จัดรายการวิทยุจากที่บ้าน ส่งงานผ่านไลน์ เลยได้ตอบปัญหาให้ผู้คนทางออนไลน์พร้อมส่งกำลังใจให้กันและกัน มีอะไรอยากเล่า อยากบ่นส่งมาทางนี้นะคะ เห็นข่าวมีคนฆ่าตัวตายจากความเครียดแล้วไม่ค่อยสบายใจ ตอนนี้เรากำลังต่อสู้กับโรคภัยต้องสร้างพลังใจให้แข็งแรงเพื่อจะพาร่างกายให้แข็งแกร่งตามไปด้วย
มีคำถามของน้องคนหนึ่งส่งเข้ามา อยากเอามาตอบตรงนี้ เพราะมีหลายมุมที่น่าจะเป็นประโยชน์กับใครๆ
“พี่อ้อยคะ ชีวิตหนูที่เคยฝันไว้ ในวันนี้มันไม่เป็นอย่างนั้นเลย คนรอบตัวหนูเขาประสบความสำเร็จกันหมด ส่วนตัวหนูนะ เรียนจบมหาวิทยาลัยมาก็ท้อง ทุกวันนี้นั่งเลี้ยงลูก หนูรู้สึกไม่มีความสุข หมดความนับถือตัวเอง ต้องทำยังไงดี”
“ท้อง” เป็นเรื่องเลือกได้ ควบคุมและป้องกันได้ แค่ตอนนั้นเราละเลย ไม่ได้ใส่ใจ ความฝันที่เคยตั้งไว้ เลยต้องเบนออกไปนิดนึง ชีวิตที่ควรเป็น คือเรียนจบ ทำงาน สร้างเนื้อสร้างตัว ตอบแทนพระคุณพ่อแม่ เฮฮากับชีวิตโสด ก่อนโดดลงจากคานแต่งงานกับใครสักคนที่เรารักมากพอจะสละความสุขซึ่งความโสด ก่อนรับบทเป็นคุณแม่ แต่น้องข้ามขั้น ทุกอย่างเลยต้องเดินหน้าด้วยความรับผิดชอบ อาจไม่ตอบโจทย์ทางใจ แต่ทุกอย่างล้วนเป็นไปด้วยการแก้ปัญหา ถ้าพี่ห้ามทันตั้งแต่ตอนนั้น ก็จะบอกกันว่า อย่าอยากได้ความสุขน้อยนิด แบบเอาทุกข์ทั้งชีวิตเข้าไปแลก การมีสามีกะทันหัน หรือการให้กำเนิด ลูก จากความพลาด และความบังเอิญ ความไม่พร้อมจะสร้างปัญหาอีกหลายอย่าง ยังไม่ทันเรียนรู้ใจ ก็ปล่อยให้เขาล่วงเกินร่างกาย ผู้ชายมากมาย สร้างเด็กได้ แต่ไม่รับผิดชอบมากพอจะเป็นพ่อได้ แต่สำหรับน้อง มาถึงวันนี้เมื่อย้อนเวลากลับไปแก้ไม่ได้ ก็ต้องเดินหน้าต่อไปแบบที่ตั้งสติเอาไว้ จะได้ไม่เสียใจภายหลังอีก
...
น้องบอกว่า คนรอบตัวประสบความสำเร็จกันหมด แต่หนูต้องนั่งเลี้ยงลูกอยู่บ้าน น้องตีความคำว่า “ความสำเร็จ” แคบไปหรือเปล่า การเป็นแม่ที่เลี้ยงลูกได้อย่างดีคือความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ แม้ไม่มีใครเคยให้รางวัล แต่สิ่งที่เป็นความชื่นใจคือ เราได้สร้างคนๆ หนึ่งจากเลือดของเรา เฝ้าเลี้ยงดูให้เขาเติบโต เป็นคนดีคนหนึ่งในสังคม ไม่มีใครให้เงินเดือน ไม่มีโบนัส มีแต่ความรักล้วนๆ ที่หล่อเลี้ยงหัวใจและชีวิต รอให้เขาโตขึ้นอีกนิด คุณแม่อยากจะหางาน หรือสร้างงาน สร้างอาชีพของตัวเองก็ไม่สาย เลี้ยงลูกไป ขายของออนไลน์ไป หรือแม้แต่ลูกเข้าเรียนเมื่อไหร่ จะลองกลับเป็นสาวออฟฟิศก็ลองคิดวางแผนไว้ก่อนได้ ทำไมถึงมองว่า “ความสำเร็จ” วัดได้แค่จาก งาน หรือ ยอดเงินในบัญชีแต่เพียงอย่างเดียว

ครั้งหนึ่งเคยอ่านสเตตัสของ น้องกอล์ฟ ฟักกลิ้ง ฮีโร่ น้องโพสต์ไว้ว่า
“เมียผมไม่ได้ไม่มีรายได้ งานของเธอคืองานของผม งานของผมคืองานของเธอ เราเพียงแต่แบ่งหน้าที่กันทำงาน ผมเพียงแต่เป็นคนไปรับเงินมาในชื่อของผม แต่ผมจะไม่สามารถทำงานนั้นๆ เต็มที่ได้เลย ถ้าไม่มีอีกส่วนคอยดูแลที่บ้าน ลูก และชีวิตส่วนพักใจของผมทั้งหมด
งานของเธอไม่มีวันหยุด ไม่มีเวลาพักแน่นอน และน่าเบื่อยิ่งกว่างานออฟฟิศ สามีและภรรยาคือร่างกายเดียวกัน ในวันที่สามีหาเงินมาได้ มันจึงเป็นเงินของเรา เพราะงานที่ทำนั้นคืองานของเรา การที่เธอทำอาชีพแม่บ้าน ไม่ได้หมายความว่าเธออยู่บ้านเฉยๆ แต่มันคืออาชีพที่เธอรับภาระอีกส่วนแทนสามีอยู่ และวันนี้ในหัวใจผมมีทีมเวิร์กที่ดีจริงๆ ครับ”
คนที่กำลังตะเกียกตะกายดิ้นรนกับการทำงาน กับ ผู้หญิงที่อยู่บ้านเลี้ยงลูก ต่างประสบความสำเร็จได้ในมุมของตัวเอง คนหนึ่งสร้างงาน อีกบ้านกำลังสร้างคน จะหมดความนับถือตัวเองทำไม คำว่า “แม่” ที่ลูกเรียก คือคำที่มีเกียรตินักหนาในฐานะคนสร้างชีวิต ปรับวิธีคิดก่อนน้อง วันนี้ที่ไม่มีความสุข เพราะสิ่งที่น้องหวังกลับไม่มี แต่ถ้าดูดีๆ สิ่งที่มี แบบไม่ได้คาดหวังก็เป็นพลังสร้างความชื่นใจไม่ใช่น้อย คุณค่าของเราอยู่ที่เรามองตัวเองยังไง ความนับถือตัวเองจะสร้างไม่ได้ ตราบใดที่น้องยังไม่เห็นค่าของตัวเอง อย่ามัวแต่รอสิ่งที่ขาด จนพลาดสิ่งที่ตัวเองมี ความสุขไม่ได้อยู่ที่เรามีอะไร แต่อยู่ที่เรารู้สึกยังไงกับสิ่งที่เรามีต่างหาก.