ก่อนเข้า สนามพระวิภาวดี รับธรรมะคำสอนดีๆจาก หลวงพ่อสุชาติ อภิชาโต วัดญาณสังวราราม เมืองชลฯ ที่ว่า บาปเป็นสิ่งที่ล้างไม่ได้ บาปที่ทำไปแล้ว ย่อมมีผลตามมา ไม่ช้าก็เร็ว การทำบุญ ทำทาน ไม่ใช่การชำระบาป แต่เป็นการชำระจิตใจที่มีกิเลสตัณหา ให้สะอาดหมดจด...
ต่อเข้าเวทีพระเครื่อง เริ่มกันที่ พระสมเด็จเกศไชโย พิมพ์ ๖ ชั้น อกตัน วัดไชโยวรวิหาร อ.ไชโย อ่างทอง ซึ่งค้นพบในสมัย ร.๕ ราวปี พ.ศ.๒๔๓๕ คราวบูรณะพระอุโบสถ สร้าง องค์หลวงพ่อพระมหาพุทธพิมพ์ แทนองค์พระ ที่ สมเด็จฯโต สร้างไว้...
ลักษณะเป็นพระพิมพ์รูปทรงสี่เหลี่ยม ตัดขอบซ้อน แบบกรอบกระจก เนื้อผงพุทธคุณผสมมวลสาร มีหลายแบบหลายขนาด เป็น ๑ ใน ๓ สกุลพระสมเด็จ ที่สร้างไว้โดย ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ตามบันทึกของ พระยาทิพโกษา (สอน โลหะนันท์) ...
จากคำบอกเล่าของ พระธรรมถาวร จันทโชติ สามเณรผู้ช่วยสมเด็จฯโตทำผง สร้างพระสมเด็จวัดระฆังฯเมื่อราวปี พ.ศ.๒๔๐๙ ว่า พระที่สร้างมีทั้งพิมพ์ ๓ ชั้น ๗ ชั้น...
...
และยิ่งมีการพบ พระพิมพ์สมเด็จเกศไชโย พิมพ์ ๗ ชั้น ๖ ชั้น ในกรุพระวัดใหม่อมตรส คราวเปิดกรุเป็นทางการเมื่อปี พ.ศ.๒๕๐๐ ยิ่งเป็นการตอกย้ำความเชื่อมั่นได้ว่าเป็นพระที่ สมเด็จฯโต ท่านสร้างไว้จริง มีอายุการสร้างเทียบได้กับ พระสมเด็จวัดระฆังฯ...
จึงกำหนดเอาพิมพ์พระที่พบทั้ง ๓ แบบนี้ เป็น พิมพ์พระมาตรฐาน ของ สกุลพระสมเด็จเกศไชโย คือ ๑.พิมพ์ใหญ่ นิยม ๗ ชั้น ๒.พิมพ์เล็ก ๖ ชั้น อกตัน ๓.พิมพ์เล็ก ๖ ชั้น อกตลอด ส่วนพิมพ์พระอื่นๆที่พบพร้อมกันอีกราว ๑๐ พิมพ์ ได้รับความนิยมรองลงมา เพราะมีการค้นพบพิมพ์พระเหมือนๆกันในกรุใกล้เคียง...
องค์นี้ของ เสี่ยวีระชัย ไชยเจริญ เป็น พระพิมพ์ ๖ ชั้น อกตัน สภาพแท้ ดูง่าย ทั้งพิมพ์ และเนื้อ สภาพสมบูรณ์พองาม ราคาอยู่ที่ หลักแสนปลาย--เป็น พระสมเด็จฯราคาเบาสุด...
องค์ที่สอง คือ พระกำแพงซุ้มกอ พิมพ์กลาง กรุลานทุ่งเศรษฐี อ.เมือง กำแพงเพชร พระหลักพิมพ์รอง ที่กำลังเป็นที่นิยม มีการแสวงหามาก...
เพราะ พระหลักยอดนิยม พิมพ์ต้น ก็หายาก ราคาแพงมาก อย่าง พระกำแพงซุ้มกอ พิมพ์ใหญ่ เอาแค่สภาพพอสวย ราคาก็ต้องเริ่มที่ หลักล้าน และก็ใช่มีเงินแล้วจะหาได้ง่ายๆ แบบว่าถ้าอยากได้จริงก็ต้องกล้าสู้ราคา ง้างออกจากผู้เก็บรักษา ที่ล้วนเป็นมืออาชีพและนักนิยมพระ เครื่อง ตัวจริง...
ทำให้ผู้สนใจ ต้องเปลี่ยน มุม มาเล็ง พระพิมพ์รอง ที่ยังพอหาได้ในราคาที่จ่ายไหว และก็ยังพอหาได้ อย่างองค์นี้ของ เสี่ยแม็ก ช้างเผือก...
ตามมาด้วย พระวัดพลับ พิมพ์สมาธิเข่ากว้าง วัดราชสิทธาราม (พลับ) เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ พระพิมพ์เนื้อผง ที่กำลังมีกระแสการแสวงหามาแรงแซงตลอด ...
ด้วยข้อมูลที่มีน้ำหนักให้เชื่อได้ว่า เป็น พระพิมพ์เนื้อผงพุทธคุณ ที่สร้างบรรจุองค์พระเจดีย์สืบอายุพระพุทธศาสนา โดย สมเด็จพระญาณสังวร (สุก ไก่เถื่อน) พระอาจารย์ของ “สมเด็จฯโต” และด้วยพิสูจน์ทราบได้ว่า เนื้อพระเป็นสูตรเดียวกัน...
พิมพ์พระ เป็นฝีมือช่างหลวง ยิ่งทำให้เกิดกระแสศรัทธาว่า น่าจะเรียกเป็น “พระสมเด็จ” ได้เช่นเดียวกับ พระสมเด็จของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) และสามารถใช้บูชาแทนกันได้ องค์นี้ของ เสี่ยนัด ปู่ทิม เป็น พิมพ์สมาธิเข่ากว้าง ที่มีความสมบูรณ์งดงาม ระดับแชมป์ ...
...
ต่อด้วย เหรียญหล่อ พิมพ์จอบเล็ก (แข้งตรง) หลวงพ่อเงิน พุทธโชติ วัดบางคลาน อ.โพทะเล พิจิตร ที่คงความเป็น เหรียญหล่อพระเกจิฯ ยอดนิยม อันดับ ๑ ไว้ไม่มีใครเปลี่ยนแปลงได้...
แม้เหรียญสภาพสวยแชมป์ แทบจะไม่มีให้พบเห็นเล่นหา แต่พระสภาพผ่านใช้ พองาม อย่างองค์นี้ของ พระฐิตสกฺโข ยังพอมีข่าวความเคลื่อนไหวซื้อขายไม่ขาดสาย ในราคา หลักแสนปลาย และไปต่อเรื่อยๆ...
อีกสำนัก คือ พระพิมพ์ไก่หางพวง หลวงพ่อปาน โสนันโท วัดบางนมโค อ.เสนา อยุธยา ยอด พระพิมพ์เนื้อดินเผา พระเกจิฯ ที่ได้รับความนิยมสูงสุดของวงการ...
เพราะรูปทรงองค์พระที่มีเอกลักษณ์ โดดเด่น เป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมลบมุม ด้านหน้าเป็นองค์พระปางมารวิชัย ล้อมด้วยอักขระบาลี มะ อะ อุ ประทับนั่งอยู่เหนือรูปสัตว์ทรงคุณ ๖ ชนิด คือ ไก่ หนุมาน ครุฑ เม่น ปลา นก...
ด้านหลังเป็นรอยปาดเรียบ กลางขอบองค์ด้านบน เจาะรู บรรจุผงพุทธคุณ (ปัจเจกพุทธเจ้า) สร้างแจกศิษย์ผู้บริจาคทรัพย์บูรณะวัดและผู้ป่วยที่มารับการรักษาโรค...
องค์นี้ของ เสี่ยคำรณ สัยยะนิฐี เป็น พระพิมพ์ไก่หางพวง ที่ได้รับความนิยมสูงสุด พระแท้ดูง่ายสภาพสมบูรณ์สวยเดิมแบบนี้ ราคากำลังกลับมาแรงถึง หลักล้าน...
ด้วยกระแสศรัทธาที่เชื่อกันว่ามีอานุภาพด้านคุ้มครองป้องกันภัย เมตตาค้าขาย เป็นเยี่ยมแล้ว ยังเชื่อมั่นกันมากว่าน่าจะใช้ป้องกันโรคภัยไข้เจ็บ แบบที่โบราณเรียกว่า ลมเพลมพัด ปัจจุบันก็คือโรคติดต่อที่มากับลมฟ้าอากาศ--อย่างโรคหวัดไวรัสโคโรนา ที่กำลังระบาด ก็น่าจะใช้พระนี้สร้างความอุ่นใจได้ เพราะผู้สร้าง ได้ชื่อว่าเป็น “พระหมอ” ที่รักษาโรคได้อย่างชะงัด...
อีกสำนัก คือ เหรียญรุ่นแรก พ.ศ. ๒๔๙๒ เนื้อทองแดง กะไหล่ทอง หลวงพ่อทองศุข วัดโตนดหลวง อ.ชะอำ เพชรบุรี เห็นปั๊บ จำได้ว่าเป็น เหรียญแชมป์ ที่มีภาพบันทึกในหนังสือเหรียญพระเกจิยอดนิยมมากมาย เหรียญนี้ของ เสี่ยบอย พดด้วง เจ้าถิ่นที่มีชื่อเป็นเจ้าของเหรียญพระเกจิฯเมืองเพชรอันแชมป์มากกว่าใคร...
อีกรายการ เป็น ภาพถ่ายเก่า พระครูวิมลคุณากร (หลวงปู่ศุข เกสโร) วัดปากคลองมะขามเฒ่า อ.วัดสิงห์ ชัยนาท ...
ภาพ หลวงปู่ศุข ยืนถือไม้เท้า เป็น ๑ ในภาพจำ ที่ลูกศิษย์และผู้มีศรัทธาความเคารพนับถือมีอยู่ในมโนที่นึกถึงท่านได้ทันที เพราะมีภาพปรากฏ แพร่หลาย...
แต่ล้วนเป็นภาพเขียนภาพวาดภาพถ่ายก๊อบปี้ ยากนักที่จะได้พบเห็นภาพถ่ายตัวจริงต้นแบบ อย่างภาพนี้ของ เสี่ยเบิ้ล ท่าพระจันทร์ ซึ่งเป็นภาพถ่ายซีเปีย ที่มีอายุถึงยุค ใต้ภาพมีลายมือหลวงปู่ เขียนนามฐานาสมณศักดิ์ “พระครูวิมลคุณากร” กำกับไว้แบบนี้ เชื่อกันว่า ใครมีไว้บูชาก็เหมือนได้มีหลวงปู่องค์จริง ปกป้องคุ้มครองอยู่กับตัว...
...
ปิดสนามวันนี้ ด้วยเครื่องรางของขลังยอดนิยม คือ เขี้ยวเสือแกะ หลวงพ่อปาน วัดคลองด่าน อ.บางพลี สมุทรปราการ พระเกจิอาจารย์ผู้มีชื่อเสียงเป็นพระผู้มีวิชาอาคมเข้มขลัง มีพลังจิตสูงส่ง...
เป็นพระอาจารย์ด้านวิปัสสนากรรมฐาน ผู้นำคณะพระธุดงค์ที่มีชื่อเสียง ในแผ่นดิน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ร.๕ ที่ทรงมอบฐานาให้ท่านดำรงสมณศักดิ์ที่ พระครูพิพัฒน์นิโรธกิจ และทรงเรียกท่านอย่างคุ้นเคยว่า พระครูปาน...
ท่านศึกษาวิชา สร้าง เขี้ยวเสือแกะ มาจาก หลวงพ่อแตง วัดอ่างศิลา โดยมีกติกาว่า ผู้ที่จะได้รับถ่ายทอดวิชา ต้องผ่านการทดสอบพลังจิต โดยให้ไปหา เขี้ยวเสือ มาแกะเป็นตัว แล้วปลุกเสกด้วยมนต์คาถาที่ท่านสอน จนเสือมีชีวิตลุกขึ้นได้ แล้วให้ใช้ พระคาถา ปล่อยเสือเข้าป่า แล้วจึงใช้มนต์เรียกกลับ เสือของใครกลับมาจากป่าได้ ถือว่าเรียนสำเร็จ เสือของใครไม่กลับมา ถือว่าไม่มีวาสนา...
ซึ่งก็มีทั้งพระ ฆราวาส มาขอเรียนวิชา สร้างเสือ มาก รวมถึง หลวงพ่อปาน แต่มีเพียงท่าน ที่ผ่านการทดสอบสร้างเสือปล่อยเข้าป่า และเรียกกลับมาได้เพียงรูปเดียว...
เมื่อท่านกลับมา รับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดคลองด่าน จึงได้สร้าง เขี้ยวเสือแกะ ตามตำรับวิชานี้ ออกมอบสำหรับศิษย์ผู้ร่วมทำบุญกุศลสร้างวัด โดยท่านกำหนดรูปแบบเป็นฟอร์มมาตรฐาน เป็น เสือนั่งชูขาหน้า ด้วยฝีมือช่างแกะ มาตรฐาน ๓-๔ แบบ ตามขนาดเขี้ยว...
ขนาดเล็กแบบ หุบปาก และขนาดใหญ่ อ้าปาก แยกเห็นเขี้ยวเห็นฟัน ที่ได้รับความนิยมเล่นหาเป็นมาตรฐาน อย่างตัวนี้ของ ดร.ณัฐธัญ มณีรัตน์ เป็น เสือหุบปาก ที่มีเอก-ลักษณ์ ตามความนิยมครบสูตร คือ เขี้ยวโคร่ง โปร่งฟ้า ตาลูกเต๋า หูหนู หน้าแมว...
และจุดสำคัญคือ มี ๑๖ นิ้ว กับยันต์กอหญ้า ที่เลือนหายไปจากการบูชา เพราะการลูบไล้ตัวเสือ เพื่อเรียกอานุภาพ ที่นิยมทำกันในสมัยโบราณ...
ลากันไปลุ้นผลหวย ด้วยเรื่องปิดท้าย ของ ลุงปลั่ง อดีตครูมวยไทย วัย ๗๖ ปี ที่เกษียณอายุมาอยู่กับลูกหลาน ในบ้านสวนย่านพุทธมณฑล...
ปกติแกเป็นคนแข็งแรง ไม่มีโรคภัยเบียดเบียน ช่วยลูกหลานทำสวนได้ด้วยดีตลอดมา จนถึงเมื่อปลายปีก่อน เริ่มมีการปวดหัว เป็นไข้ คล้ายจะเป็นลมบ่อยๆ ลูกหลานเป็นห่วงจะพาไปหาหมอ แกก็ไม่ยอมไป บอกกินยาหอม อาราธนาพระคล้องคอให้ช่วยเดี๋ยวก็หาย...
ลูกหลานสู้ความดื้อของแกไม่ไหว ก็ปล่อยเลยตามเลย อาการแกก็เป็นๆ หายๆเรื่อยมา จนถึงเมื่อวันตรุษจีนที่ผ่านมา แกเป็นลมหมดสติล้มตึง ลูกหลานต้องรีบนำส่งหมอ...
พอแกฟื้น ลุงปลั่ง ก็รีบถามหมอว่า ผมเป็นอะไรมากไหม หมอก็ยิ้มบอกว่า ตรวจอาการเบื้องต้นไม่เป็นอะไรมาก ไม่มีโรคร้ายแรง ...
ลุงปลั่ง ฟังแล้วยกมือท่วมหัว ซ้าธุ คงเพราะคุณพระช่วย หมอฟังแล้วบอกลุงว่า พระไม่ช่วยมากกว่า และแนะนำว่า ถ้าจะให้พระช่วย ลุงต้องคล้องพระแค่องค์สององค์ นี่เล่นคล้องพระตั้ง ๒๐ องค์ น้ำหนักพระ ทำให้สร้อยคอกดทับเส้นเลือด เส้นประสาทที่ต้นคอ เป็นเหตุให้ลุงป่วยเป็นลม ต้องมาให้หมอช่วย เจ้าค่ะ อามิตตพุทธ.
สีกาอ่าง