เทศกาลปีใหม่ชนเผ่า “ลีซู” หรือ “ลีซอ” บ้านดอยช้าง จังหวัดเชียงราย ในปี 2563 นี้มีขึ้นในช่วงวันที่ 25...26...27...28...29 มกราคม แต่ว่าจะไม่ตรงกันทุกปี บางปีก็จะเป็นช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งจะเป็นช่วงใดไม่แน่ชัด ในปีนั้นๆจะมีผู้นำทางจิตวิญญาณที่เรียกกันว่า “ปู่จ๋าน” เป็นคนกำหนดดูฤกษ์
“ปีใหม่ลีซู” มีความเชื่อดั้งเดิมสืบต่อๆกันมานับจากอดีตเก่าก่อนว่าจะจัดขึ้นหลังจากเก็บเกี่ยวพืชผลทางการเกษตรเรียบร้อยแล้ว เก็บพืชไร่เสร็จเรียบร้อยแล้วก็มารวมตัวกันเฉลิมฉลอง
คนไหนมีหมู เลี้ยงหมูไว้ก็...ฆ่าหมู ต้มเหล้าข้าวโพดมาร่วมเฉลิมฉลอง โดยเริ่มจากรวมตัวกันไปที่บ้านปู่จ๋านเป็นวันแรกในวันที่ 25
“ปู่จ๋าน” ก็คือ...ผู้นำศาสนา แล้วอีกวันหนึ่งวันที่ 26 ก็รวมตัวกันไปไหว้เจ้าป่าเจ้าเขาบนดอยช้าง จากนั้นวันที่ 27 ก็ไปดำหัวบ้านผู้นำชุมชนก็จะเป็นพ่อหลวง อีกวันหนึ่งวันที่ 28 ก็ดำหัวผู้ช่วยฯ
วันที่ 29 ก็ อบต. ไล่เรียงกันมาเช่นนี้ นับรวมไปถึงร่วมกันไปดำหัว “ครู” ซึ่งก็ถือกันว่าเป็นหนึ่งในผู้มีพระคุณ เป็นผู้ให้ความรู้ประสิทธิ์ประสาทวิชาให้กับลูกๆหลานๆ ชาวลีซู
...
ศรัทธาข้างต้นสืบเนื่องมาจากความเชื่อในการนับถือผี เจ้าป่าเจ้าเขา...ตรงจุดนั้นบน “ดอยช้าง” เชื่อกันว่าเป็นจุดที่ดูแลคนในหมู่บ้านทั้งหมด ให้ดำเนินชีวิตได้อย่างราบรื่น ผลผลิตดี งอกงาม ช่วยให้โชคลาภ
“เราจะเอาข้าวปลูก เหล้า เนื้อหมู ไปเซ่นไหว้อย่างพร้อมเพรียงกันทั้งหมู่บ้าน”
น่าสนใจว่าในช่วงวันนั้นก็จะมีการเต้นรำเฉลิมฉลองกันอย่างสนุกสนานครึกครื้น ข้าวปลาอาหารสมบูรณ์ นำเหล้า ข้าวโพด เนื้อหมู ข้าวปุก...ข้าวที่เอาไปนึ่งแล้วเอาไปตำกับงาเหนียวๆปั้นเป็นก้อนๆมาพับกับใบตอง เอาไปผูกมัดเชือกให้กับผู้นำ พี่น้องลีซูจะไปด้วยกันร่วมใจกันทำนับกว่าสองร้อยหลังคาเรือน
รวมๆแล้วมีสมาชิกลีซูมาร่วมงาน 700–800 คน
“ปีใหม่เราจะทำอย่างนี้ทุกปี...ปีละครั้ง แล้วก็มีจัดเพิ่มสำหรับผู้ชายประมาณว่านับต่อจากนี้ไปอีกหนึ่งเดือนจะจัดงานปีใหม่อีกครั้งเพื่อให้โอกาสคนที่ออกไปค้าขาย ไปทำงานในที่ไกลๆกลับมาไม่ทันปีใหม่ ก็จะจัดให้อีกครั้ง เพื่อฉลองให้เขาได้กลับบ้าน มีโอกาสร่วมเทศกาลปีใหม่ย้อนหลัง...”
ผู้ชายที่เดินทางไปค้าขาย ทำงานกลับไม่ทันก็จะได้มีโอกาสเฉลิมฉลอง เป็นเทศกาลที่สนุกสนานกันมาก เทศกาลปีใหม่ “ลีซู” จึงมีความเชื่อศรัทธาประเพณีที่ทำสืบต่อๆกันมาจากอดีตจนถึงปัจจุบันเช่นนี้
ปีใหม่ชาวลีซูจะใส่ชุดแบบจัดเต็ม หมายถึงว่า ...แต่งกันเต็มที่ ผ้าทอมือ ตัดเย็บด้วยมือ ประดับประดาด้วยเครื่องเงินสวยงามอย่างมาก เหมือนกับว่าปีหนึ่งมีครั้งหนึ่งก็เลยเป็นงานที่ทุกคนจะแต่งตัวกันสวยงาม
ผู้หญิงมีหมวก ใส่สร้อยเครื่องประดับงดงามมาเต้นกัน ทุกปีชาวลีซูยังคงอนุรักษ์ประเพณีดั้งเดิมเอาไว้อย่างไม่เสื่อมคลาย สืบทอดส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น ไม่ว่าวัยรุ่น เด็ก ผู้ใหญ่ก็มารวมกันอย่างสมัครสมานสามัคคี
ช่วงเช้าก็จะเริ่มมารวมตัวกัน ดำหัวปู่จ๋าน...ราวสิบโมงเช้าก็ทำพิธีกรรม ประมาณเที่ยงไปเต้นรำเฉลิมฉลองหน้าบ้านปู่จ๋าน พ่อหลวง ดนตรีประกอบจะมีแคน ซึง ขลุ่ย แสดงถึงความรื่นเริงมีความสุข
เมื่อก่อนชาวลีซูมาจากพื้นที่ที่หนาว...อากาศช่วงเวลานี้จะหนาวมาก เก็บผลผลิตเสร็จก็จะมาเฉลิมฉลองกัน เป็นอย่างนี้มาตลอด
...
พืชไร่ที่เพาะปลูก ปัจจุบันหลักๆก็เป็นกาแฟ รองลงมาแมคคาเดเมีย บ๊วยบ้าง ข้าว แล้วก็พืชผัก
บัญชา คีรีคามสุข อายุ 55 ปี ประธานกลุ่มแปรรูปพืชเมืองหนาวบ้านดอยช้าง หรือที่รู้จักกันดีในนามโอทอป “กลุ่มกาแฟดอยหมอก” อาจจะเรียกได้ว่าเป็นครอบครัวแรกที่หันมาปลูกกาแฟ ทำไร่กาแฟอย่างเต็มตัวบนดอยช้างดินแดนที่เต็มไปด้วยความเชื่อและศรัทธาแห่งนี้ ย้อนอดีตให้ฟัง
ถามว่าคิดยังไง เมื่อก่อนสมัยคุณพ่อเป็น “พ่อหลวง” ผู้นำหมู่บ้านคล้ายๆกับผู้ใหญ่บ้านนั่นเองติดต่อกับทางราชการ คนในพื้นที่ส่วนใหญ่ก็จะปลูกฝิ่นกัน พ่อได้เข้าอบรม ในหลวงรัชกาลที่ 9 ก็ให้ต้นกาแฟพันธุ์อาราบิก้าผ่านหน่วยงานพัฒนาสงเคราะห์ชาวเขามาสำหรับปลูก
คนในดอยช้างยังไม่รู้จัก พ่อก็เลยเอามาให้ลูกๆปลูก ตอนนั้นอายุยี่สิบต้นๆเท่านั้นเอง ไม่คิดเหมือนกันว่าถึงวันนี้จะเป็นอาชีพหลักสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำและผู้คนก็นิยมดื่มกาแฟกันอย่างเป็นกระแส
“ปลูกฝิ่นผิดกฎหมาย เมื่อลดการปลูกฝิ่นก็เลยหันมาปลูกกาแฟ พืชเศรษฐกิจใหม่”
...
แรกเริ่มได้ผลผลิตก็เอาไปขายที่เชียงใหม่บ้าง เมืองเชียงรายบ้าง ถนนดีเดินทางได้ง่ายขึ้นก็ขายเป็นเมล็ดเชอร์รี กะเทาะเปลือกด้วยการใช้ครกตำๆเอา ตอนหลังก็มีเครื่องโม่เปลือกออกทำกะลา มาถึงวันนี้ตอนนี้แปรรูปได้ครบวงจรแล้ว...ตั้งแต่ต้นน้ำปลูก เก็บมาจนถึงปลายน้ำ...คั่วเอง มีรายได้ทั่วถึงกันไปหมด
บรรยากาศช่วงเช้าๆจะเห็นชาวบ้านออกไร่ไปเก็บกาแฟ เย็นๆก็กลับ ในกลุ่มเรามี 10 บ้าน วันๆก็ได้พอสมควร...สองสามตัน เดือนๆหนึ่งก็แปรรูปเก็บไว้เป็นกะลาตากเรียบร้อย หลังจากนั้นก็เอาไปคั่วได้สะดวกกว่า
ก่อนหน้าวันปีใหม่ลีซู ในช่วงวันที่ 24 ช่วงเย็นๆก็จะมี “พิธีไล่ผี” ไล่สิ่งที่ไม่ดีออกไปในแต่ละบ้าน โดยจะมี “ปู่จ๋าน” เป็นคนนำเดินขบวนไปตามบ้าน เต้นหน้าบ้านทุกหลัง แต่ละบ้านก็จะตั้งเสาปีใหม่เอาไว้ จะใช้ไม้ตัดเอามาสูงๆ สักหน่อยตั้งไว้ที่หน้าบ้าน แล้วก็เอาข้าวปุก... หมู...ผูกห้อยไว้ที่ต้นปีใหม่
เพื่อสื่อให้ขบวนเห็นแล้วมาเต้น เพื่อขับไล่สิ่งไม่ดีออกไปจากบ้านในคืนส่งท้ายปีเก่า เชื่อกันว่าต้องไล่สิ่งที่ไม่ดีออกไปให้หมด เพื่อรับสิ่งที่ดีๆในวันขึ้นปีใหม่
...
ขบวนมาถึงก็จะเต้น ร้องรำ จุดประทัดไล่มาเรื่อยๆวนไปทุกบ้านให้เสร็จภายใน 1 คืน ซึ่งก็จะแบ่งสายกันออกไปสี่ห้าโซนจนครบทุกหลังคาเรือน พอถึงวันที่ 25 มกราคม ก็เป็นการเฉลิมฉลอง “วันขึ้นปีใหม่”
...ให้ความสำคัญในทุกๆเรื่องที่เกี่ยวโยงกับ “ความเชื่อ” และ “ศรัทธา”
ชนเผ่า “ลีซู” หรือ “ลีซอ” บ้านดอยช้าง มีความเชื่อศรัทธาเช่นนี้มาเนิ่นนานแล้วจนถึงวันนี้ก็ยังไม่เสื่อมคลาย
“ศรัทธา”...นำมาซึ่งปาฏิหาริย์? เชื่อไม่เชื่อโปรดอย่าได้...“ลบหลู่”.
รัก-ยม