วัยสามสิบสำหรับผู้หญิงบางคนอาจจะน่ากลัว แต่สำหรับ "มิว นิษฐา" นี่คือจุดเริ่มต้นบทใหม่ที่ทำให้เธอเติบโตอย่างมั่นคง 

ตัวตนของ "มิว นิษฐา"

"จริงๆ มิวเป็นคนค่อนข้างขี้อาย แต่กับเพื่อนก็ไปไหนไปกัน ลุยนะคะ โดยเฉพาะถ้ากับเพื่อนสนิทคือไปได้เลย ลำบากได้เลย แต่ต้องไปด้วยกัน มิวเป็นคนสบายๆ มีซีเรียสในบางเรื่อง แต่ไม่ใช่เป็นคนชีวิตเครียด ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เรื่องใหญ่เรื่องเล็ก เราก็จะจบกับมันให้เร็วที่สุด อย่างเรื่องบางอย่างเกิดขึ้นมา แล้วเราไม่พอใจ ทำอะไรไม่ได้ เราก็จะบอกตัวเองว่า ช่างมันเหอะ"

...

เบื้องหน้าที่สวยงามกับเบื้องหลังที่ "นางเอก" ต้องแลก

"เบื้องหลังความเป็นนางเอก ต้องอึดมาก มิวต้องไปถ่ายหนังหรือถ่ายละครแต่ละที่ บางครั้งไม่ใช่ที่สบาย เราจะมาอ่อนแอ เป็นลมสู้แดดไม่ไหวก็ไม่ได้ ไม่ว่าจะเจออะไร ผู้จัดจะส่งอะไรมา เราต้องจัดการกับมันให้ได้ แปดปีที่ทำอาชีพนี้มา มิวเรียนรู้ว่าทำงานในวงการนี้ ความรับผิดชอบเป็นเรื่องสำคัญมากๆ มิวเคยถ่ายโฆษณาสมัยเด็กๆ ตอนนั้นเรายังเล่นไม่เป็น โดนผู้กำกับดุ เรารู้สึกอยากกลับบ้าน แต่เราก็กลับไม่ได้ เพราะเป็นงานที่รับไว้แล้ว ถ้าเราหนีกลับ แล้วงานจะเดินต่อไปยังไง การเป็นนักแสดงต้องมีความรับผิดชอบสูงมาก เพราะเราทำงานกับคนกลุ่มใหญ่ เราเป็นตัวหลัก ไม่มีใครทำแทนเราได้ เมื่อต้นปี มิวขาแพลง ก็ยังต้องไปถ่ายละคร เพราะไม่มีใครทำแทนได้ เรื่องภาพลักษณ์ก็เหมือนกัน มิวจะดูแลตัวเอง เลือกชุด เลือกช่างแต่งหน้า-ทำผมเอง เพราะทั้งหมดมันคือภาพลักษณ์ของอาชีพนี้ มิวเลยให้ความสำคัญมาก"

งานแสดงกับประสบการณ์และการเติบโตของ "มิว นิษฐา"

"สายงานของมิวต้องทำงานหนักด้วยการสั่งสมประสบการณ์ ไม่ใช่แค่อัดเรียนๆๆ แล้วจะทำได้ดี งานของมิวคนละสายกับงานวิชาการ เป็นงานที่ใช้เทคนิคและประสบการณ์ล้วนๆ ก่อนที่จะเล่นละครเรื่องแรก มิวไปเรียนแอ็กติ้งที่ช่อง (ช่อง 3) ตอนทำเวิร์คช็อปเราก็คิดว่าเราทำได้หมด แต่พอเปิดกล้องวันแรกคือ..งง..ว่าต้องแสดงอารมณ์ออกมายังไง สถานการณ์ของตัวละครตอนนั้นต้องทำแบบนี้ เราก็ทำไม่ถูก ไม่รู้จะทำยังไงให้กล้องมาจับเราได้ ต้องค่อยๆ เรียนรู้ไป ตอนแรกมิวไม่ได้อินกับการเป็นนักแสดงนะคะ แต่พอได้เข้ามาทำแล้วชอบ รู้สึกว่ามีเสน่ห์ คือนักแสดงแต่ละคนก็จะมีเทคนิคในการแสดงที่ไม่ซ้ำกันเลย ให้สิบคนมาเล่นบทเดียวกันก็ไม่เหมือนกัน มันไม่ใช่แนวคณิตศาสตร์ที่ 5+5=10 ใครมาบวกก็ได้ 10 แต่การแสดงคือแล้วแต่เทคนิคของแต่ละคน ซึ่งก็เป็นสิ่งที่มิวทำงานหนักกับมันและพยายามเรียนรู้จากประสบการณ์ของตัวเอง"

 

สารบัญของ "มิว นิษฐา" ไม่มีคำว่า "ปีชง"

"มิวว่าตั้งแต่มิวเข้ามาในวงการมิวได้เจออะไรดีๆ เยอะมาก มิวไม่ได้เจอพวกเบญจเพส ปีชง มิวไม่เคยได้พบเจอกับอะไรแบบนั้น บางปีถึงจะมีเรื่องราวบางอย่าง แต่ก็ไม่ได้รู้สึกไม่ดี มิวจะมองเรื่องที่ไม่ดีให้มันเป็นเรื่องเล็กมากๆ แล้วมองเรื่องดีๆ ให้ใหญ่ เหมือนแบบ....เราไม่รู้สึกว่าชีวิตเราไม่มีอะไรที่ไม่ดี ไม่โฟกัสกับสิ่งที่ไม่ดี อย่างตอนขาพลิก พอผ่านไป แล้วเรามองย้อนกลับไปมันก็เป็นเรื่องดี เพราะเราก็เห็นการเอาใจใส่ของคนรอบข้างที่มีต่อเรา เรื่องที่เขาว่าไม่ดี ถ้ามองจริงๆ มันก็มีอะไรที่ดีอยู่ในความไม่ดี เพราะฉะนั้นมิวเลือกมองแต่อะไรดีๆ ในชีวิตแล้วขยายให้ใหญ่ขึ้น อะไรไม่ดี ก็มองข้ามไป หดให้มันเล็กลง"

วัยสามสิบกับความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

"ในวัย 30 ของมิว มิวแต่งงานเพราะฉะนั้นชีวิตจะต้องมีหลายๆ เรื่องที่เปลี่ยนไป ซึ่งก็ยังไม่รู้ว่าจะเปลี่ยนไปยังไง เพราะยังมาไม่ถึงใช่มั้ยคะ แต่อีกอย่างนึง 30 พอเป็นเลข 3 เราจะรู้สึกด้วยตัวเองเลยว่าโตขึ้น เป็นผู้ใหญ่ขึ้น เหมือนโดนสะกดจิตด้วยเลข 3 (หัวเราะ) เพราะฉะนั้นจะทำอะไร ก็จะไม่ทำตัวเหมือนเป็นเด็กๆแล้ว"

...

สามสิบแล้วต้องเลือกรับงาน?

"การเลือกงานไม่เกี่ยวกับเลข 3 เกี่ยวกับประสบการณ์การทำงานมากกว่าค่ะ การเลือกงานจะยากขึ้นเพราะเราทำงานมาเยอะแล้ว การรับงานใหม่ๆ ก็จะต้องเป็นอะไรที่เรายังไม่เคยทำ หรือเป็นสิ่งที่ใหม่และท้าทายสำหรับเรา ก็จะยากขึ้นด้วยอายุการทำงานมากกว่า"

บทบาทใหม่กับการเติบโตของมุมมองทางความรัก

"มิวมองความรักในมุมที่เติบโตขึ้นนะคะ จากความรักที่เรามีเมื่อก่อน พอมองย้อนกลับไปอดีต ตอนนั้นรู้สึกว่าเรามองความรักเป็นเรื่องใหญ่มาก แต่พอตอนนี้ที่เราเจอความรักที่เป็นความรักจริงๆ กลับรู้สึกว่าตอนนั้นกลายเป็น Poppy love ไปเลย ซึ่งตอนนั้นแบบ...ทุกอย่างดูเป็นเรื่องใหญ่ แต่ถ้ามองกลับไปจากตอนนี้คือตอนนั้นมันจิ๊บจ๊อยมาก มุมมองความรักในวันนี้ มิวรู้สึกว่าการที่คนสองคนมีความรักให้กันมันคือความเข้าใจ แต่ละคนต้องมีชีวิตของตัวเอง เพียงแต่ว่ามันมีความเชื่อมโยงกันอยู่ แต่ละคนก็ต้องมีเรื่องราว มีชีวิตของตัวเอง เขาต้องมีการทำงาน มีเพื่อน มีสังคมของเขา เราก็มีของเรา พอคนสองคนมีความรักให้กัน มันเป็นแค่ส่วนหนึ่งในชีวิตทีมันเชื่อมกันอยู่ ที่เหลือก็คือกลับไปใช้ชีวิตของใครของมัน การที่เราเลือกจะแต่งงานกับใครสักคน มิวมองที่ความเป็นคนของเขา มองว่าเขาเป็นคนจิตใจดีและเราสามารถอยู่เป็นเพื่อนกันไปได้ตลอดชีวิต สำหรับมิวหลักๆ ต้องนิสัยดี มีจิตใจดี เพราะถ้าจะให้มองเรื่องความสุข นั่นมันเป็นแค่ช่วงแรก อยู่ไปนานๆ ก็ต้องทะเลาะกันบ้างเบื่อกันบ้าง ขอให้เค้าเป็นดี อยู่ด้วยแล้วรู้สึกปลอดภัยแน่นอน และสามารถช่วยเหลือกันได้ เวลาเราอยู่ในช่วงแย่ของชีวิตเราต้องรู้สึกให้ได้ว่าชีวิตเราจะดีขึ้น"

...

สุดท้าย 30 ปีที่ผ่านมา มิวชอบอะไรในความเป็น "มิว นิษฐา" ที่สุด

"มีความพยายามค่ะ เพราะมิวมาเป็นนักแสดงโดยไม่ได้คาดฝันมาก่อน ไม่ได้มีพื้นฐานเลยตั้งแต่นิสัยส่วนตัวที่เป็นคนขี้อาย แค่แบบปกติงานโรงเรียนต้องไปเต้นหรืออะไร เราก็จะไม่ทำ จะเป็นคนเบื้องหลังมากกว่า เป็นอะไรก็ได้ที่คนส่วนใหญ่เป็น เป็นคนเงียบๆ เรียบๆ ทั่วไป เพราะฉะนั้นการที่มิวมาอยู่ตรงนี้มันเป็นอะไรที่ไม่ใช่มิวตั้งแต่ต้น แต่ด้วยความที่โอกาสมา เราได้ทำ สนุกกับมัน เรามีความพยายามที่จะอยู่ในจุดๆ นี้ให้ได้"

...

เครดิตภาพ :
นางแบบ : นิษฐา จิรยั่งยืน
สไตลิสต์ : สชล คุณาจิรเมธ
แต่งหน้า : เบญจพร คำพัน
ทำผม : จิรายุ ดีสาระ
ช่างภาพ : วัชรพงษ์ กาญจนกฤต

บทความที่น่าสนใจ สำหรับสาวๆ LadyMIRROR