เปิด สนามพระวิภาวดี อาทิตย์แรกของเดือน 11 กันด้วยคำสอนของ พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล ว่า รากเหง้าของความทุกข์อยู่ที่ใจเราเอง ไม่ได้อยู่ที่คนอื่น หากไม่แก้ที่ใจของตัวเอง จะไปไหน ก็หนีทุกข์ไปไม่พ้น...
ส่วนเวทีพระเครื่องวันนี้ องค์แรกขอเสนอ พระสมเด็จ พิมพ์ใหญ่ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) วัดระฆังฯ...
องค์นี้เป็นพระสมเด็จที่มีภาพเผยแพร่มานานหลายสิบปี เปลี่ยนมือซื้อขายเป็นสมบัติผลัดกันชม ของนักนิยม “พระสมเด็จ” ผู้มีชื่อเสียงหลายครั้ง ล่าสุด จำได้ว่า เสี่ยอ้วน ลอยฟ้า นิมนต์ไป จึงนำมาลงให้ชม เพื่อย้ำว่าตลาดมีความต้องการตลอดเวลา ถ้าเป็นพระสมเด็จที่สวยสมบูรณ์ ทั้งฟอร์มองค์ พิมพ์พระ ความครบเครื่องมวลสาร ที่เห็นแบบครบสูตร แบบนี้...
องค์นี้เป็นพระสภาพผ่านการสัมผัสใช้ เปลือกผิวลบ เลือนเสมอกัน เปิดเห็นเนื้อในทั้งหน้าหลัง กล่าวได้ว่าเป็น พระองค์ครู ในการเรียนรู้ดูพระแท้...
ตามมาด้วย พระท่ากระดาน เนื้อตะกั่วสนิมแดง กรุวัดเทวสังฆาราม (วัดเหนือ) กาญจนบุรี พระกรุพระเก่าที่ขนานนามเป็น “ขุนศึกแห่งลุ่ม น้ำแม่กลอง” ...

...
เพราะลักษณะพิมพ์พระปางสะดุ้งมาร พุทธศิลป์สมัยอู่ทอง ยุคต้น เทหล่อแบบครึ่งซีก มีพิมพ์องค์พระเฉพาะด้านหน้า ด้านหลังเรียบเป็นแอ่ง ด้วยเนื้อตะกั่ว...
ค้นพบครั้งแรกภายในถ้ำบนเขาลั่นทม จ.กาญจนบุรี พร้อมอุปกรณ์ และเศษเนื้อตะกั่ว ที่คาดได้ว่าเป็นแหล่งผลิต และยังมีการค้นพบอีกหลายครั้ง หลายสถานที่ ในกรุของวัดที่ตั้งอยู่ในเขต อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี เรียกกันว่า พระกรุเก่า...
ที่มีชื่อเสียงสำคัญอีกกรุหนึ่ง ก็คือ พระท่ากระดาน กรุวัดเทวสังฆาราม (วัดเหนือ) ซึ่งค้นพบเมื่อปี พ.ศ.๒๕๐๖ ขณะหลวงปู่ดี เจ้าอาวาสดำเนินการเจาะองค์พระเจดีย์ใหญ่ เพื่อบรรจุพระ ๒๕ พระพุทธศตวรรษ เป็นการสืบอายุพระพุทธศาสนา ตามคำสั่งกระทรวงมหาดไทย...
จึงพบไหโบราณเคลือบดำ ขนาดเขื่อง ๑ ใบ ภายในบรรจุพระพิมพ์ชนิดต่างๆไว้มากมาย แยกได้เป็น พระท่ากระดานพิมพ์ใหญ่ ๒๙ องค์ พระท่ากระดาน หูช้าง พระขุนแผนเรือนแก้ว พระพิมพ์หลวงพ่อโต พระชัยวัฒน์ พระโคนสมอ พระปรุหนัง และพระอื่นๆนับพันองค์...
ในจำนวนพระท่ากระดานทั้ง ๒๙ องค์ พบทั้งที่มี สนิมแดง มากน้อย และแบบมีแต่ สนิมไข กับที่มีการ ปิดทองมาแต่ในกรุ อย่างองค์นี้ของ เสี่ยสถิต ราชบุรี ที่ได้รับความนิยมสูงสุด องค์พระสมบูรณ์ สวยเดิม สนิมแดงเยอะ ปิดทองเก่า เก๋ากึ๊ก แบบนี้ เขาว่าราคาแพงกว่าที่คิด...
อีกสำนักเป็น พระเปิม เนื้อแดง กรุวัดดอนแก้ว อ.เมือง ลำพูน ๑ ในพระพิมพ์ยอดนิยมแถวหน้าเมืองเหนือ ที่ล้ำค่าด้วยพุทธศิลป์ สูงค่าด้วยราคาความนิยม องค์นี้ของเสี่ยมาเลย์ มร.อึ๊ง ก๊อก เซ็ง (เจ้าเก่า) ที่ดังเพราะสะสมพระเครื่องชั้นยอดๆ ทั้งของเมืองใต้ อย่างพระหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ พระปิดตาหลวงพ่อครน วัดบางแซะ ฯลฯ และพระเครื่องยอดนิยมชั้นเยี่ยมทุกประเภท...

ดูจาก พระเปิม องค์สวยสมบูรณ์ สวยเดิมระดับแชมป์ เด่นที่ความคมชัดของพิมพ์พระ และสีแดงของเนื้อพระซึ่งเป็นสีที่มีน้อยหายากสุดๆ ก็ต้องยกให้เป็นนักเล่นพระแถวหน้าอีกคน...
องค์ต่อไปคือ พระกำแพงซุ้มกอ พิมพ์กลาง กรุลานทุ่งเศรษฐี อ.เมือง จ.กำแพงเพชร ๑ ในสกุลพระทุ่งเศรษฐี ที่สโลแกน ติดหูมาแต่เปิดกรุว่า “มีกูไม่จน” บอกให้รู้ถึงอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ ที่โดดเด่นด้านโชคลาภของพระสกุลนี้...
โดยเฉพาะ พระกำแพงซุ้มกอ ที่แม้ไม่ใช่ พระพิมพ์ใหญ่ ซึ่งได้รับความนิยมสูงสุด แต่อานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ที่เลื่องลือ ก็มีอยู่ไม่ยิ่งหย่อน...
บอกได้ว่า อานุภาพเท่า แต่ราคาเบากว่าเยอะ ปัจจุบันองค์งามๆ สภาพสมบูรณ์ สวยเดิมอย่างองค์นี้ของ เสี่ยอมรศักดิ์ พงศ์พศุตม์ ประมาณราคาว่าน่าจะอยู่ที่ หลักแสนปลายๆ ถึงหลักล้านต้นๆ ซึ่งก็มีคนจ่ายไหวคอยอยู่เพียบ แต่ก็ใช่ว่ามีเงินแล้วจะสมหวัง เพราะจำนวนพระมีน้อยกว่าความ ต้องการมาก...
ตามมาด้วย พระสมเด็จสมาธิข้างดอกไม้ กรุเจดีย์เล็ก วัดใหม่อมตรส แขวงบางขุนพรหม เขตพระนคร กรุงเทพฯ ซึ่งมีบันทึกว่าสร้างไว้โดย เสมียนตราด้วง ต้นสกุล ธนโกเศศ และบรรจุในพระเจดีย์องค์เล็กประจำตระกูล อยู่ข้างพระเจดีย์องค์ใหญ่ หน้าพระอุโบสถ วัดใหม่อมตรส ...
มาค้นพบเมื่อปี พ.ศ.๒๕๐๖ ตอนทางวัดรื้อย้ายองค์พระเจดีย์เพื่อปรับปรุงพื้นที่ จึงพบ พระพิมพ์ เนื้อผง อย่าง พระสมเด็จ กรุเจดีย์ใหญ่ มีพิมพ์พระทั้งหมด ๖ พิมพ์ คือ ๑.พิมพ์ฐานคู่ ๒.พิมพ์สมาธิข้างดอกไม้ ๓.พิมพ์เจดีย์แหวกม่าน ๔.พิมพ์ยืนประทานพร ๕.พิมพ์ไสยาสน์ และ ๖.พิมพ์สามเหลี่ยมหน้าหมอน...

...
แรกๆไม่ค่อยมีผู้สนใจ จน พระสมเด็จกรุเจดีย์ใหญ่ มีผู้ทำบุญบูชาหมด จึงมีผู้มาสนใจทำบุญบูชา เพราะเชื่อว่าเป็นพระที่สร้างไว้โดย สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) คราวเดียวกับ พระสมเด็จกรุเจดีย์ใหญ่...
เพราะมีสภาพคราบกรุเหมือนกัน ต่อมาเมื่อมีนักนิยมพระพิสูจน์ชี้ชัดว่า เนื้อพระมีความแตกต่าง ไม่น่าใช่พระที่สร้างในคราวเดียวกัน ความนิยมก็เบาบางลง แต่ก็เป็นเพียงระยะหนึ่ง ก็กลับมาฮอตอีก...
เพราะวัยรุ่นเจ้าถิ่นบางขุนพรหมที่นิยมคล้องพระกรุนี้ ยกพวกตะลุมบอนกับวัยรุ่นต่างถิ่น ยิงกันด้วยปืน ฟันกันด้วยมีด แต่ปรากฏว่านักเลงเจ้าถิ่นที่คล้องพระนี้ แคล้วคลาดจากลูกปืน ถูกฟันจะจะ เนื้อก็เด้งดึ๋งขนาดมีดหลุดมือ เป็นที่โจษขานว่าเหนียวเพราะพระกรุนี้...
ทำให้มีผู้ไปเช่าบูชาหมดไปในเวลารวดเร็ว ถึงปัจจุบัน พระกรุนี้ก็ยังได้รับความนิยมแสวงหา ราคาสูงขึ้นมาอยู่ที่หลักแสน ทั้งที่ยังไม่รู้แน่ว่าใครเป็นผู้สร้าง...
ต่อด้วย พระปิดตา เนื้อผงว่านคลุกรัก หลวงพ่อมี วัดพระทรง อ.เมือง เพชรบุรี พระสหมิกธรรม รุ่นน้องของ หลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ ซึ่งมีความคุ้นเคยกันมาก ในฐานะคนบ้านเดียวกัน มาแต่ครั้ง หลวงพ่อแก้ว ยังจำพรรษาอยู่ที่วัดในปากทะเล จ.เพชรบุรี...
จึงไปมาแลกเปลี่ยนเรียนวิชากันอยู่เสมอ ก่อนท่านออกธุดงค์ข้ามน้ำข้ามทะเลจากเพชรบุรี ไปสร้างวัดเครือวัลย์ ที่เมืองชลบุรี...

...
เล่ากันมาว่าท่านได้มาพักค้างอยู่ที่วัดพระทรง ระยะหนึ่ง เพื่อร่วมสร้างปลุกเสก พระปิดตาเนื้อผงคลุกรัก ที่มีแบบพิมพ์เป็นมาตรฐาน กับ หลวงพ่อมี เพื่อ มอบวิชาไว้กับถิ่นกำเนิด สำเร็จแล้วจึงออกธุดงค์สู่เมืองชลบุรี...
ปัจจุบันพระปิดตาชุดนี้ ได้รับความนิยมแสวงหาในนาม พระปิดตา หลวงพ่อมี วัดพระทรง ที่แม้ราคาค่าความนิยมจะไม่สูงเท่า พระปิดตาหลวงพ่อแก้ว แต่ความหายากพอกัน เพราะมีนักนิยมพระปิดตาสายตรงตัวจริง เรียกชื่อพระนี้ด้วยความศรัทธาว่า พระปิดตา หลวงพ่อแก้ว เมืองเพชร...
องค์นี้เป็นของ พระครูสถิตธรรมานุวัตร เจ้าอาวาสวัดทับไทรอ.โป่งน้ำร้อน จันทบุรี--ว่าแล้วก็ขอแจ้งข่าว เชิญชวนศิษยานุศิษย์ ร่วมงานทำบุญทอดกฐินประจำปี ซึ่งหน่วยบัญชาการนาวิกโยธินกับชาวบ้านและศิษย์วัดทับไทร ร่วมเป็นเจ้าภาพในวันที่ ๓ พ.ย.นี้ ...
รายการถัดไปเป็น เหรียญ๑๖ แฉก รุ่นแรก เนื้อทองแดงกะไหล่ทอง พ.ศ.๒๕๑๔ หลวงพ่อบุญทา วัดดอนตัน ต.ตาลชุม อ.ท่าวังผา พระเกจิอาจารย์ผู้มีชื่อเสียงสูงสุด ด้านความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ ในวิชาพุทธาคมของเมืองน่านยุค ผกค.คุกคามไทยอย่างหนักทางภาคเหนือ...
ทางการต้องใช้กำลังคนพื้นที่เป็นอาสาสมัครคุ้มครองต่อสู้ป้องกันหมู่บ้าน ในนาม อส. ซึ่งมีเหตุการณ์ปะทะกันเป็นข่าวรายวัน ทุกครั้งก็มีผู้บาดเจ็บเสียชีวิต...
และก็มักจะมีข่าวรอดตายอย่างปาฏิหาริย์ของฝ่ายเจ้าหน้าที่ เพราะพระเครื่องของขลังที่ใช้บูชา ซึ่งปรากฏว่าส่วนใหญ่เป็นพระเครื่องของขลังที่ได้รับมาจาก หลวงพ่อวัดดอนตัน ที่สร้างแจกเจ้าหน้าที่บ้านเมือง อาสาสมัคร รวมถึงพนักงานบริษัทสร้างทาง ที่ต้องเสี่ยงชีวิตทำงานในพื้นที่อันตราย...

...
ทำไปแจกไปรวมกว่า ๓๐ รุ่น ทุกรุ่นแสดงอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ปกป้องคุ้มครองชีวิตคนใช้บูชาได้อยู่รอดปลอดภัยอย่างอัศจรรย์ ขนาดโดนระเบิด เสื้อผ้าขาดกระจุย แต่ตัวมีแค่รอยไหม้แดง ไม่ถึงเลือดตกยางออก เพราะมีตะกรุด ๑๑ ดอก ของท่านคาดเอวอยู่เพียงเส้นเดียว--ทำให้ชื่อ เสียงของท่านแพร่หลาย เป็นพระเกจิอาจารย์ผู้มีวิชาพุทธาคม เข้มขลัง สูงสุดของภาคเหนือในยุคนั้น...
เหรียญรูปเหมือน ๑๖ แฉก รุ่นแรก พ.ศ.๒๕๑๔ ที่นิยมเรียกว่า เหรียญหลวงพ่อวัดดอนตัน รุ่นแรก จึงได้รับความนิยมเป็น เหรียญพระเกจิอันดับ ๑ ของเมืองน่าน มาถึงปัจจุบัน--สภาพเหรียญสวยคมสมบูรณ์ กะไหล่เต็มร้อย แบบเหรียญนี้ของ ส.จ.บอม เมืองน่าน ปัจจุบันราคาขึ้นสูงถึงหลักแสนต้นแล้ว...
แล้วก็ลากันด้วยเรื่องปิดท้ายในกรมทหารแห่งหนึ่ง หลังเสร็จการฝึกทหารเกณฑ์ เป็นช่วงเวลาพัก จ่าสม ครูฝึกที่ชอบสะสมพระเครื่อง ก็เอาพระที่คล้องในคอออกมานั่งส่องอย่างพิถีพิถัน ทหารเกณฑ์ ๔-๕ คนเห็นครูฝึกรมณ์ดี ก็พยายามตีสนิท เข้าไปค่อยๆถามว่าครูชอบพระเครื่องหรือครับ...

เป็นคำถามที่เข้าทาง จ่าสม เต็มๆ จึงพยักหน้าตอบว่าชอบมาก แล้วถามว่า พวกมึงมาเป็นทหารมีพระเครื่องของขลังติดตัวมามั่งไหมล่ะ ทหารคนแรกตอบว่า มีครับ เป็นเหรียญหลวงพ่อ ที่คนบ้านผมเคารพกันมากครับ และถอดสร้อยส่งให้จ่าดู บอก ถ้าจ่าชอบผมยกให้ ที่บ้านมีเยอะ...
จ่าสม ก็รับไว้ด้วยท่าทีเกรงใจ ทหารเกณฑ์อีกคนบอก ผมเอาชายผ้าถุงแม่มาติดตัวบูชา แต่ให้ไม่ได้ครับ เพราะมีอยู่ชิ้นเดียว จ่าสม รีบโบกมือบอกไม่เป็นไรๆ ส่วนทหารเกณฑ์คนอื่นๆบอกว่าผมไม่มีอะไรมาบูชา...
จนถึงทหารเกณฑ์คนที่ห้า บอกว่า ผมมีแต่รูปถ่ายติดตัวมาคุ้มครองครับ คราวนี้ จ่าสม สนใจ ว่ารูปพระเกจิสำนักไหน เพราะหลายสำนัก รูปก็หายาก...

พอทหารเกณฑ์เอาให้ดู และบอกถ้าจ่าอยากได้ ผมให้ครับ จ่าสม รีบโบกมือปฏิเสธ ไม่อยากได้ว่ะ--เพราะเป็นรูปเมียที่เคารพยิ้มหวานจ๋อย เจ้าค่ะ อามิตตพุทธ.
สีกาอ่าง