เปิดสนามด้วยคำสอนง่ายๆของพระฝรั่ง ท่านอาจารย์ชยสาโร ชาวอังกฤษ ศิษย์หลวงพ่อชา วัดหนองป่าพง อุบลราชธานี “ความสบาย อยู่ที่ความพอดี คำว่า พอดี จึงเป็นปริศนาธรรมของพุทธ เป็นสิ่งที่ทุกคนจะต้องพยายามเข้าถึง เรายังไม่ต้องพูดถึง มรรค ผล นิพพาน ไม่ต้องพูดถึง สุญญตา ความว่าง อะไรสูงส่ง เราพูดถึงง่ายๆ ธรรมดาๆ คำนี้ก็พอแล้ว ทำอย่างไรชีวิตของเราจึงจะพอดี ทุกแง่ทุกมุมของชีวิต หากเรามีความพอดี ก็จะสบาย”.....
ต่อเข้าเวทีพระเครื่อง ด้วย พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์เกศบัวตูม วัดใหม่อมตรส ของบิ๊กสอบสวนกลาง พล.ต.ต. สิทธิชัย โล่กันภัย ที่พิจารณาจากทุกมุมแล้ว รู้ได้ว่าเป็น พระพิมพ์เกศบัวตูม วัดระฆังฯ เนื้อวัดระฆังฯ ที่มี คราบกรุบางขุนพรหม จับทั่วองค์.....
บอกได้ว่าน่าจะเป็นพระสมเด็จที่ “สมเด็จฯโต” นำจากวัดระฆังฯ มาร่วมบรรจุกรุตามธรรมเนียม ตอนท่านมาสร้าง พระสมเด็จวัดบางขุนพรหม.....
ซึ่งตอนนำพระขึ้นจากกรุอย่างเป็นทางการในพิธี ปี พ.ศ.๒๕๐๐ จึงค้นพบพระที่มี อายุการสร้างมาก่อนพระสมเด็จบางขุนพรหม บรรจุอยู่หลายชนิด อาทิ พระสมเด็จวัดระฆังฯ วัดเกศไชโย พระนางพญา และอื่นๆ ซึ่งล้วนเป็นองค์พระที่มีความสมบูรณ์งดงาม ทั้งรูปทรง พิมพ์พระ เนื้อพระ ที่มีมวลสารเข้มข้นเป็นพิเศษ แบบองค์นี้.....
แม้จะงามน้อยไปหน่อย ก็คงด้วยเพราะเป็นพระที่มีริ้วรอยการลอกคราบกรุที่หนักมือแรงไปนิด กับร่องรอยสัมผัสใช้มาพอสมควร แต่ก็ยังเป็นองค์พระที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์ คงสภาพพิมพ์พระไว้ให้พิจารณาอย่างชัดเจน-- ที่สำคัญเป็นพิมพ์พระที่ทรงค่ามาก เพราะมีน้อย หาพบเห็นยากที่สุด ในสกุลพระสมเด็จฯ .....
องค์ที่สอง ก็ยังเป็น พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์สังฆาฏิ วัดใหม่อมตรส แรกเห็นก็ชื่นชมว่าเป็นพระที่มีความสมบูรณ์งดงาม ทั้งพิมพ์พระและสภาพคราบกรุ ไม่รองใคร เข้าขั้นพระแชมป์อีกองค์.....
...

ต่อเมื่อได้อ่านข้อความ พร้อมดูฟิล์มเอกซเรย์ที่ส่งมา ว่ามีความชำรุดแตกกลางองค์ ก็เสียดายมาก แต่ยังรู้สึกดี เพราะพิจารณาจากฟิล์ม เห็นเป็นรอยชำรุดที่เกิดจากการปริแยก จึงมีเนื้อเดิมอยู่ครบ ซ่อมต่อติดได้สนิทแนบเนียนแน่นด้วยฝีมือช่างชั้นเยี่ยม ชนิดไม่บอกไม่รู้ ไม่ส่อง ไม่เห็น ก็ยินดีกับ พ.ต.อ.ประสาธน์ เขมะประสิทธิ์ ที่ได้เป็นเจ้าของ พระชำรุด องค์แชมป์ของวงการ.....
ต่อด้วย รูปเหมือน พิมพ์นิยม หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน พิจิตร รูปเหมือนพระเกจิอาจารย์ยอดนิยมอันดับหนึ่ง ที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไร ความนิยมยิ่งมากขึ้น.....
ยิ่งเป็นองค์พระสภาพแชมป์ พิมพ์ชัด เนื้อใช่ รอยตะไบใต้ฐานถูกต้อง สภาพเดิมๆแบบองค์นี้ของ เสี่ยโทน ทองพระเครื่อง ซึ่งถือเป็น องค์ดารา ที่สายตรงตัวจริงเห็นปั๊บจำได้แน่ ว่าเป็น ๑ ในองค์แชมป์ที่มีภาพในหนังสือตำราพระเครื่องมาตรฐานเกือบทุกฉบับ การันตีถึงความเป็นพระดีพรีเมียม ที่มีใบสั่งรองรับตลอดเวลา ลงภาพไปวันนี้ ไม่นานต้องมีการซื้อขายเปลี่ยนมืออีกรอบในราคาที่น่าจะถึง หลักสิบล้าน แล้วล่ะ.....
รายการต่อไป เป็น พระกริ่งก้นถ้วยใหญ่ พ.ศ.๒๔๙๑ ท่านเจ้าคุณศรีสัจจญาณมุนี (สนธิ์) วัดสุทัศนฯศิษย์เอกผู้รับสืบทอดตำราวิชาสร้างพระกริ่ง สายตรง องค์เดียวที่สมเด็จฯ ท่านไว้ใจมอบให้เป็นผู้จัดสร้างพระกริ่งแทนท่าน นับแต่ได้รับสถาปนาเป็นสมเด็จพระสังฆราช.....
และเมื่อสมเด็จสิ้นแล้ว ท่านยังดำเนินการจัดสร้างพระกริ่ง พระเครื่องเนื้อโลหะ ของท่านขึ้นเองอีกหลายๆรุ่น ในวาระสำคัญต่างๆ ทุกชนิด ทุกรุ่นก็ล้วนมีชื่อเสียงได้รับความนิยมสูงขึ้นเป็นลำดับ อย่าง พระกริ่งก้นถ้วยใหญ่ องค์นี้ของ เสี่ยเพชร-อิทธิ ชวลิตธำรง ที่ท่านจัดสร้างเมื่อ ปี พ.ศ.๒๔๙๑ ปัจจุบันได้รับความนิยมสูง ราคาหลักแสนปลาย เทียบได้กับพระกริ่งรุ่นหลังๆของสมเด็จพระสังฆราช (แพ) ทีเดียว.....

...
ตามมาคือ เหรียญเปิดโลก เนื้อทองคำ พ.ศ.๒๕๓๒ หลวงปู่ดู่ วัดสะแก อ.อุทัย อยุธยา พระเถราจารย์แห่งเมืองกรุงเก่า ที่มีชื่อเสียงเกียรติคุณเป็นพระแท้ของยุคนี้ มีพระธรรมคำสอนล้ำลึก มีวิชาพุทธาคมเป็นที่พึ่งพาแก่ศิษย์ยามเข้าตาจน .....
ท่านกำเนิดในตระกูลหนูศรี เมื่อ พ.ศ.๒๔๔๗ อุปสมบท ณ วัดสะแก เมื่อปี ๒๔๖๘ โดยมี หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติฯ เป็นพระ อุปัชฌาย์ หลวงปู่แด วัดสะแก เป็นพระกรรมวาจาจารย์ หลวงปู่ฉาย วัดคลองสระบัว เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้นามฉายา พรหมปัญโญ.....
ท่านเป็นผู้สนใจใฝ่รู้ มุ่งมั่นกับการเรียนสรรพวิชากับ หลวงพ่อกลั่น หลวงพ่อเภา ท่านเจ้าคุณเนื่อง พระครูชม หลวงพ่อรอด (เสือ) ซึ่งล้วนเป็นพระเกจิอาจารย์แห่งยุค.....
ท่านมรณภาพเมื่อวันที่ ๑๗ ม.ค.๓๓ ด้วยอายุ ๘๕ ปี ๖๔ พรรษา ตลอดอายุ ท่านอนุญาตให้คณะศิษย์จัดสร้างพระเครื่อง วัตถุมงคลไว้หลายรุ่นหลายแบบ อาทิ เหรียญรูปเหมือน เหรียญพระพรหม แหวนพระพุทธ.....
และ เหรียญหลวงปู่ทวด รุ่นเปิดโลก ที่ปัจจุบันมีชื่อเสียงเป็นที่ได้รับความนิยมสูง ยิ่ง เนื้อทองคำ แบบเหรียญนี้ ของ เสี่ยนิวส์ วัดสะแก ฟังว่าราคาอยู่ที่หลักแสนปลายถึงหลักล้านเชียวนะ.....
ตามมาด้วย พระกริ่งเจ้าฟ้า ก้นเงิน หลวงพ่อสงฆ์ วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย จ.ชุมพร ศิษย์ผู้สืบทอดวิชาพุทธาคมของ พระอุปัชฌาย์ชื่น วัดแหลมปอ และ หลวงพ่อรอด วัดโต๊ะแซ ภูเก็ต มีชื่อเสียงในเมืองชุมพร.....

...
เมื่อธุดงค์มาปักกลด อยู่ที่วัดศาลาลอย ซึ่งเป็นวัดร้าง มีชาวบ้านหาของป่าได้มาก พยายามแบกกลับบ้าน ด้วยความเหนื่อยยาก แต่ไม่ยอมพัก เป็นลมล้มลง ได้ยินเสียงนกร้องทักว่า หนักนักก็วางเสีย.....
ด้วยความสงสัยว่าทำไมนกพูดได้ จึงวิ่งตามไป จึงพบ หลวงพ่อสงฆ์ นั่งทำสมาธิอยู่ในวัดร้าง ท่านได้สอนให้รู้จักหา รู้จักทำตามกำลัง เกิดความศรัทธา นิมนต์ท่านให้อยู่จำพรรษาที่วัดนี้ และชักชวนชาวบ้านมาช่วยท่านพัฒนาวัด จนมีความเจริญรุ่งเรือง.....
และตั้งชื่อเป็นวัดเจ้าฟ้าศาลาลอย ตามชื่อวัดเดิมว่า วัดศาลาลอย แต่หลวงพ่อให้เติมคำ เจ้าฟ้าไว้ข้างหน้า เพราะท่านนั่งทำสมาธิรู้ว่าเดิมวัดนี้ ชนชั้นเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินเป็นผู้สร้างไว้.....
ท่านอยู่ครองตำแหน่งเจ้าอาวาส นานถึง ๖๓ ปี ถึงมรณภาพเมื่อวันที่ ๒ ส.ค.๒๖ ในพิธีงานสวดพระอภิธรรม ปรากฏสิ่งอัศจรรย์ เมื่อมีเต่าทะเลเดินเรียงแถว มาชุมนุมอยู่ใต้โลงบรรจุท่าน จำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นเต่าที่มีลายมือท่าน เขียนลงอักขระเลขยันต์วันปล่อยเต่าลงทะเล.....
เป็นเรื่องที่ยืนยัน ถึงอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ในเมตตาบารมีของท่าน ซึ่งยังมีเรื่องอัศจรรย์อีกมาก อย่างเรื่องที่กองทัพเรืออาราธนานิมนต์ท่านไปเจิมเรือรบหลวงลำใหม่ ที่หาดทรายรี ซึ่งมีเหตุอัศจรรย์เกิดขึ้นเมื่อท่านก้าวขึ้นเหยียบหัวเรือ ปรากฏว่าหัวเรือรบยุบหัวลงน้ำต่ำ ต่อหน้าต่อตาผู้ร่วมพิธี เป็นที่เล่าขานกัน.....

...
ตลอดอายุท่านอนุญาตให้คณะศิษย์สร้างพระเครื่องวัตถุมงคลไว้พอควร ทุกรุ่น ทุกแบบมีผู้มาทำบุญบูชาหมด ไม่มีเหลือติดวัด.....
หลายรุ่นมีชื่อเสียง มีราคาสูง เช่น พระพุทธชินราช ยุคแรก พ.ศ.๒๔๙๕ เหรียญกลมออกงานผูกพัทธสีมาพระอุโบสถ วัดหาดแก้ว พ.ศ.๒๕๐๒ เหรียญรูปเหมือนรุ่นแรก พ.ศ.๒๕๐๕ พระปิดตานวโลหะรุ่นแรก พ.ศ.๒๕๑๙ เหรียญรูปเหมือนกลม พ.ศ.๒๕๑๗ สร้างโดย หลวงปู่เสี้ยง ลูกศิษย์.....
และที่มีชื่อเสียงได้รับความนิยมสูงสุดในปัจจุบัน เป็น พระกริ่งรุ่นแรกและรุ่นเดียว ที่ท่านอนุญาตให้จัดสร้างไว้คือ พระกริ่งเจ้าฟ้า เนื้อนวโลหะ พ.ศ.๒๕๑๙ ที่มีราคาอยู่ที่หลักหมื่นปลาย ยิ่งเป็นชนิด เนื้อนวโลหะ ก้นเงิน แบบองค์ในภาพนี้ ของ เสี่ยธนพัชร์ อาชาสันติสุข ราคาคงไปอีกไกล เพราะมีสร้างพิเศษ เพียง ๑๒ องค์เท่านั้นจริงๆ.....
รายการต่อไปคือ พระพุทธ นั่งพาน งาแกะ หลวงพ่อเดิม นครสวรรค์ อมตะพระเกจิอาจารย์ ผู้มีเมตตาธรรม ช่วยเหลือศานุศิษย์ ด้วยวิชาพุทธาคม จึงได้รับความเคารพศรัทธา จากชาวเมืองนครสวรรค์.....
เชื่อกันว่าท่านเป็นพระผู้ทรงอภิญญา สำเร็จฌานสมาธิชั้นสูง แสดงฤทธิ์ได้ อย่างครั้งเมื่อท่านอาพาธก่อนมรณภาพ ซึ่งเกิดฝนแล้ง ชาวบ้านเดือดร้อนไม่มีน้ำใช้ ท่านถามศิษย์ว่าน้ำในสระ ที่ท่านสร้างขึ้นเพื่อเก็บน้ำให้ชาวบ้านใช้ เรามีไหม ศิษย์ก็ตอบตามตรงว่า สระไม่มีน้ำแห้งสนิท เพราะฝนไม่ตก.....
เท่านั้นท่านก็หลับตาทำสมาธิ ชั่วครู่เกิดมีลมพายุ ฝนตกจนน้ำเต็มสระ เป็นที่อัศจรรย์เล่าขานกันสืบมา.....

ตลอดชีวิตท่านสร้างพระเครื่องของขลังไว้หลายแบบ ล้วนมีชื่อเสียง อาทิ เหรียญ รูปเหมือน มีดหมอเทพศาสตรา ราชสีห์งาแกะ และ พระงาแกะ พิมพ์ต่างๆ เพราะสมัยนั้นงาช้างหาง่าย และท่านมีศิษย์เป็นช่างแกะงาช้าง ชาวเมืองนครสวรรค์อยู่มาก.....
อย่างองค์นี้ ของ เสี่ยเบนจมิน ท่าพระ จันทร์ เป็น พระงาแกะ ปางนั่งพาน ที่ดูฝีมือช่างกับเนื้องา ก็บอกได้ถึงอายุความเก่า พอพลิกหลัง เห็นลายมือจารอักขระ พระคาถาพระเจ้าตรึงไตรภพ ซึ่งเป็น ยันต์ครู ก็รู้ทันทีว่าเป็น พระงาแกะ หลวงพ่อเดิม แน่นอน.....
สุดท้าย เป็น พระพุทธปางสมาธิ กะลาแกะ ครูบานันตา วัดทุ่งม่านใต้ จ.ลำปาง พระเกจิอาจารย์ยุคเก่าของเมืองเหนือรูปนี้ มีชื่อเสียงสูงในการสร้าง ราหูอมจันทร์ด้วยกะลาแกะ ทรงกลม ๒ แบบ สุริยะประภา กับ จันทรประภา.....
ถือเป็นต้นตำรับวิชาสร้างพระราหูกะลาแกะ แห่งภาคเหนือ ซึ่งสืบทอดวิชามาจากฝั่งประเทศลาว เช่นเดียวกับการสร้างพระราหูสุริยะประภาจันทรประภา กะลาตาเดียว แกะรูปทรงเสมา ของหลวงพ่อน้อย วัดศีรษะทอง ซึ่งมีบันทึกว่า หลวงพ่อน้อย ท่านยังเคยเดินทางขึ้นไปแลกเปลี่ยนเรียนวิชากับ ครูบานันตา ที่วัดทุ่งม่านใต้.....

นอกจากท่านจะสร้าง พระราหู กะลาตาเดียวแกะ แล้ว ท่านยังสร้างวัตถุมงคลด้วย กะลาตาเดียวแกะ ในรูปแบบอื่นๆด้วย โดยเฉพาะที่เป็นองค์พระพุทธรูปปางต่างๆอย่างองค์นี้ ของ เสี่ยเบิ้ล ท่าพระจันทร์ เป็นสุดยอดวัตถุมงคล ที่นักนิยมพระเครื่องเมืองเหนือ แสวงหากันมากไม่แพ้ พระราหู และก็หายากมากๆพอกันเจ๊า.....
เรื่องปิดท้ายสบายๆสไตล์ สีกาอ่าง วันนี้คุยกันถึง ลุงประมาณ นายหน้าค้าที่ดินซึ่งมีฐานะขั้นเศรษฐี ได้รับการยกย่องจากพี่น้องเพื่อนฝูงว่าเป็นคนเก่ง สร้างฐานะได้ด้วยตนเอง.....
วันหนึ่งหลานชายมาแจกการ์ดเชิญงานแต่งงานพร้อมเจ้าสาว ลุงประมาณ ก็แสดงความยินดี รับปากจะไปร่วมงาน หลานชายก็พูดอวดว่าที่เจ้าสาวว่า ลุงเป็นคนเก่งขยันทำงานสร้างเนื้อ สร้างตัว เป็นหลักฐานได้ด้วยตนเอง เป็นไอดอลของเขา ที่จะพยายามสร้างเนื้อสร้างตัวให้ได้เหมือนลุง.....

ลุงประมาณ ฟังหลานชม ก็เขิน พูดออกตัวว่า ก็ไม่ได้มีความเก่งกล้าสามารถอะไรมากมาย เพียงแต่โชคดีได้พระช่วย.....
หลานชายกับว่าที่เจ้าสาวก็ตื่นเต้น ถามว่าลุงมีพระอะไรดี บอกผมได้ไหม จะได้หาใช้มั่งลุงประมาณ ก็พยักหน้า บอกได้ไม่หวง แต่คงยากสำหรับรุ่นหลานที่จะหาได้ เพราะความจริงแล้ว ลุงสร้างฐานะได้จากการแอบเอาเงินรายได้จากการซื้อขายที่ดิน ไปซื้อพระเครื่องสะสม เป็นการซ่อนเงินป้าแก.....
แล้วเมื่อสมัย ๔๐ ปีก่อน พระสมเด็จวัดระฆัง ยังราคาแค่หลักหมื่นปลายๆ ถึงหลักแสนต้นๆ พระเบญจภาคีองค์สวยๆแค่หลักหมื่นกลางๆถึงปลายๆ เก็บไปเก็บมา มีพระสมเด็จกับพระเบญจภาคีประเภทต่างๆ รวมเกือบ ๕๐ องค์ ผ่านมาเกือบ ๓๐ ปี ป้าแกเกิดรู้ก็หยุดซื้อ ต้องเอาพระออกขาย ได้เงินเกือบร้อยล้าน จึงตั้งตัวได้มาถึงทุกวันนี้.....

หลานฟังแล้วจ๋อยเลิกคิดจะเอาลุงเป็นตัวอย่าง เพราะสมัยนี้พระสมเด็จฯหลายๆล้านหรือเกินสิบล้าน พระเบญจภาคี องค์ละหลายๆล้านและถ้ามีทุนขนาดนั้น ก็ตั้งตัวได้ ไม่ต้องพึ่งพระเลย เจ้าค่ะ อามิตตพุทธ.
สีกาอ่าง