คุณพระ!!! อุทานแบบนี้ตอนเห็นชื่อเรื่องใช่ไหมคะ จะบอกว่าเราอุทานคำเดียวกันตอนเห็นคำถามที่น้องส่งเข้ามาถาม หลายๆ ครั้งเวลาเอาเรื่องจริงของบางคนมาทำเป็นละคร ต้องโดนค่อนขอด “สังคมเสื่อมขนาดนั้นเลยหรือคะ?” “จริงหรือ อะไรจะซับซ้อนขนาดนั้น” วันนี้ชีวิตจริงล้ำกว่าละครเยอะค่ะ ถ้าเป็นละครที่แต่งขึ้นมา พระเอกนางเอก ควรจะได้รับอะไรดีๆ ในบทส่งท้ายของเรื่อง แต่ชีวิตจริงวันนี้ หลายครั้งคนดีๆ นี่แหละค่ะที่เจ็บปวด เพราะไม่รู้ว่าเราคือพระเอกนางเอกของเรื่องนี้หรือเปล่า และพอเกิดกับเรา ต่อให้เป็นเรื่องผิด เรามักจะหาวิธีคิดที่ทำให้เราไม่ได้รู้สึกผิดมากจนเกินไป

“พี่อ้อยพี่ฉอดคะ ช่วยแก้ปัญหานี้ให้หนูที หนูมีสามี และมีลูก 1 คนค่ะ เมื่อ 7 ปีก่อน เรื่องเเย่สุดที่ไม่ควรเกิดขึ้นคือ สามีมีน้องชาย 1 คนค่ะ เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน หนูกับน้องชายเขา เราสนิทกันมาก จนเกินเลยมาถึงวันนี้ หนูรักเขาค่ะพี่ ล่าสุด เขาบอกว่าอยากมีเเฟนเป็นตัวเป็นตน อยากมีใครสักคนที่สามารถไปไหนมาไหนได้อย่างเปิดเผย หนูรับไม่ได้ค่ะ จะทำใจยังไงดี หนูรู้สึกหวง ไม่พอใจที่น้องชายจะเป็นเเบบนั้น หนูเห็นแก่ตัวอยู่ใช่ไหม หนูเจ็บปวด อยากเป็นผู้หญิงคนนั้นคนที่เขาจะรักค่ะ ช่วยแนะนำวิธีดีๆ ให้หนูที” 

อยากให้น้องรู้สึกผิดกว่านี้จัง ชีวิตครอบครัวพัง เพราะน้องไม่ยับยั้งชั่งใจ รู้นะคะ ความรักมักไม่ใช้เหตุผล เราถึงไปรักคนไม่ควรรัก แต่ต้องหักห้ามใจกันบ้าง ทำทุกอย่างตามใจ ไม่แคร์หัวใจใคร นี่คือความเห็นแก่ตัวค่ะ คำถามตั้งแต่บรรทัดแรก ถึงบรรทัดสุดท้าย ไม่มีประโยคไหนพูดถึงความรู้สึกของผู้ชายที่เป็นสามีเราเลย นอกใจเขามาตั้ง 7 ปี กลัวคนที่เป็นชู้ของเราจะไปรักคนอื่น แล้วคนที่ขมขื่นที่สุดในเรื่องนี้น้องชดเชยหัวใจดีๆ ของเขายังไง รักเราเขาไม่มีใคร น้องรักเขาตรงไหน ถึงนอกใจไปกับคนใกล้ตัวของเขา ไหนจะลูกเรา เอาความภูมิใจของคนเป็นแม่จากมุมไหนไว้สอนลูก ทำในสิ่งที่ถูกต้องดีไหมน้อง กับสามี ถ้าไม่รักแล้วก็บอก อย่าไปหลอกว่ารัก อยู่กับเขาแล้วนอกใจ ต่างคนต่างไปยังใจร้ายน้อยกว่า อย่าบอกว่าจะอยู่เพื่อลูก ถ้าทำในสิ่งที่ถูกให้ลูกภูมิใจไม่ได้ คราวนี้พอเลิกกับสามี จะไปมีใครที่ไหนก็ไป เมื่อได้ความโสดคืนมา จะหาสามีใหม่คงไม่มีใครว่าอะไร น้องชายเขาที่เราแสนรัก จะรักเราต่อไหม? แบบไม่ต้องลักลอบหลบซ่อนใคร คราวนี้ล่ะชีวิตจริง ในวันที่ต่างไม่ใช่สิ่งเร้าใจเหมือนแต่ก่อน รักแบบต้องรับผิดชอบความรู้สึก และให้เกียรติกัน ที่บอกแบบนี้เพราะได้ยินมาเยอะค่ะ บางคู่สนุกกับการเป็นของแถมในชีวิตของกันและกัน พอต่างต้องชัดเจนในความสัมพันธ์ กลับรู้สึกไม่ค่อยปลอดภัย กลัวคนอื่นจะมองว่ายังไง เคยเป็นภรรยาพี่ คราวนี้ต้องมาเป็นภรรยาน้อง ตอนเป็นตัวสำรอง หลบๆ ซ่อนๆ สบายกว่า แบบนี้ก็มี

...

ทำผิดมา 7 ปีแล้วค่ะน้อง เราต้องทำอะไรสักอย่างให้ถูกต้องสักที ถ้าอยากมีเขาก็ไปเลิกกับสามี ถ้าอยากดึงสามีไว้ ก็ต้องหยุดนอกใจเขา มุมหนึ่งที่เราไม่เคยคิด คือเราลดคุณค่าตัวเองมานานแล้ว น้องชายเขาที่เรารักนักรักหนา เราก็ทำให้เขาเห็นว่า เราเป็นผู้หญิงประเภท สามีเผลอก็มาเจอเขา ไม่รู้เขาจะแอบกลัวเราบ้างหรือเปล่า กับพี่ชายเขา เรายังทรยศ แล้วถ้าเขาได้เป็นเจ้าของเราอย่างเป็นทางการ เราจะทรมานเขาในรูปแบบเดียวกันหรือเปล่า

ไม่รู้ว่าแนวทางที่ดีที่สุดที่น้องอยากได้คืออะไร ถ้าอยากเป็นผู้หญิงดีๆ ที่เขารัก คงพลาดละ เราโชว์ความไม่ซื่อสัตย์ให้เห็นตั้งหลายปี หรือวันนี้ควรปล่อยให้เขาไปเจอคนดีที่รักเขามากพอจะซื่อสัตย์ ไม่ใช่คนนั้นก็รัก คนนี้ก็ไม่อยากเสียไป ไม่มีใครควรค่าจะเป็นแค่ของแถมในชีวิตใคร ดนดีๆ ที่ไหนจะภูมิใจกับการเป็นชู้ พี่ว่าน้องรู้ ชีวิตคนเราต้องเลือกค่ะ รักคนไหนมากพอจะเดินหน้าต่อและรับผิดชอบความรู้สึกของเขา ไม่ใช่สักแต่เราอยากได้ก็พอ เท่าที่เจอ ไม่เคยมีใครได้ไปซะทุกอย่าง แต่เคยเห็นคนที่ไม่เหลืออะไรสักอย่าง เพราะอยากได้ไปซะทุกทาง จนปล่อยวางซึ่งความถูกผิดดีเลวนี่แหละ