หลังจากที่ได้รู้จักสาเหตุ กลุ่มเสี่ยง อาการ และความอันตรายของ “โรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่” กันไปแล้ว “ศุกร์สุขภาพ” สัปดาห์นี้ยังมีเรื่องราวความน่าสนใจของโรคนี้มาให้คุณผู้อ่านกันต่อ
ลักษณะรอยโรคของ “โรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่” แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ
• “เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่อยู่ในตัวมดลูก” (endometriosis interna) หรือทางการแพทย์เรียกชื่อเฉพาะว่า อะดีโนไมโอซิส (adenomyosis) คือ ภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกที่เจริญผิดที่เข้าไปในกล้ามเนื้อมดลูก ทำให้มดลูกมีขนาดโตขึ้น ผู้ป่วยมักมีอาการปวดประจำเดือน และประจำเดือนออกมากร่วมด้วย
• “เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่อยู่นอกมดลูก” (endometriosis externa) ซึ่งในทางการแพทย์โดยทั่วไปเวลากล่าวถึงเอ็นโดเมททริโอซิส จะหมายถึงกลุ่มนี้ คือภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกที่เจริญไปฝังตัวที่อวัยวะอื่นๆ นอกตัวมดลูก เช่น เยื่อบุช่องท้อง รังไข่ ท่อนำไข่ กระเพาะปัสสาวะ ท่อไต และปอด โดยรอยโรคในกลุ่มนี้อาจแบ่งได้ 3 กลุ่มย่อย ได้แก่
- เยื่อบุช่องท้อง (superficial peritoneal lesions) คือ พบรอยโรคของเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่บนผิวเยื่อบุช่องท้อง

...
- ถุงน้ำหรือซีสต์ที่รังไข่ หรือโดยทั่วไปเรียกว่า ช็อกโกแลตซีสต์ (chocolate cyst) เป็นภาวะที่พบได้บ่อยในผู้ป่วยที่มีอาการปวดประจำเดือนที่เกิดจากเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ มักพบในสตรีวัยเจริญพันธุ์ สัมพันธ์กับภาวะมีบุตรยาก และมักเกี่ยวข้องกับการผ่าตัด
ช็อกโกแลตซีสต์เป็นอาการแสดงหนึ่งของโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ โดยตัวโรคไปเกิดขึ้นที่รังไข่ในลักษณะของถุงน้ำที่เรียกว่า “ช็อกโกแลตซีสต์” เพราะลักษณะของถุงน้ำในโรคนี้ ภายในมีของเหลวที่มีลักษณะคล้ายกับช็อกโกแลต กลไกการเกิดช็อกโกแลตซีสต์ เกิดจากเซลล์เยื่อบุโพรงมดลูกไปเกาะ และเจริญเติบโตขึ้นที่รังไข่ จนทำให้เกิดถุงน้ำขึ้น ขณะเป็นประจำเดือน เซลล์ของเยื่อบุโพรงมดลูกที่อยู่ในถุงน้ำมีเลือดด้วย เมื่อเวลาผ่านไป น้ำซึ่งเป็นส่วนประกอบในถุงเลือดนั้นจะถูกดูดซึมกลับ ทำให้เลือดในถุงมีลักษณะเหมือนเข้มขึ้น และเมื่อค้างอยู่นานๆ ก็จะกลายเป็นสีน้ำตาล มีลักษณะเหมือนช็อกโกแลต จึงเรียกว่า ถุงน้ำช็อกโกแลต หรือช็อกโกแลตซีสต์
- รอยโรคแบบฝังลึก (deep infiltrating endometriosis หรือ DIE) เกิดจากรอยโรคฝังตัวกินลึกเข้าไปใต้เยื่อบุช่องท้อง ซึ่งอาจเข้าไปถึงอวัยวะใกล้เคียง เช่น เส้นประสาท หลอดเลือด กระเพาะปัสสาวะ ลำไส้ เป็นต้น โดยรอยโรคชนิดนี้เป็นสาเหตุของอาการปวดที่รุนแรง ซึ่งความรุนแรงของอาการปวดมักสัมพันธ์กับความลึกของรอยโรค ร่วมกับอาการผิดปกติอื่นๆ ที่รอยโรคลุกลามเข้าไปถึงอวัยวะข้างเคียง เช่น ปัสสาวะเป็นเลือด หรือถ่ายปนเลือดช่วงเป็นประจำเดือน เป็นต้น

การวินิจฉัยโรค
ใครที่มีอาการที่สงสัยว่าจะเป็นโรคนี้ ควรไปพบสูตินรีแพทย์ ซึ่งแพทย์จะซักประวัติ ตรวจร่างกาย และตรวจภายใน ในกรณีที่สงสัยว่าจะเป็นช็อกโกแลตซีสต์ แพทย์จะทำการตรวจอัลตราซาวนด์ หรือตรวจพิเศษอื่นๆ ตามความเหมาะสม ซึ่งการตรวจอัลตราซาวนด์นั้น อาจทำการตรวจทางหน้าท้องหรือตรวจทางช่องคลอด ซึ่งแพทย์จะเลือกตรวจตามความเหมาะสม แต่การวินิจฉัยที่แน่นอนที่สุด คือ การส่องกล้องเข้าไปในช่องท้อง ร่วมกับการตัดชิ้นเนื้อเล็กๆ นำมาตรวจทางพยาธิวิทยา ซึ่งการตรวจโดยวิธีส่องกล้องนี้ไม่จำเป็นต้องทำในผู้ป่วยทุกคน แพทย์จะทำเมื่อเห็นว่ามีความเหมาะสม ในบางกรณีแพทย์อาจลองให้การรักษาโดยให้ยาแก้ปวด หรือยาฮอร์โมน แล้วสังเกตการตอบสนองต่อการรักษา ถ้าอาการปวดไม่ดีขึ้นหลังจากได้รับยา 3-6 เดือน แพทย์จะแนะนำการส่องกล้องตรวจร่วมกับการผ่าตัดผ่านกล้องเป็นการรักษาขั้นต่อไป
สัปดาห์หน้า ซึ่งเป็นตอนสุดท้ายของบทความเรื่อง “โรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่” จะเป็นเรื่องของการรักษาและการป้องกันโรคนี้มาฝากกันครับ
-------------------------------------------------
แหล่งข้อมูล
ผศ.นพ.ศรีเธียร เลิศวิกูล ภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล