เป็นปัญหาโลกแตกของผู้หญิงวัย 30 อัพที่ต้องทำความรู้จักกับ “ฝ้าและกระ” เมื่อเกิดขึ้นแล้ว ถึงจะมาตั้งอกตั้งใจค้นหาวิธีจัดการลดเลือนฝ้ากระกับรอยเหล่านี้ บางคนก็ว่าเป็นแล้วไม่หาย บอกลาไม่ขาด ยังไงก็กลับมาอีก เป็นเพราะแก้ผิดจุดรึเปล่า

มาอัพเดทเรื่องราว ฝ้า กระ กันอีกทีแบบเน้นๆ เริ่มค่ะ!

ฝ้าและกระ

เกิดจากเม็ดสีเมลานินใต้ผิวหนังทำงานผิดปกติ จึงทำให้สีผิวบริเวณนั้นมีสีน้ำตาลเข้มขึ้น จะเห็นเด่นชัดเป็นพิเศษคือบริเวณผิวหน้า เช่น โหนกแก้ม หน้าผาก

ไม่ว่าใครก็สามารถมีฝ้าและกระได้ เพราะต้นเหตุนั้นมีหลายอย่างด้วยกัน คุณอาจจะแจ็คพอตเป็นได้จากสาเหตุใดสาเหตุหนึ่งก็ได้ มาเช็คกันหน่อยว่าเข้าข่ายรึยัง

1. มีกิจกรรมหรือการทำงานที่ต้องเจอกับความร้อน แสงแดด หรือแสงสีฟ้าจากหน้าจอชนิดต่างๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะช่วง สิบโมงถึงบ่ายสองโมง ทำงานหน้าเตานี่ก็ใช่นะ สาวสปอร์ตยิ่งต้องระวังคูณสอง

2. ฮอร์โมนก็มีผลอย่างมาก ผู้หญิงที่กำลังตั้งท้อง กินยาคุมกำเนิด อายุที่เพิ่มขึ้นก็เป็นปัจจัยสำคัญของฝ้า กระเช่นกัน

3. เครื่องสำอางที่ใช้กันอยู่ทุกวันนี้ก็อาจเป็นต้นเหตุหนึ่งเลยล่ะ เช่น ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรดที่อาจทำให้ผิวไวต่อการเกิดฝ้ามากขึ้น

4. สุดท้ายเป็นสาเหตุที่มาจากพฤติกรรมของแต่ละคน เช่น ความเครียด นอนน้อย ปัจจัยเล็กๆ น้อยๆ พวกนี้ก็มองข้ามไม่ได้

ฝ้า VS กระ ความเหมือนที่แตกต่าง

ฝ้า มีลักษณะเป็นรอยปื้นๆ สีน้ำตาลเข้มกว่าสีผิว ฝ้าชนิดตื้น เม็ดสีอยู่ที่ชั้นหนังกำพร้าส่วนฝ้าชนิดลึก เม็ดสีอยู่ชั้นหนังแท้ และสีเข้มกว่า

กระ คือจุดเล็กๆสีน้ำตาลอ่อน บนผิวชั้นบนหรือชั้นหนังกำพร้า กระ 3 ชนิดที่มักเจอ ได้แก่ กระตื้น จะมีลักษณะจุดสีน้ำตาลเล็กๆ มักเป็นบริเวณที่โดนแสงบ่อยๆ ส่วนกระลึกจะมีสีเทาอมฟ้าหลายจุดบริเวณที่ขึ้นตามแนวโหนกแก้ม และกระเนื้อจะเป็นตุ่มสีน้ำตาลขยายขึ้นช้าๆ ผิวอาจจะเรียบ หรือขรุขระได้ ยิ่งอายุมากขึ้น กระก็จะนูนและมีสีเข้มขึ้น

How to รับมือปัญหาฝ้าและกระ

ป้องกันให้ฝ้ากระมาเยือนเราช้าที่สุด และทันทีที่เริ่มมีสัญญาณเตือนรอยจางๆ เริ่มขึ้นมา ต้องรีบจัดการทันที 

เริ่มที่ป้องกัน...

เลี่ยงแดด ในชีวิตประจำวันให้มากที่สุด รังสีอัลตราไวโอเลตหรือยูวี ทั้งยูวีเอ และ ยูวีบี หรือแสงที่ตามองไม่เห็น เป็นกระตุ้นการสร้างเม็ดสีผิวเพิ่มมากขึ้นจนทำให้เกิดฝ้าได้ ตัวช่วยก็มีทั้ง หมวก ร่ม เสื้อผ้า ที่สำคัญต้องมีคุณสมบัติกันแดด หรือสะท้อนแดดได้จะดีมาก

ในร่มก็ต้องระวัง ถ้าคิดว่าไม่แดดไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เพราะนั่งทำงานในห้องแอร์ แต่อย่ามองข้ามจอคอมพิวเตอร์ และมือถือด้วยล่ะ เพราะว่าจอเหล่านี้ก็เป็นแหล่งของแสงสีฟ้า อันตรายเหมือนกันนะ ใช้อย่างพอเหมาะ

ใช้ตัวช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดเป็นประจำทุกวัน ทาครีมกันแดดที่มีค่าเอสพีเอฟอย่างน้อย 30+ หรือหาครีมกันแดดที่มีสารช่วยสะท้อน เช่น ซิงค์ ออกไซด์ ย้ำว่าต้องดูแลป้องกันผิวทุกวัน ทาครีมกันแดดไว้หน่อยแม้จะต้องอยู่ในร่มก็ตาม

เพราะการป้องกันคือการตัดไฟแต่ต้นลม ไม่เป็นเลยจะดีที่สุด แต่...บางทีมันก็กันไม่อยู่ ถึงเวลาที่ต้องเจอกับฝ้ากระขึ้นมาจริงๆ ก็ต้องสู้อย่างถูกวิธี และแข่งกับเวลาด้วย เพราะปัญหาผิวหนังนี้ยิ่งปล่อยไว้นานก็ยิ่งรักษายากต่อด้วยการสู้และฟื้นบำรุงให้ถูกจุด....

นั่นเป็นที่มาของการค้นคว้าวิจัยของแบรนด์สกินแคร์อย่างยูเซอรินที่ใช้เวลานานกว่า 10 ปีจนค้นพบตัวช่วยสำหรับปัญหาลดเลือนฝ้ากระได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สารไทอามิดอล คือสารไวท์เทนนิ่งที่ผ่านการทดลองกับเอนไซม์ผิวของคนจริงๆ และยังได้รับการตีพิมพ์ใน JID วารสารที่เป็นที่ยอมรับในวงการแพทย์ผิวหน้าทั่วโลก มีงานวิจัยรองรับว่าเป็นสารที่หยุดยั้งการทำงานของเม็ดสีใต้ผิวหนังได้ดีอันดับต้นๆ ในบรรดากว่า 50,000 สารที่อยู่ในห้องแล็ปทั่วโลก

เมื่อสารไทอามิดอลซึมลึกไปจนถึงชั้นผิวหนังที่เป็นต้นเหตุของการสร้างเม็ดสี ก็จะทำหน้าที่ยับยั้งการทำงานไม่ให้เม็ดสีเพิ่มขึ้น จนเกิดฝ้าใหม่ และมีส่วนช่วยทำให้เม็ดสีของฝ้าเดิมจางลงอีกด้วย จากการทดลองพบว่าช่วยลดจุดด่างดำ ฝ้าแดดให้แลดูจางลงได้ถึง 75% หลังจากใช้ต่อเนื่องเป็นเวลา 12 สัปดาห์

ยูเซอริน ได้นำสารไทอามิดอลนี้เป็นส่วนประกอบหลักของเซรั่มเข้มข้น Spotless Brightening Booster Serum ที่พัฒนาประสิทธิภาพให้โดดเด่นกว่าเดิมด้วยเทคโนโลยีไมโครทาร์เก็ต (Micro Target) ที่ช่วยลงลึกจัดการฝ้าแดด จุดด่างดำได้อย่างเห็นผลและตรงจุดมากขึ้น โดยแนะนำให้ใช้คู่กับ Spotless Brightening Spot Corrector ครีมแต้มฝ้าที่ใช้แต้มเฉพาะจุดเพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้น เหมาะกับสาวทุกวัยที่ต้องเจอกับปัญหาฝ้าแดดหนาลึกสะสมมานาน ปัญหาที่แก้ไม่ตกก็จบได้แก้ตรงจุด

ใครเพิ่งเจอปัญหาฝ้า จุดเล็กๆ อย่ามองข้าม เริ่มต้นป้องกันตัวเอง และจัดการให้ถูกจุด อย่าให้มันขยายลามใหญ่และลึกขึ้น ถ้าหยุดเม็ดสีได้เร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดี ลองใช้ตัวช่วยจากมืออาชีพดูนะ