หลังจากที่ได้รู้จักสาเหตุ อาการ และการวินิจฉัย “โรคอะโครเมกาลี” กันไปแล้ว ศุกร์สุขภาพสัปดาห์นี้ยังมีความรู้เรื่องการรักษาโรคนี้กันต่อ (มารู้จัก “โรคอะโครเมกาลี” กันเถอะ (ตอน 1))

การรักษา

ปัจจุบันโรคนี้สามารถรักษาให้หายขาดได้ หรือถ้าไม่หายขาด จะช่วยลดภาวะแทรกซ้อนของโรคได้ ดังนั้นถ้ามีอาการที่สงสัยโรคนี้ ไม่ควรรีรอที่จะปรึกษาแพทย์ เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาโรคแต่เนิ่นๆ

เป้าหมายของการรักษาโรคอะโครเมกาลี คือ ลดระดับโกรทฮอร์โมนและลดขนาดก้อนเนื้องอกต่อมใต้สมอง เพื่อช่วยลดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ของโรค

การผ่าตัด

ปัจจุบันการผ่าตัดเนื้องอกต่อมใต้สมองมีความปลอดภัยมากขึ้นกว่าเดิม การผ่าตัดจะส่องกล้องผ่านทางรูจมูกหรือช่องปาก เพื่อเข้าต่อไปทางโพรงจมูก ก่อให้เกิดอันตรายต่อเนื้อสมองน้อยมาก ควรผ่าตัดโดยประสาทศัลยแพทย์ผู้ชำนาญ การประสบความสำเร็จจากการผ่าตัดขึ้นกับขนาดและการยื่นขยายออกไปของก้อนเนื้องอก ภาวะแทรกซ้อนจากการผ่าตัด ได้แก่ การขาดฮอร์โมนต่อมใต้สมองอื่นๆ เบาจืด (diabetes insipidus) น้ำหล่อเลี้ยงสมองและไขสันหลังรั่ว ติดเชื้อและเลือดออก

การฉายรังสี

ปัจจุบันการฉายรังสีสามารถโฟกัสไปที่ตรงตำแหน่งก้อนเนื้องอกได้โดยเฉพาะ โดยไม่ให้รังสีไปถูกบริเวณอื่นๆ เช่น เนื้อสมอง ภาวะแทรกซ้อน ได้แก่ การขาดฮอร์โมนต่อมใต้สมองอื่นๆ

การให้ยา

ยารับประทาน dopamine agonist ได้แก่ bromocriptine ยาฉีด somatostatin analog ได้แก่ octreotide LAR สามารถยับยั้งการหลั่งโกรทฮอร์โมนและลดขนาดก้อนเนื้องอกได้ ภาวะแทรกซ้อนจากยาได้แก่ ยา dopamine agonist มีคลื่นไส้ เวียนศีรษะ ยา somatostatin analog ได้แก่ คลื่นไส้ ปวดท้อง มีนิ่วในถุงน้ำดี

...

การรักษาอื่นๆ

ถ้ามีการขาดฮอร์โมนต่อมใต้สมองอื่นๆ ควรให้ฮอร์โมนทดแทน

อาการใดจะดีขึ้นบ้างหลังรักษา ?

หลังรักษาน้ำหนักจะลด หน้ามือเท้ายุบบวมลง ภาวะการหายใจอุดกั้นระหว่างนอนหลับลดลง แต่ส่วนของกระดูกที่มีการขยายใหญ่ขึ้นจะไม่ลดลง แม้จะให้การรักษาเต็มที่แล้ว

การติดตามหลังรักษา

ควรรับการติดตามอย่างสม่ำเสมอ ตามที่แพทย์นัด ตรวจติดตามระดับไอจีเอฟ-วัน ให้อยู่ในเกณฑ์ปกติและระดับโกรทฮอร์โมนน้อยกว่า 1 นาโนกรัมต่อมิลลิลิตร มีการติดตามตรวจเอกซเรย์คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเป็นระยะ

ถ้าผู้ป่วยมีข้อสงสัย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องภาวะแทรกซ้อนหรือการรักษา ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อให้คำแนะนำ ไม่ควรละทิ้งการตรวจติดตาม เพราะส่วนใหญ่การรักษาได้ผลดี โดยเฉพาะถ้าวินิจฉัยตั้งแต่แรกเริ่มและมาตรวจสม่ำเสมอ

-------------------------------------------------

แหล่งข้อมูล

ผศ.พญ.ชุตินธร ศรีพระประแดง ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล