ถ้าไม่มีภาพด้านหน้าพระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ทรงเจดีย์ องค์ของคุณชาญชัย ปทุมารักษ์ ภาพแรกเป็นองค์ครู พระพิมพ์สมเด็จทรง เจดีย์องค์ขาวเกลี้ยงเกลาทั้งด้านหน้าด้านหลัง ที่เรียงไว้ถัดไป เจ้าของพระเองก็ยังไม่กล้า แน่ใจ ว่าเป็นพระสมเด็จวัดระฆังแท้

ภาพที่นำมาใช้ในวันนี้ ได้มาเฉพาะด้านหน้า จากหนังสือพระยอดนิยม ของคุณประจำ อู่อรุณ พิมพ์จำหน่ายสองครั้ง ระหว่างปี พ.ศ.2522-2523 สภาพพระขณะนั้น ยังขาวสว่างไปทั้งองค์ ก่อนที่เฮียไซ (กฤษณ์ ลิมปนโชคชัย) จะใช้ควันธูป รมเสียดำไปทั้งองค์ หลังประกวดได้รางวัลที่ 3 งานประกวดพระธนาคารศรีนคร ปี 2519

ย้อนหลังเผื่อลืม พระหลุดมือเฮียไซ ผ่านใครไปบ้างไม่มีใครรู้ ไปอยู่ในมือคุณชาญชัย ที่นครปฐม ย้อนกลับสนามท่าพระจันทร์อีกที เมื่อปี 2531 รมดำถูกล้างออก เหลือจุดดำๆจมอยู่ในรูพรุนของผิวพระ คุณชาติ สมปอง ซื้อไว้ 5 แสน

วันเดียวกัน ก็ขายให้อาจารย์รังสรรค์ ต่อสุวรรณ 1.3 ล้าน

นานโขกว่าคุณชาญชัยจะตั้งสติได้ไปขอร้อง ปลัดพิศาล มูลศาสตร์สาทร ขอซื้อคืน อาจารย์รังสรรค์ใจถึง คืนให้ในราคาทุน ซึ่งเท่ากับคุณชาญชัยเติมเงินเพิ่มจากที่ขายไป 8 แสน

ผมขอตั้งข้อสังเกต พระสมเด็จทรงเจดีย์องค์นี้ ถ้าอาจารย์รังสรรค์ไม่ได้เอามาเขียนเล่าไว้ในพรีเชียส พวกเราก็คงไม่เห็นโฉมหน้าหนังสือพระเล่มต่อๆมา ซึ่งทยอยพิมพ์ไม่ขาดสาย ก็ดูจะไม่มีเล่มไหนเอาไปลง

อาจจะขยาด “ความขาว” ที่ขาวเกลี้ยงเกินไป บางเสียงทัก ไม่ใช่วัดระฆัง เป็นบางขุนพรหม เหมือนเสียงทักจากกรรมการ ในงานประกวดศรีนคร เมื่อกว่าสี่สิบปีที่แล้ว

กลับมาพิจารณา สมเด็จวัดระฆังทรงเจดีย์ องค์ที่อยากจะเรียกว่า “คู่แฝดองค์คุณชาญชัย” ในคอลัมน์วันนี้ เพราะเทียบเคียงกันไม่ว่าจะมองตรงไหน เหมือนกันแบบที่โบราณว่า ทุกกระเบียดนิ้ว

...

ภาพรวมแรกๆ ขาวเกลี้ยงไปทั้งองค์ใกล้เคียงกัน ภาพรวมที่สอง องค์พระและเส้นซุ้มโย้ไปทางขวาเหมือนกัน

ทรงเจดีย์องค์ครูที่พวกเราคุ้นตา สี่องค์ในหนังสือพระยอดนิยม ของคุณประจำ สามองค์แรก เริ่มแต่องค์เจ๊แจ๋ว องค์คุณไพศาล กสิวัฒน์ ที่ได้ที่ 1 งานศรีนคร องค์ที่สาม ผมเดาเองว่า เป็นองค์ที่ได้ที่ 2 อาจารย์รังสรรค์ เฝ้างานประกวดตอนนั้นจำไม่ได้ว่าของใคร องค์พระและซุ้มค่อนจะตั้งตรง

โย้ขวา (ขององค์พระ) แปลกจากเพื่อนแปลก-ตาองค์เดียว ก็คือองค์ที่ได้ที่ 3 องค์คุณชาญชัย

ไม่เพียงจะโย้ขวาเหมือนกัน ทุกเส้นสายลายพิมพ์ก็คล้ายกัน

เส้นซุ้มส่วนยอดซุ้มระฆัง ปริแยกเล็กน้อย สันคมกริบจากไหล่ซ้าย ขนานมากับเส้นสังฆาฏิ เส้นแยกท่อนพระเพลา ฯลฯ ไปถึงปลายฐานชั้นที่สาม ช่างเป็นไปได้ รอยเบี่ยงเบนโคนเส้นซุ้มซ้ายก็คล้ายกันอีก

อยากจะให้เครดิตองค์พี่ (องค์คุณชาญชัย) ดูภาพรวมๆแล้วสวยกว่า แต่พอเพ่งไปที่องค์น้อง เส้นคมตั้งแต่ใต้รักแร้ลงมา จดหน้าท้อง และเส้นอังสะที่วกขึ้นรักแร้ สองเส้นนี้ชัดเจนกว่า ถือได้ว่าคมน้องๆองค์เจ๊แจ๋ว

ก็ต้องทำใจ ยอมรับแบบไม่ให้บัวช้ำน้ำขุ่นว่า สวยพอๆกัน

พระเนื้อขาวสะอาดเกลี้ยงเกลาอย่างนี้ ด้านหลังก็ไม่โดดเด่น เป็นหลังทื่อ มีหลุมร่องพองาม ในยุคงานประกวดศรีนครปี 2519 ตัดสินว่าแท้ได้ง่าย แต่เมื่อมาถึงยุคนี้ ยุคที่มีพระปลอมฝีมือเฉียบขาด บางฝีมือแทบจะแยกเก๊แท้

ไม่ออก กลายเป็นพระดูยาก องค์ที่ดูแบบเซียนว่าง่าย ต้องมีฝ้ารัก เนื้อรักและทอง เสริมเป็นตัวช่วย

พระสมเด็จวัดระฆังทรงเจดีย์องค์นี้ เดาเอาก็ได้ ส่งหยั่งตาเซียน ไม่จับส่องด้วยซ้ำ งานประกวดงานไหนๆก็ไม่รับ ถ้าเจ้าของไม่ไหว พริบดี นึกถึงองค์คุณชาญชัย ตั้งใจเปรียบเทียบจนแน่ใจ ก็คงวางไปแล้ว

ตามกลไกตลาด พระสมเด็จจะแท้ ก็ต้องเป็นพระเซียนซื้อ พระองค์นี้ตอนนี้เซียนยังไม่ซื้อ จะฟันธงว่าแท้คงไม่ได้ แต่เจ้าของพระดูจะมั่นใจ ไม่รอฟังใคร ใส่ตลับทองแขวนคอใช้เรียบร้อยไปแล้ว.

O พลายชุมพล O