เป็นอีกหนึ่งข่าวเศร้าสำหรับคนรักหนัง เพราะนิตยสารชื่อดังอย่าง Starpics ประกาศผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า นิตยสารอายุ 52 ปี ตัดสินใจปิดตัวลงเพราะเหตุผลทางธุรกิจ
"สาเหตุของการตัดสินใจยุติบทบาทในฐานะนิตยสารรายเดือนของ Starpics ก็คงเป็นเช่นเดียวกับนิตยสารอื่นๆ นั่นคือความเปลี่ยนแปลงไปของวงการสื่อในยุคปัจจุบันและพฤติกรรมของผู้อ่าน..."
ผมมีโอกาสได้สัมภาษณ์ บุษบา เตชศรีสุธี บรรณาธิการบริหารนิตยสาร Starpics ที่แรก เป็นการสัมภาษณ์ที่แม้จะเสียดายเพราะติดตามนิตยสารพวกเขามาตั้งแต่วัยรุ่น และคิดว่าหลายคนก็อาจจะรู้สึกแบบนี้กัน
ถามตรงๆ คุณสามารถทำนิตยสารต่อได้อีกสักกี่ปี เมื่อคิดถึงรายได้ที่มีอยู่ในปัจจุบัน
"...มันติดลบ เพราะฉะนั้นถ้าทำต่อคือการเอารายได้หรือเงินที่มีอยู่ไปโปะ คงเป็นการวัดใจว่าจะยอมขาดทุนขนาดไหน และนานเท่าไหร่ แต่เรามองว่าการทำไปได้อีกนานเท่าไหร่ ไม่สำคัญเท่ากับว่าทำออกมาอย่างไรและเพื่ออะไรมากกว่า" และทั้งหมดนี้เป็นคำตอบแค่ส่วนหนึ่ง
Q : ขอแสดงความเสียใจด้วย คนที่เป็นแฟนอ่านถ้อยความลาแผง 52 ปี รู้สึกใจสั่น?
บอกตามตรงว่านี่เป็นการตัดสินใจที่ยากมากค่ะ และจนตอนนี้ก็ยังรู้สึกใจหายอยู่ไม่น้อย เพราะ Starpics เป็นธุรกิจแบบ ‘ครอบครัว’ จริงๆ เรามีความผูกพันกับหนังสือเล่มนี้มาก ทั้งทีมงานและคนเขียนเองก็ด้วย แต่ก็อย่างที่ได้แถลงไป เรายังมองในแง่ดีว่าอาจมีโอกาสที่จะทำเล่มพิเศษหรือเล่มเฉพาะกิจออกมาอยู่ รวมถึงการนำเสนอสาระบันเทิงในรูปแบบอื่นๆ ด้วย
Q : รู้ตัวมานานหรือยังว่าไม่ไหว การเดินทางมา 52 ปี ช่วงเวลาไหนที่บอกว่าไม่ไหวมากที่สุด
จริงๆ มันก็มีอุปสรรคมาเรื่อยๆ ตลอดทางนะคะ อย่างช่วงแรกๆ ที่ตั้งต้น คุณพ่อเล่าว่า Starpics เกือบจะเจ๊งเพราะขายไม่ได้ หนังสือเหลือกลับมากองเต็มบ้าน จนมาแจ้งเกิดจากฉบับที่ 9 เล่มหน้าปก The Sound of Music หลังจากนั้นก็เจอวิกฤติเรื่องกระดาษขึ้นราคาบ้าง แท่นพิมพ์เสียบ้าง เจอคู่แข่งหนักๆ บ้าง แต่ที่เรายังทำกันมาเพราะมันเป็นธุรกิจหลักของครอบครัวที่สร้างทุกอย่างขึ้นมา ทำด้วยใจรัก
...
'ถ้าเป็นองค์กรใหญ่เขาคงเลิกไปนานแล้ว' เพราะไม่คุ้มเหนื่อย แต่หนักกายมันไม่เท่าไหร่ พอหนังสือเสร็จออกมามีคนอ่านเราก็หายเหนื่อย มีกำลังทำต่อ หนักใจสิยิ่งกว่า คำว่า ‘ไม่ไหว’ ในช่วงนี้น่าจะเป็นเพราะความรู้สึกว่า ถ้าเราทำหนังสือออกไปแล้วคนไม่ได้อ่าน มันก็น่าเสียดาย เสียดายเนื้อหาที่คนเขียนใช้เวลากลั่นออกมา แต่พอหมดเดือนไปก็หมดอายุ หรือไปถึงคนอ่านได้ไม่มากเท่าที่ควรจะเป็น
Q : ที่ตัดสินใจปิด เดาว่าขาดทุน ผลประกอบการลดลงมากน้อยแค่ไหน ตั้งแต่ยุคออนไลน์มามีบทบาท
ผลประกอบการของปีที่ผ่านมาสำหรับฉบับรายเดือนติดลบเยอะพอสมควร แต่โชคดีว่าเรายังมีรายได้จากการขายฉบับพิเศษมาช่วยทดแทนบ้าง แต่ก็เห็นได้ชัดว่ายอดคนซื้อหนังสือลดลงไปไม่น้อยจากช่วงปีก่อนๆ ซึ่งออนไลน์มันส่งผลกระทบหนักๆ ในช่วงปีสองปีนี้แหละ
เราว่าส่วนหนึ่งมาจากความไม่มั่นใจในวงการสื่อสิ่งพิมพ์ด้วย การถูกตัดแข้งตัดขาด้านการจัดจำหน่ายจากแผงหนังสือที่ลดลง ร้านหนังสือเองยังอยู่ยากเลย และเด็กๆ รุ่นใหม่ก็หันไปอ่านออนไลน์กันเยอะ หรือคนที่ไม่ซื้อหนังสือเพราะเคยชินกับการอ่านฟรีก็มีมาก
Q : โฆษณา (และยอดขาย) คุณลดลงไปมากแค่ไหน เมื่อเทียบกับยุคเฟื่องฟูที่สุด (เฟื่องฟูสุดปีไหน)
Starpics เล่มหนาที่สุดในช่วงยุค ’90 ช่วงครบรอบ 30 ปี ตอนนั้นเกือบ 300 หน้า โฆษณามีตั้งแต่ Guess ไปจนถึงโฮมเธียเตอร์ ซึ่งเรื่องของโฆษณาเราก็เข้าใจว่าทุกวันนี้เขามีช่องทางโปรโมตเยอะแยะ และทุกวันนี้เจ้าที่ยังให้การสนับสนุนอนุเคราะห์กันอยู่ก็คือเอาใจช่วยเรา ถ้าถามว่าลดลงไปแค่ไหนจากช่วงนั้นก็นับว่าเกินครึ่ง อาจจะเหลือแค่ 30%
Q : ลองเข้าไปโลกออนไลน์หรือยัง ทำไมไม่ปรับตัวไปอยู่บนออนไลน์
เราได้ทำ e-magazine วางขาย ซึ่งไม่เวิร์ค ขายได้เดือนละนิดๆ หน่อยๆ และก็มีเพจ Starpics Magazine ในเฟซบุ๊ก กับเว็บไซต์ Plotter.in.th แชร์คอนเทนต์เกี่ยวกับภาพยนตร์และการ์ตูนที่ทำกับทาง Let’s Comic ซึ่งมันคงถือเป็นสื่อเสริมหรือช่องทางสื่อสารกับลูกค้ามากกว่าการออนไลน์เต็มตัว
หลังจากนี้เราก็ต้องปรับตัวเข้ากับออนไลน์มากขึ้น แต่ปัญหาอย่างหนึ่งของออนไลน์คือ เราไม่รู้ว่ารายได้มันจะมาจากไหน และเพียงพอต่อการประคับประคององค์กรต่อไปมั้ย ซึ่งเราคงต้องหาทางทำให้อยู่ได้ และด้วยจริตในแบบของคนทำหนังสือ ก็คงพยายามหาทางที่จะเข็นหนังสือออกมาด้วย
...
Q : ย้ำอีกทีโมเดลต่อไปของพวกคุณคืออะไร
การหยุดทำนิตยสารรายเดือนก็เหมือนกับการห้ามเลือดที่กำลังไหล ต่อไปก็คงเป็นการดูว่าพอจะทำเล่มพิเศษไหนออกมาได้บ้าง พร้อมไปกับการลองทำคอนเทนต์ในแบบออนไลน์หรือรูปแบบอื่นๆ ถ้าเทียบกับระยะทางที่ผ่านมา ซึ่ง Starpics ออกวางแผงอย่างต่อเนื่องมาตลอด 52 ปีโดยไม่เคยหยุดเลย นี่ก็คงเป็นทั้งการหยุดพักและหยุดคิด เพื่อที่จะก้าวต่อไปให้มั่นคงในโลกที่เปลี่ยนแปลง
Q : พนักงานที่เหลือจะเลย์ออฟคนไหม บอกกับพวกเขาว่ายังไงก่อนที่ถ้อยแถลงลาแผงจะเผยแพร่
พนักงานของเราไม่ได้มีเยอะอยู่แล้ว นักเขียนส่วนใหญ่ก็เป็นฟรีแลนซ์ กองบรรณาธิการประจำมีไม่กี่คน ซึ่งแต่ละคนก็รับรู้สถานการณ์กันมาก่อนหน้านี้ และบางคนก็เลือกหาทางออกไปแล้ว
Q : ถามตรงๆ คุณสามารถทำนิตยสารต่อได้อีกสักกี่ปี เมื่อคิดถึงรายได้ที่มีอยู่ในปัจจุบัน
ลำพังนิตยสารรายเดือนเองมันติดลบ เพราะฉะนั้นถ้าทำต่อก็จะคือการเอารายได้หรือเงินที่มีอยู่ไปโปะ มันก็คงเป็นการวัดใจว่าจะยอมขาดทุนขนาดไหนและนานเท่าไหร่ แต่เรามองว่าการทำไปได้อีกนานเท่าไหร่ มันไม่สำคัญเท่ากับว่าจะทำออกมาอย่างไรและเพื่ออะไรมากกว่า
...
Q : ฝากอะไรถึงคนติดตามหน่อยครับ
ขอบคุณจริงๆ ค่ะ ที่ติดตามสนับสนุน Starpics และต้องขอโทษด้วยที่ไม่ได้ทำเป็นนิตยสารรายเดือนต่อ แต่เราก็จะพยายามหาโอกาสนำเสนอสาระบันเทิงเพื่อคนดูหนังต่อไปค่ะ
อ่านเพิ่ม : ปิดตำนาน 52 ปี แฟนหนังหลั่งน้ำตานิตยสาร Starpics หมดลมลาแผง