ความสวยความงาม และความอ่อนเยาว์ ย่อมเป็นสิ่งที่ทุกคนอยากให้อยู่กับเราตลอดไป ไม่มีวันสร่างซา แต่ในความเป็นจริงแล้ว ในแต่ละวันที่ผ่านไปๆ อายุของเราก็เพิ่มขึ้นๆ ทุกวัน ความแก่จึงเป็นสิ่งที่ไม่สามารถปฏิเสธได้ ซึ่งคอลัมน์ “ศุกร์สุขภาพ” สัปดาห์นี้ มีเคล็ดลับเรื่องความงามมาฝากคุณผู้อ่านกันค่ะ

ปัจจัยที่ทำให้ร่างกายเสื่อม มี 2 ปัจจัย คือ

1. ปัจจัยภายใน เกิดขึ้นจากธรรมชาติ ทุกคนไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ นั่นคือ เซลล์ผิวหนังเสื่อม ความแก่จากวัย และพันธุกรรม

2. ปัจจัยภายนอก
ได้แก่ แสงแดด การสูบบุหรี่ กินเหล้า การพักผ่อนไม่เพียงพอ ความเครียด การกินอาหารที่ไม่มีประโยชน์ มลพิษ และการติดเชื้อต่างๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถป้องกันและแก้ไขได้

ผิวเสื่อมจากแสงแดด

“แสงแดด” เป็นสิ่งที่มีประโยชน์ต่อมนุษย์เรา เพราะให้ความอบอุ่น ฆ่าเชื้อโรค และทำให้ร่างกายสร้างวิตามินดี เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ แต่ขณะเดียวกันความร้อนของแสงแดดก็ทำให้เกิดจุดด่างดำ ผิวหนังอักเสบ ผิวไหม้ ผิวคล้ำ ก่อให้เกิดเนื้องอกผิวหนัง มะเร็งผิวหนัง โรคต้อกระจก ต้อลม เป็นต้น ดังนั้นเราจึงควรป้องกันความแก่ของผิวจากแสงแดด

การปกป้องผิวจากแสงแดด

1. ทาครีมกันแดดที่มีประสิทธิภาพในการปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB โดยมีหลักการทา ดังนี้

- เลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 15 และค่า PA+++ ในวันทำงาน
- เลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 และค่า PA++++ ในวันที่มีกิจกรรมกลางแจ้ง
- ทาครีมกันแดดให้หนาเพียงพอ คือ ประมาณ 1 กรัม หรือประมาณ 2 ข้อนิ้วมือ
- ทาก่อนออกไปเผชิญแสงแดด 15-30 นาที และควรทาซ้ำทุกๆ 90 นาที ถึง 2 ชั่วโมง ถ้ามีเหงื่อออกหรือเพิ่งขึ้นจากน้ำควรรีบทาซ้ำทันที

2. หลีกเลี่ยงแสงแดด เวลา 10.00-15.00 น.

...


3. สวมแว่นกันแดด เพื่อปกป้องดวงตาจากแสงแดด โดยเลือกเลนส์กระจกสีเข้ม เลนส์ขนาดใหญ่ และขาแว่นขนาดใหญ่

4. เลือกสวมหมวกปีกกว้าง ยิ่งมีขนาดกว้างเท่าไร ยิ่งช่วยปกป้องแสงแดดได้ดี

5. มีผ้าปิดหน้า เพื่อป้องกันไม่ให้ใบหน้าโดนแสงแดด

6. เลือกใส่เสื้อผ้าหลวมๆ แขนยาว ขายาว ผ้าทอแน่น ผ้าที่เนื้อหนาและสีเข้ม จะช่วยปกป้องแสงแดดได้ดีกว่าการใส่เสื้อผ้าที่รัดรูปพอดีตัว ขาสั้น แขนสั้น และสีอ่อน

7. เลือกใช้ร่มที่ทำจากวัสดุกันรังสี UV

นอกจากผิวหนังที่เสื่อมแล้ว อายุที่เพิ่มมากขึ้น ก็ทำให้ร่างกายสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ กระดูกเริ่มบาง มีภาวะโรคกระดูกพรุน เอ็นและข้อต่างๆ ข้อเข่าเริ่มเสื่อม “การออกกำลังกาย” อย่างสม่ำเสมอจะช่วยชะลอเรื่องเหล่านี้ไม่ให้เกิดขึ้น และทำให้เรามีความแข็งแรง โดยสามารถเลือกออกกำลังกายได้หลากหลาย อาทิ การเดิน การเล่น Weight Training สามารถช่วยเพิ่มมวลกระดูกและป้องกันโรคกระดูกพรุน, การฝึกกล้ามเนื้อ (Strength) ช่วยเพิ่มการทรงตัวที่ดี ซึ่งมีประโยชน์มากในผู้สูงอายุ เพราะช่วยลดความรุนแรงจากการหกล้ม และช่วยให้ร่างกายแข็งแรง จึงควรหาเวลาอย่างน้อยวันละ 30 นาทีออกกำลังกาย และทำต่อเนื่องกัน 3-5 วันต่อสัปดาห์ ก็จะช่วยให้เรามีสุขภาพแข็งแรง ซึ่งแม้ว่าคุณจะมีอายุมาก แต่หากออกกำลังกายบ่อยๆ ก็สามารถมีหุ่นที่ฟิตแอนด์เฟิร์มได้เช่นกัน



นอกจากนี้ ยังต้องเลือกกินอาหารที่ดี มีประโยชน์ กินผักและผลไม้ให้มาก งดกินของมัน ของทอด และอาหารแปรรูปต่างๆ งดการดื่มเหล้าและสูบบุหรี่ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ทำจิตใจให้สดชื่นแจ่มใสและฝึกสมาธิ

หากทำตามคำแนะนำที่กล่าวมาข้างต้น ไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไร ก็สามารถมีสุขภาพที่แข็งแรงสมวัย และสวยในแบบที่คุณเป็น แต่อย่าลืมว่าทุกอย่างล้วนต้องเริ่มที่ตัวคุณ และลงมือทำตั้งแต่วันนี้ก่อนที่ความแก่จะมาเยือน

---------------------------------------------------------------------

แหล่งข้อมูล

รศ.พญ.เพ็ญพรรณ วัฒนไกร สาขาวิชาโรคผิวหนัง ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล

ขอขอบคุณ : ภาพประกอบจาก https://pixabay.com/