เคยคิดกันบ้างไหมว่า สักวันพวกเราจะขาดแคลนน้ำดื่มน้ำใช้ก็ได้นะ? แต่ตอนนี้ยังไม่คิดกันหรอก เพราะยังไม่เกิดผลกระทบที่ชัดเจนจนทำให้รู้สึกถึงการขาดแคลนน้ำอย่างจริงจัง

แต่จำได้ไหมว่า สมัยที่เผชิญหน้ากับน้ำท่วมครั้งใหญ่ แม้แต่ชาวกรุงเทพฯก็ต้องอพยพหลบหนีน้ำกัน ตอนโน้นรู้ซึ้งแล้วว่า การขาดแคลนน้ำดื่มนั้นทรมานใจแค่ไหน? บางร้านค้าต้องสั่งซื้อน้ำมาตุนเพื่อขายให้ผู้ต้องการ ทว่าต้องซื้อกันในจำนวนจำกัด บางร้านไม่เหลือน้ำไว้ขายเลยเนื่องจากมีเท่าไหร่ก็ขายหมด ช่วงนั้นใครๆก็ตุนน้ำไว้ดื่มไว้ใช้ ดีนะที่มีหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนได้เข้ามาช่วยให้มีการแบ่งสัน ปันส่วนน้ำดื่มแก่ประชาชน จนพวกเราผ่านพ้นเหตุการณ์ระทึกไปได้

ด้านบีบีซีไทยแจ้งว่า ผู้เชี่ยวชาญเตือนมานานแล้วว่า โลกจะประสบวิกฤติขาดแคลนน้ำ เพราะแม้ว่า ราว 70% ของพื้นผิวโลกจะปกคลุมด้วยน้ำ แต่กลับมีเพียง 3% เท่านั้นที่เป็นน้ำจืด ไอ้หยา!

หนำซ้ำมีผลการศึกษาหลายชิ้นคาดด้วยว่า นครเคปทาวน์ของแอฟริกาใต้จะกลายเป็นเมืองใหญ่แห่งแรกของโลกที่ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำสำหรับการบริโภค เนื่องจากมีสาเหตุจากฝนตกน้อยต่อเนื่อง 3 ปี รวมทั้งความต้องการใช้น้ำที่เพิ่มสูงขึ้นจากจำนวนประชากรที่เพิ่มมากขึ้น ฟังแล้วน่าตกใจเนอะ

ทางด้านสหประชาชาติ (หรือยูเอ็น) ได้ประมาณการว่า ภายในปี ค.ศ.2030 ปริมาณความต้องการใช้น้ำจืดของคนทั่วโลกจะมีมากกว่าทรัพยากรน้ำที่มีอยู่เพียง 40% โดยสาเหตุมีหลายปัจจัยประกอบกัน เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ, การกระทำของมนุษย์ และการขยายตัวของจำนวนประชากรโลก

นอกจากเคปทาวน์แล้ว ยังมีเมืองใหญ่อีก 11 เมืองทั่วโลกที่ตกอยู่ในภาวะเสี่ยงที่จะเผชิญปัญหาเดียวกัน ได้แก่ 1.เซาเปาโล ในแอฟริกาใต้ 2.บังคลาลอร์ ในอินเดีย 3.กรุงปักกิ่ง ของจีน

...

4.กรุงไคโร ในอียิปต์ 5.กรุงจาการ์ตา ในอินโดนีเซีย 6.กรุงมอสโก ของรัสเซีย

7.อิสตันบูล ของตุรกี 8.กรุงเม็กซิโกซิตี ในเม็กซิโก 9.กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ

10.กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น 11.นครไมอามี รัฐฟลอริดา ในสหรัฐอเมริกา

เมื่อโลกต้องเผชิญกับภาวะขาดแคลนน้ำ จึงควรให้ความสำคัญกับการใช้น้ำกันให้มาก และควรใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า จากการประปานครหลวง ด้วยการ * ถ้าเป็นการอาบน้ำ ด้วยฝักบัวจะทำให้สิ้นเปลืองน้ำน้อย ตรงข้ามกับอาบน้ำ ในอ่างที่ใช้น้ำมากกว่ากัน

* แปรงฟัน แต่ละครั้งควรใช้แก้วจะใช้น้ำเพียง 0.5-1 ลิตร ไม่ควรเปิดก๊อกน้ำทิ้งไว้ขณะแปรงฟันหรือล้างแปรงสีฟันจากก๊อกโดยตรง

* การล้างจานชาม ควรรวบรวมให้มีปริมาณมากพอ แล้วใช้กระดาษเช็ดคราบสกปรกออกครั้งหนึ่งก่อน จากนั้นค่อยล้างพร้อมกันในอ่าง จะทำให้สิ้นเปลืองน้ำน้อย และใช้เวลาล้างน้อยลงด้วย

ช่วยกันประหยัดน้ำอย่างนี้เพื่อเราจะได้มีน้ำใช้ไปนานๆ.

คนสมถะ