สิ่งใดที่เรารักมาก ก็เป็นศัตรูแก่เรามาก สิ่งใดที่เรารักน้อย ก็เป็นศัตรูแก่เราน้อย สิ่งใดที่เราไม่รักเลย ก็เฉยๆ เป็นธรรมะของ หลวงพ่อลี วัดอโศการาม ที่สอนว่า อย่ายึดติดกับอารมณ์ เพราะรังแต่จะทำให้ทุกข์ แต่ปุถุชนอย่างเราๆท่านๆก็ยากจะหลีกเลี่ยงพ้น ก็คงทำได้ดีสุดคือ ชอบ รัก หลงอะไร ก็ให้กลางๆ.....
ไปดูพระเครื่องอาทิตย์สุดท้ายของเดือนนี้ สำนักแรกคือ พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์สังฆาฏิ ไม่มีหู กรุวัดใหม่อมตรส ของ เสี่ยต่อ สตางค์ เป็นพระสภาพสมบูรณ์เดิมๆๆ ขนานแท้ๆๆ ที่สมัยนี้หายากมากๆๆไปแล้ว เพราะพระองค์สมบูรณ์แบบนี้ ส่วนใหญ่จะถูกนำไปลอกคราบกรุ เปิดให้เห็นความงดงามองค์พระ เพื่อทำราคา.....
มีทั้งแบบลอกหมดทั้งองค์ ที่ส่วนใหญ่เป็นพระกรุเก่า ที่มีคราบกรุบางเบาเนื้อในหนักแน่น กับแบบลอกเปิดเฉพาะองค์พระ และส่วนที่พอทำได้ โดยไม่ทำให้เกิดความเสีย หาย ส่วนใหญ่ก็เป็นพระกรุใหม่ ซึ่งมีคราบกรุหนาเนื้อในเปราะบาง.....
การลอกขึ้นอยู่กับผู้ทำ ซึ่งต้องมีความรู้เรื่องความแน่น หนาของคราบกรุ ว่าควรทำได้แค่ไหน พระส่วนใหญ่ที่ค้นพบอยู่ส่วนบนของกรุ สามารถลอกได้หมด เพราะคราบกรุแห้งสนิท ส่วนพระที่อยู่ล่างๆกรุ ที่ถูกทับถม และจมน้ำ จะมีคราบกรุจับแน่นหนา จึงลอกได้บางส่วน.....
...
สำหรับพระที่ไม่มีการลอกคราบกรุ ไม่มีหมึกปั๊มแบบองค์นี้ เสี่ยต่อ ให้ความเห็นว่าน่าจะเป็นพระที่จับตัวรวมเป็นก้อนๆหลายองค์ โดยมีเนื้อดินไขกรุเป็นตัวยึด ซึ่งกรรมการได้ขอทำบุญบูชาไปจากทางวัด เพื่อหาวิธีในการแยกออกในภายหลัง พระส่วนนี้จึงไม่มีการลอกคราบกรุ และไม่มีตราประทับหลัง--ฟังสันนิษฐานแล้ว ข้าพเจ้าก็เห็นด้วย.....
ตามมาด้วย พระนางพญา พิมพ์สังฆาฏิ กรุวัดนางพญา พิษณุโลก พระเครื่องที่ผู้หญิงกำลังนิยมหาบูชา เพราะครบทั้งคุณค่าและอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ ตามที่มีประสบการณ์เล่าต่อมาว่าหญิงใดมีใช้บูชาประจำตัว จะมีอำนาจ (เหนือสามี) มีบารมีเหนือบริวาร ก็ประมาณหญิงเหล็ก.....
สมัยก่อนความนิยมในพระสกุลนี้ มุ่งเน้นไปที่ พระพิมพ์ใหญ่ ที่มีอยู่ 3 แบบคือ พิมพ์เข่าโค้ง พิมพ์เข่าตรง พิมพ์อกนูนใหญ่ มีออกมาเท่าไร ก็มีผู้เช่าบูชาไปจนหมด.....
ล่าสุดมีข่าวการซื้อขาย พระพิมพ์เข่าโค้ง องค์รองแชมป์ จากรังเก่าไปในราคา ๑๕ ล้าน ทำให้ผู้แสวงหาต้องเบนเป้า ไปเสาะหาสู้ราคาพระในหมวดพิมพ์เล็กองค์งามสภาพแชมป์ๆแทน แบบองค์นี้ของ เสี่ยพรรค คูวิบูลย์ศิลป์ ที่ราคายังพอสู้ไหว เพราะแค่ ๑.๕ ล้านเอง.....
ตามมาคือ พระถ้ำเสือ พิมพ์หน้าตุ๊กตา กรุเก่า เขาถ้ำเสือ อ.อู่ทอง สุพรรณบุรี พระเครื่องเลื่องชื่อของเมืองสุพรรณบุรี .....
เป็นพระพิมพ์เนื้อดิน พุทธศิลปะสมัยอยุธยา เชื่อกันว่าฤๅษีสร้างไว้ ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ราวปี พ.ศ. ๒๒๒๐ และมาค้นพบครั้งแรกราวปี พ.ศ. ๒๔๗๐ โดยชาวไร่ที่เข้า ไปหาขี้ค้างคาวในถ้ำบนเขาเสือ อ.อู่ทอง พบพระนี้จำนวนมากมายหลายขนาดนับสิบรูปแบบ.....
...
แยกกลุ่มได้เป็น พิมพ์ใหญ่ พิมพ์กลาง พิมพ์เล็ก พิมพ์จิ๋ว นำมาเผยแพร่จำหน่ายจ่ายแจก พอมีผู้นำไปใช้ได้เห็นผลเป็นอิทธิฤทธิ์ด้านคุ้มครองป้องกัน ถึงแคล้วคลาดคงกระพัน พระกรุนี้เก๊าะกลายเป็นพระดีมีชื่อเสียงมีค่ามีราคา.....
ต่อมามีการค้นพบอีกหลายครั้ง ในถ้ำที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงอย่าง เขาวงพาทย์ เขาดีสลัก ฯลฯ ซึ่งมีพุทธ-ศิลป์แบบเดียวกัน.....
ปัจจุบันยังนิยมพระกรุเก่า ซึ่งองค์งามๆ สภาพเยี่ยมๆ อย่างองค์นี้ของ นพ.พิเชษฐ์ เกียรติเดชาวิทย์ ราคาสูงถึงหลักแสนเชียว.....
อีกองค์ก็ตระกูลนาง ต่างสำนัก คือ พระนางพญาเสน่ห์จันทร์ กรุวัดตาเถรขึงหนัง จ.สุโขทัย องค์นี้ของ เสี่ยปรีดา คูวิบูลย์ศิลป์ เป็นพระแท้สภาพงามเยี่ยมเดิมๆ ฟอร์มทรงสมส่วนแบบมาตรฐาน สีส้มนิยมสุด เนื้อละเอียดผิวนวลแน่น.....
...
มีเอกลักษณ์ คราบฝ้าราขาว บนผิวเนื้อทั้งด้านหน้า-หลังเป็นจุดพิจารณาสำคัญ ที่บอกอายุความเก่าถึงอายุอย่างเป็นธรรมชาติชัดเจน สูงค่าด้วยพุทธศิลป์สมัยสุโขทัยบริสุทธิ์.....
ค้นพบครั้งแรก เมื่อปี พ.ศ.๒๕๐๒ โดยกรมศิลปากร นำขึ้นจากกรุในเขตวัดศรีพิจิตรกีรติกัลยาราม หรือวัดตาเถรขึงหนัง ที่สร้างเมื่อปี พ.ศ.๑๙๔๖ และสร้างพระพิมพ์นี้บรรจุไว้เมื่อปี พ.ศ.๑๙๔๗....
เมื่อคัดแยกพิมพ์พระนับจำนวนเรียบร้อย กรมศิลปฯ นำออกให้สาธุชนเช่าบูชาในราคาหลักสิบ--ปัจจุบันราคาพระองค์งามๆ แบบนี้อยู่ที่หลักแสนมานานแล้ว.....
อีกเรื่อง มี คำถามสนามพระ มานานแล้วขอตอบตอนนี้เลย คือ ที่มาของชื่อพระนางพญาเสน่ห์จันทร์ ที่มีเล่าสืบมาเป็นสองนัยว่า หนึ่งมีว่า ก่อนกรมศิลปฯทำการเปิดกรุ มีนักลักลอบหาสมบัติมืออาชีพแอบขุดกรุนำพระนี้ออกมา โดยอาศัยแสงแห่งพระจันทร์วันเพ็ญส่องทาง เมื่อได้องค์พระออกมาส่องดูกับแสงจันทร์ เห็นเป็นความงามที่มีรัศมีจับตาจับใจจึงเรียกชื่อดังนั้น.....
...
อีกเรื่องมีว่า เพราะในเนื้อพระมีส่วน ผสมของว่านเสน่ห์จันทร์ และองค์พระมีรูปทรงสามเหลี่ยมอย่าง พระนางพญา พิษณุโลก จึงกำหนดเป็นชื่อเรียกมาตามนั้น--ใครจะเชื่อแบบไหนตามใจชอบ ขอให้พระแท้ละกัน.....
ตามมาอีกรายการคือ เหรียญที่ระลึก งานหล่อพระพุทธรูป รุ่นแรก พ.ศ.๒๔๗๓ เนื้อเงิน หลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ ชลบุรี ๑ ใน ๔ พระเกจิอาจารย์ จตุรเทพ แห่งสงครามอินโดจีน ทีม จาด จง คง อี๋.....
เพราะพระเครื่องของขลังของพระเกจิต่างๆ ที่ศิษย์ทหารพกออกรบสงครามอินโดจีน มีอิทธิปาฏิหาริย์ปกป้องคุ้มครองให้แคล้วคลาดกลับบ้านได้ และในเรื่องที่เหลือเชื่อที่ช่วยให้รอดพ้นความตาย ที่พบมากสุดเป็นศิษย์พระเกจิฯทั้ง ๔ รูปนี้ ซึ่งมีชื่อ ล.พ.อี๋ เป็น ๑ ในนั้น .....
ท่านเป็นชาวสัตหีบ เกิด พ.ศ.๒๔๐๘ อุปสมบทที่วัดอ่างศิลา เรียนวิชาอาคมกับ หลวงพ่อปาน วัดคลองด่าน ซึ่งทำให้ท่านเป็นผู้มีสมาธิจิตเข้มแข็ง เข้าฌานสมาบัติแยกกายจากจิตได้เร็วกว่าพระเกจิในยุคเดียวกัน.....
ท่านสร้างพระเครื่องของขลังไว้มาก อาทิ ตะกรุด ผ้ายันต์ เสื้อยันต์ พระปิดตาสามเกลอ พระสี่เกลอ ที่นิยมเรียก พระ พรหมสี่หน้า .....
ที่สร้างชื่อ เสียง คือ ปลัดขิก ที่เล่ากันว่าท่านปลุกเสกจนว่ายน้ำได้ กับ เหรียญรุ่นฉลองการหล่อพระประธาน รุ่นนี้ ที่สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.๒๔๔๒ เป็นเหรียญพระเกจิอาจารย์ยอดนิยมแถวหน้าของเมืองชลฯ นิยมเป็น เนื้อทองแดง กับ เนื้อเงิน แบบเหรียญนี้ของ พ.ต.ต.จตุพร อรุณฤกษ์ถวิล ผอ.๓ กองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานรัฐ.....
ต่อไปเป็น เหรียญหล่อ เนื้อโลหะผสม หลวงพ่อจั่น วัดบางมอญ (บางสงบ) อ.มหาราช จ.อยุธยา ติดอันดับยอดเหรียญเลื่องชื่อเรื่อง มหาอุด ที่เคยมีคนเข้าใจผิด คิดว่าเหรียญนี้เป็น เหรียญหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน เพราะเป็นเหรียญหล่อโบราณเนื้อโลหะผสม ห่วงหูในตัว จับเกาะแบบปากปลิง เหมือน เหรียญจอบเล็กหลวงพ่อเงิน และยันต์หลังยังเป็น ยันต์อสีสติ ซึ่ง หลวงพ่อเงิน ใช้ลง ตะกรุดโทน โดยไม่มีบอกรายละเอียดผู้สร้าง ก็เลยสับสนอลหม่านไปพัก.....
แต่ หลวงพ่อจั่น เป็นพระเกจิอาจารย์ยุคเดียวกับ หลวงพ่อเงิน มีวิชาพุทธาคมเข้มขลัง ที่ยืนยันได้จาก หลวงพ่อกรานต์ เจ้าของเหรียญพระเกจิฯยอดนิยมอันดับ ๑ ของเมืองสระบุรี ยังไปขอเป็นศิษย์ และเป็นพระผู้ที่ หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ ให้ความเคารพเรียกท่านเป็น “หลวงพี่” อายุพรรษาสูงกว่า ๑๐ ปี.....
จึงทำให้ท่านได้รับการยกย่องในวิชาอาคม จนเหรียญรุ่นนี้ ติดแถวหน้าเป็น เหรียญหล่อโบราณยอดนิยม ราคาสูงสุดของเมืองกรุงเก่า ซึ่งปัจจุบันยากที่จะหาเหรียญสภาพสวยเด็ดแบบเหรียญนี้ของ เสี่ยชาญชาติ บุญประดับ เจ้าของโรงอิฐ อ.ป่าโมก อ่างทอง....
อีกรายการเพื่อคนชอบเครื่องรางของขลัง คือ กุมารทอง เนื้อดินเจ็ดป่าช้า พิมพ์หน้าเด็กหูสั้น หลวงพ่อเต๋คงทอง วัดสามง่าม อ.ดอนตูม นครปฐม .....
จะเรียกเป็นมงคลวัตถุหรือวัตถุอาถรรพณ์ก็ได้หมด เพราะ หลวงพ่อเต๋ ท่านสร้างขึ้นตามตำรับวิชาอาถรรพณ์โบราณ ไม่มีข้อมูลว่าท่านเรียนวิชานี้มาจากใคร ที่ไหน แต่ กุมารทอง ของท่านแสดงอิทธิฤทธิ์อิทธิเดชเป็นที่โจษขาน ของผู้ที่ได้นำไปบูชาเลี้ยงดูอย่างถูกวิธี ว่าได้พบสิ่งมหัศจรรย์ทั้งด้านคุ้มครองป้องกันภัย ป้องกันทรัพย์สินจากโจรผู้ร้าย ประมาณถูกดักปล้นโจรยังปล่อยให้ผ่าน เพราะเห็นเป็นเด็ก.....
ด้านโชคลาภ ก็ชัดเจนขนาดช่วยขายของ จนลูกค้าติดใจกลับมาถามหาตนในภาพนี้ของ เสี่ยแบงค์ ท่าข้าม เป็นแบบหน้าเด็ก หูสั้น สร้างยุคแรก หายากสุดๆ ราคาหลักแสน .....
อีกของขลัง คือ ตะกรุดกระดูกแร้ง หลวงพ่อหรุ่น (เก้ายอด) วัดอัมพวัน เขตดุสิต กรุงเทพฯ พระเกจิฯ ที่มีประวัติอดีตเป็นไอ้เสือ ปล้น ฆ่า เพราะมีวิชาอาคมเข้มขลัง ด้านคงกระพันชาตรี ล่องหนหายตัว เจ้าหน้าที่ทางการไม่มีปัญญาปราบปราม สุดท้ายต้องขอให้มอบตัว โดยมีเงื่อนไข ให้ทำประโยชน์ให้ประเทศชาติทดแทนการลงโทษในตำแหน่งกำนันปกครอง.....
ซึ่งท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเยี่ยม เขตพื้นที่ปกครองและใกล้เคียง ปราศจากโจรปล้นฆ่าอยู่กันอย่างสงบสุข ด้วยทุกชุมโจรล้วนเป็นพรรคพวกลูกน้องที่กลับตัวกลับใจเป็นคนดี ตามคำขอของท่าน.....n เมื่อประสบความสำเร็จในการทำหน้าที่ให้บ้านเมืองวางใจ ท่านจึงอุปสมบท จำพรรษาที่วัดอัมพวัน มีอดีตลูกน้องตามมาเป็นศิษย์ ขอเครื่องรางของขลัง และการสักยันต์เก้ายอด ซึ่งมีชื่อเสียงสูงสุด.....
ด้านวัตถุมงคลท่านได้สร้าง ตะกรุดทำด้วยกระดูกแร้ง ร้อยด้วยผ้าห่อศพ ลงอักขระเลขยันต์ ถือเป็นของขลังที่ท่านทำให้เฉพาะคน เพราะมีอานุภาพสูง มีอาถรรพณ์รุนแรง ผู้ได้รับต้องรับคำสัตย์สาบานกับท่านว่าจะประพฤติตนเป็นคนดี รักษาศีลธรรมไม่ปล้นฆ่าตลอดชีวิต ถ้าไม่รักษาวาจา ก็จะเข้าตัว มีอันเป็นไป.....
ลากันด้วยเรื่องปิดท้ายเก็บตกจากวงเม้าท์ ที่กำลังคุยเรื่อง พระนางพญา และเล่ากันฮาๆถึง เสี่ยปอ เจ้าของร้านขายมอเตอร์ไซค์ ย่านพุทธมณฑล อดีตเป็นเซียนพระเดินสาย ต่อมาได้เมียเป็นนายทุนเปิดร้านขายมอไซค์ กิจการก็เจริญรุ่งเรือง ขายดี แต่เมียเป็นคนเก็บเงิน.....
จนปีใหม่ที่ผ่านมา เมียจับได้ว่ามีกิ๊ก อาละวาดปุ๊บ เสี่ยปอ ก็ยอมเลิกกิ๊ก อยู่อย่างสงบเสงี่ยม ไม่หือไม่อือ เมียว่าอะไรก็ยอม.....
เพื่อนๆเมียก็รุมถามว่า เอา เสี่ยปอ อยู่หมัดได้ไง เจ๊ก็คุยโวว่าเพราะมี พระนางพญา ที่เฮียให้ไว้เป็นสินสอด พอจับได้ว่ามีกิ๊ก ชั้นก็เอามาคล้องคอบูชา ตั้งแต่นั้นเขากลัวชั้นหงอเลย.....
เรื่องไปเข้าหู เสี่ยชัย เพื่อนซี้ เสี่ยปอ ก็เลยโทร.ไปแซวเพื่อน ว่าเป็นไงได้ข่าวว่าเจออานุภาพ พระนางพญา กลัวเมียหงอหมดลายเลยหรือเพื่อน.....
เสี่ยปอ ตอบเสียงอ่อย ไม่ให้กลัวได้ไง เพราะ พระนางพญา ที่เมียใช้อยู่ เป็นพระปลอม พระจริงแอบเปลี่ยนขายไปแล้ว ก็เลยต้องยอมกลัว ให้เขาเชื่อๆไปก่อน จนกว่าจะหาพระแท้มาเปลี่ยนคืนได้ ไม่งั้นโดนจับได้ กูจะซวยสองเท่าสิฟะ อามิตตพุทธ.
สีกาอ่าง