เข้าเวที สนามพระวิภาวดี อาทิตย์สุดท้ายของเดือนสอง กันด้วย ธรรมะจาก หลวงปู่แหวน สุจิณโณ อริยสงฆ์แห่งวัดดอยแม่ปั๋ง เชียงใหม่ ซึ่งล่วงลับดับขันธ์ไปเมื่อ พ.ศ.2528 แต่ธรรมะคำสอนท่านยังเป็นอมตะ ดังเช่น “บุคคลที่ทนในสิ่งที่คนอื่นทนได้ยาก ทำในสิ่งที่คนอื่นทำได้ยาก บุคคลนั้น จะเข้าถึงความสำเร็จของชีวิต ความอดทน ความขมขื่น จะเกิดขึ้นในเบื้องต้นของการทำความดี แต่จะได้รับความชื่นชมในบั้นปลาย”.....
จากธรรมะพระสงฆ์ ต่อด้วยพระเครื่อง รายการแรกวันนี้ คือ พระสมเด็จ พิมพ์ฐานแซม สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) วัดระฆังโฆสิตาราม ของ เสี่ยก้อง ท่าพระจันทร์ ชื่อนี้อาจฟังดูใหม่ในสนามนี้ แต่เก่าที่อื่น เพราะเป็นทายาท เฮียเปี้ย ท่าพระจันทร์ เซียนใหญ่มืออาชีพ สายพระเบญจภาคี ชั้นแนวหน้า.....
เสี่ยก้อง จึงเปิดตัวแบบฮือฮา ด้วย ฐานแซม วัดระฆัง องค์งาม พร้อมฟิล์มเอกซเรย์ โชว์รอยแตกชำรุดเหนือพระอุระตลอดแนวขวาง ซึ่งซ่อมแซมต่อติดไว้ได้อย่างสนิทแน่นเนียนตาเวรี่เนี้ยบ เพราะเป็นการต่อติดด้วยชิ้นเนื้อพระเดิมองค์เดียวกัน โดยฝีมือช่างชั้นเยี่ยม ดูด้วยตาไม่มีรู้ เนื้อพระก็เข้มข้นแก่มวลสาร (เนื้อจัด) มีเกล็ดเนื้อรักเก่าที่เหลือจากการลอกหลุดล่อน ฝังตัวแน่นทั่วองค์ เสริมความเข้มขลัง.....
...
เป็นพระน่าใช้มาก เพราะด้วยศักดิ์ศรีวัดระฆังฯ ที่แค่เนื้อแท้ชิ้นเล็กๆ ยังหายาก นี่มีมาเต็มองค์ ซ่อมแล้วด้วยจนสวยเทียบชั้นพระแชมป์ ราคาก็เบาแบบพระชำรุด ที่สำคัญใช้ดีแน่ เพราะพุทธคุณยังมีเต็มเปี่ยม แล้วจะจ่ายแพงทำไม.....
ส่วน เสี่ยบี พัทยา วันนี้ก็ไม่น้อยกว่า เพราะส่ง พิมพ์ฐานแซม มาเหมือนกัน แต่เป็น พระสมเด็จบางขุนพรหม กรุวัดใหม่อมตรส.....
องค์นี้บอกแบบภาษานักนิยมพระว่า พระแท้ดูง่าย โชว์ได้ ใช้ดี ไม่สวยเลิศ เพราะผิวเนื้อมีริ้วรอยสัมผัสใช้ แต่ยังสมบูรณ์ สวยแบบมีเสน่ห์ ไม่มีจุดตำหนิเสียหาย ตามสเปก พระซื้อง่าย ขายคล่อง ที่ตลาดต้องการสูง-ส่วนใหญ่ เป็นนักนิยมพระรุ่นใหม่ ที่สนใจพระสมเด็จ อยากใช้พระดีแน่แท้ชัวร์ ในราคาที่พอจ่ายไหว.....
ยังป้วนเปี้ยนอยู่ในดงเบญจภาคี เพราะองค์ถัดไปคือ พระนางพญา พิมพ์อกนูนเล็ก กรุวัดนางพญา พิษณุโลก องค์นี้เป็นพระดังในอดีต ที่ยอมรับว่าเป็น องค์งามสุดของพิมพ์ เพราะมีรายละเอียดบนพระพักตร์แบบ หูตากะพริบ ที่โดดเด่น จนคว้าแชมป์งานประกวดครั้งประวัติศาสตร์ของธนาคารศรีนคร เมื่อปี พ.ศ.๒๕๑๙ และก็ครองความเป็นนัมเบอร์วันของพิมพ์มาแบบไม่มีพิมพ์นี้องค์ไหน “กระชากมง” ได้ คือเป็นแชมป์อมตะไปแร้วว่าง้านเถอะ ทั้งพิมพ์พระ ผิวพรรณ วรรณะ เนื้อที่เป็นสีพิกุลมาตรฐานนิยมสุด.....
...
ปัจจุบันพระพรีเมียมแบบนี้ ราคาอยู่ที่เจ้าของ อย่างองค์นี้ ปัจจุบันเป็นของ “พี่หริ” ศิริ คูวิบูลย์ศิลป์ ใครชอบจริง คุยราคาดู แต่ระวังหงายหลังถ้าไม่ตั๋งจริง.....
ต่อด้วย พระยอดขุนพล กรุวัดราษฎร์บูรณะ อ.เมือง อยุธยา พระพิมพ์เนื้อชิน ผิวปรอทขาว ยอดนิยมของกรุ ฝีมือช่างอยุธยาสร้างล้อศิลป์ลพบุรี .....
ลักษณะเป็นพระนั่งปางมารวิชัยในซุ้มเรือนแก้ว เหนือฐานบัวสามกลีบชั้นบนชัดเจน ด้านล่างมีริ้ว ๓ กลีบ ซึ่งเป็นรูปแบบ พระยอดขุนพล ได้รับความนิยมเป็นลำดับต้นๆ ของกรุ ทำให้มีพระเก๊ออกมามาก ความนิยมจึงจางไป แต่ถ้าเป็นพระแท้ดูง่าย องค์งามสุดๆแบบนี้ของ เสี่ยเฉลียว ตาดชูวงศ์ ยังมีสายตรงรออยู่เยอะ .....
ตามมาคือ พระปิดตาปิลันทน์ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (ม.จ.ทัต เสนีย์วงศ์) วัด ระฆังโฆสิตาราม พิมพ์นี้ จัดอยู่ในหมวดพิมพ์พิเศษ พบน้อย หายาก แต่ที่พบก็สมบูรณ์สวยงาม เพราะเจ้าของรู้คุณค่ารักษาอย่างดี.....
ตอนนี้ ราคาองค์งามๆสภาพเรียบร้อย ไขกรุบางๆไม่ปิดบังมุมมององค์พระแบบองค์นี้ เสี่ยตรี บางแค บอกว่า ราคาหลักแสนกลาง-ปลาย ถึงล้านก็เคยมีคนจ่ายเพราะรักจริง.....
ต่อเข้าสนามเหรียญ รายการแรก เป็นของ หลวงปู่เอี่ยม วัดหนังฯ บางขุนเทียน กรุงเทพฯ ที่จัดสร้าง เหรียญยันต์ ๔ สามจุด เนื้อเงิน เมื่อ พ.ศ.๒๔๖๗ จนกลายเป็นเหรียญพระเกจิอาจารย์อันดับต้น ราคาหลักล้าน.....
...
เพราะความงดงามของเส้นศิลป์ที่เป็นรายละเอียด ทั้งในรูปแบบ และพิมพ์พระศิลปะแบบนูนต่ำ กับอานุภาพความ ศักดิ์สิทธิ์ทางบู๊ที่เลื่องลือ ดังมีคำเล่าลือสืบมาว่าขนาด มีดโกนไม่ได้กินเนื้อ ปืนยิงไม่ออก กระบอกแตก--ทางบุ๋นก็ไม่เบา เล่ากันมาว่า ศิษย์ท่านระดับหาเช้ากินค่ำ ได้เมียเป็นลูกสาวคุณหลวงเลยล่ะ.....
อีกเหตุผลที่ทำให้เหรียญแพงหลายล้าน คืออายุเหรียญ ที่มีอายุจะ ๑๐๐ ปีแล้ว แต่ยังสวยกริ๊บสมบูรณ์ ๙๐% โดยเฉพาะ เม็ดลูกตา ที่กลมเด่น ซึ่งเป็นจุดหลักในการพิจารณา แบบเหรียญนี้ของ เสี่ยประเสริฐ เอื้อเฟื้อเลิศสกุล ที่ยอมรับว่าสวยสุดๆอีกเหรียญ.....
อีกเหรียญ มาจากสำนัก วัดเขาบันไดอิฐ เพชรบุรี ที่ หลวงพ่อแดง สร้างขึ้นเป็น รุ่นแรก เมื่อ พ.ศ.๒๕๐๓ เป็น เนื้อเงิน ซึ่งจัดเป็น เนื้อพิเศษ มีเพียง ๘๓ เหรียญ เท่าอายุ ๘๒+๑ ตามธรรมเนียมนิยม.....
ผู้ได้รับ ส่วนใหญ่เป็นผู้อุปถัมภ์การจัดสร้าง กรรมการ และศิษย์ใกล้ชิด ส่วน “เสี่ยชาย เมืองเพชร” ธนา ภัทรคงสิน ไม่มีชื่อเป็นเจ้าของตอนนั้น แต่ด้วยความเชื่อมั่นศรัทธาในวิชาบารมี หลวงพ่อแดง อย่างสูง จึงตามหามาหลายปี จนเจอเหรียญนี้สวยจี๊ดถูกใจ จึงยอมจ่าย ๓ ล้าน .....
...
อีกรายการเป็น เหรียญพัดยศ พ.ศ.๒๕๑๗ เนื้อเงิน หลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว อ.นครชัยศรี นครปฐม พระเกจิอาจารย์ที่ได้รับสืบทอดทั้งตำแหน่ง เจ้าอาวาส ฐานาสมณศักดิ์ “พระพุทธวิถีนายก” ตามองค์พระอาจารย์ คือ หลวงปู่บุญ--แสดงถึงความเป็นผู้มีคุณสมบัติพร้อม ซึ่งมีไม่มากนัก และรับสืบทอดวิชาพุทธาคม มาแต่ครั้ง หลวงปู่บุญ มีชีวิตอยู่ ด้วยการรับหน้าที่ จารอักขระแทน.....
เมื่อสิ้นพระอาจารย์ ท่านได้สร้างพระเครื่องวัตถุมงคลตามแบบพระอาจารย์หลายแบบ โดยเฉพาะ เบี้ยแก้ เอกลักษณ์ มีอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ปรากฏแบบใช้แทนกันได้เป็นอย่างดี.....
สำหรับเหรียญนี้สร้างแจกในงานทำบุญอายุครบ ๘๙ ปี จำนวน ๙๐ เหรียญ เกินอายุ ๑ เหรียญตามธรรมเนียม ปัจจุบันได้รับความนิยมสูง ราคาหลักแสน จุดสำคัญหนึ่งในการพิจารณา คือ รอยจารลายมือ อักขระตัวเฑาะว์มหาพรหม มีอานุภาพทางมหาอุตม์ ที่ด้านหลังเหรียญ ซึ่งมักมีตำแหน่งอยู่ข้างยอดยันต์ด้านขวาอย่างเหรียญนี้ของ เสี่ยพ็อต นครชัยศรี...วันนี้มีพระใหม่ สร้างดี พิธีใหญ่มาเสนอ เป็นของพระอาจารย์ ที่ สีกาอ่าง เคารพมากองค์หนึ่ง เพราะมีศีลวาจาวัตรงดงาม เป็นพระไฟแรงนักพัฒนา คือ ท่านเจ้าคุณพระเทพคุณาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดเทวราชกุญชรวรวิหาร กรุงเทพฯ ซึ่งจัดสร้างและเสก พระกริ่งเทวราช จารึกนามฉายา ว่า โสภณจิตโต ไปเมื่อ 20 มี.ค.นี้เอง เนื่องในวาระที่มีอายุครบ 55 ปี วันที่ 5 เมษายน ปีที่แล้ว.....
พิธีปลุกเสก มีพระเกจิเข้มขลัง 9 รูป อาทิ หลวงพ่อหัตไทย วัดลุ่ม ระยอง หลวงพ่อเชย วัดละหารไร่ ระยอง หลวงพ่อสง่า วัดโสภณาราม สมุทรสาคร หลวงพ่อ อวยพร วัดดอนยายหอม นครปฐม อาจารย์แก้ว วัดตะโก อยุธยา ฯลฯ และนำพระเข้าพิธีแช่น้ำพระพุทธมนต์ .....
ตามธรรมเนียมวัดเทวราชฯที่จัดสร้างไม่มาก รุ่นนี้จึงแทบจะหมดแล้ว เพราะมี เนื้อทองคำ 9 องค์ นวโลหะ ก้นทอง เงิน ทองแดง 59 ชุด และ นวโลหะอีก 1,999 องค์เท่านั้น ทุกองค์มีหมายเลข ท่านจึงนำพระที่เหลือไม่มากมาให้บูชาในปีนี้ เพื่อตั้งกองทุนให้พระธรรมทูตที่ไปทำหน้าที่ที่อินเดีย เนปาล--ใครอยากได้บุญ และพระกริ่งชั้นยอดที่จัดสร้างอย่างดีงามเหมาะสม สอบถามได้ที่วัด 0-2281-2430.....
ลาเดือนแห่งความรักด้วยเรื่องเตียงหักรักล่ม ของ เจ๊วิภา สาวใหญ่วัย ๕๐ เจ้าของร้านขนมย่านคลอง– สาน มีสามีเป็นเซียนพระ ก็อยู่กันมาด้วยดี จนวันก่อนตี หน้ากลุ้มไปปรึก–เพื่อนว่า ปกติสามีไม่ได้กลับบ้านทุกวัน หายไปที ๓-๔ วัน บอกว่าเดี๋ยวนี้พระดีๆหายาก ต้องไปตามหาและต้องไปเฝ้าซื้อ พอกลับมาก็จะมีพระมาอวด ขายได้กำไร ก็เอาเงินมาให้เก็บทีละเยอะๆ ก็เลยไม่ได้ว่าอะไร.....
แต่ ๕-๖ เดือนที่ผ่านมา รู้สึกสามีไปเฝ้าพระบ่อยขึ้น และหายไปเป็นอาทิตย์ กลับบ้านได้วันเดียวก็ไปอีก พอถาม ก็บอกว่าตอนนี้ต้องไปบ่อยๆ เพราะกำลังตาม พระนางพญา องค์สวยอยู่ ถ้าซื้อได้ จะมีกำไรเป็นล้าน.....
ตอนแรกๆ เจ๊วิภา ก็เชื่อ แต่นานๆเข้าก็ชักรู้สึกแหม่งๆ ผิดปกติ เพราะไม่เคยมีพระกลับมาให้ดู จึงจ้างคนออกตาม จนรู้ความจริงว่า สามีไปตามเฝ้า นาง จริงๆด้วย เล่าจบก็ทำหน้าเมื่อย ถอนใจเฮือก.....
เพื่อนฟังหางเสียงก็รู้ว่าต้องไม่ใช่ นางที่เป็นพระเครื่องแน่ ก็ถามอย่างเห็นใจว่า นางพิมพ์ไหน อกใหญ่ หรืออกเล็กล่ะ สวยป่าว เจ๊วิภา ฟังแล้ว ตอบเสียงเหี่ยวว่า จะนางพิมพ์ไหน อกใหญ่อกเล็กกูก็ทนได้ แต่ครั้งนี้ไม่ทนแล้ว กูเลิกแน่--เพราะสามีดันไปเฝ้า “นางกะเทย” เจ้าค่ะ อามิตตพุทธ.
สีกาอ่าง