เข้าสู่เดือนสุดท้ายของปีแล้วค่ะ เดือนของการทบทวนว่า 1 ปีที่กำลังจะผ่านไป ให้คะแนนตัวเองเท่าไรดี ทั้งสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตเรา หรือแม้แต่คะแนนการตั้งสติในการรับมือกับสิ่งต่างๆ สิ่งที่เราควรพาข้ามปีไปด้วย หรือแม้แต่สิ่งที่ควรโละทิ้งเอาไว้กับปีนี้ เพื่อรอรับสิ่งดีๆ ปีหน้า 

ไปอ่านเจอข่าวหนึ่ง ที่เวียดนามกำลังทำตลาดเปิดท้ายขายของถ่านไฟเก่า ให้แต่ละคนที่มีของของอดีตคนรัก เก็บไว้ก็ปวดใจ ทิ้งไปก็เสียดาย เอามาขายดีกว่า เยียวยาหัวใจได้ด้วย เสียใจแค่ไหน ก็ต้องเดินหน้าต่อไป และยังต้องใช้เงิน แถมเปิดโอกาสให้คนที่บาดเจ็บจากความรักมาเจอกัน ให้กำลังใจ ทำมาค้าขายกัน น่ารักดีค่ะ รักที่ผ่านไป อย่าให้เหลือไว้แค่น้ำตา ยังไงก็ต้องได้มาซึ่งบทเรียน อย่าเจ็บซ้ำๆ เพียงเพราะไม่จำบทเรียนเล่มก่อนที่สอนเราเสียงดัง แค่เราแกล้งฟังไม่ได้ยิน 

นั่งอ่านอีเมลฉบับหนึ่งด้วยความหดหู่หัวใจ เรากำลังอดทนเพื่อใครจนใจร้ายกับตัวเองหรือเปล่า 

“สวัสดีค่ะพี่อ้อย หนูมีแฟนอายุห่างกัน 2 ปี ตอนแรกคบกันแบบพี่น้อง รู้จักกันมานานหลายปีแล้ว ตอนนั้นเขาเป็นผู้ชายที่ดีมาก ดูแล ห่วงใย ใส่ใจ พอเป็นแฟน คบกันได้ 2 เดือน เขาก็ขอเราว่าอยากมีลูก อยากมีเป้าหมายชีวิต ฐานะทางบ้านของเขาก็ดีค่ะ มีธุรกิจของครอบครัว ซึ่งพอเราคบกัน ทางบ้านเขาก็ให้เรามาดูแลกิจการด้วยกัน หนูเลยปล่อยท้อง ตอนท้องได้ประมาณ 2 เดือน เขาเริ่มติดเพื่อนมาก แทบไม่มีเวลาส่วนตัวเลย เพื่อนๆ ของเขาก็จะเป็นพวกเที่ยวเตร่ ไม่มีครอบครัว ไม่มีอาชีพ จึงไม่ค่อยเข้าใจในชีวิตครอบครัวว่าบางทีเราก็ต้องการส่วนตัวบ้าง ชักจูงกันไปไหนต่อไหน ทำให้เราเครียดได้ทุกวันในตอนที่ท้องอยู่ เวลาเราทะเลาะกัน เขาก็เริ่มลงไม้ลงมือ ทั้งๆ ที่เราท้อง ตอนท้องนี่ร้องไห้เกือบทุกวัน

...

ทะเลาะกันเราก็เจ็บตัวทุกครั้งจนคลอด เขาก็ไม่ได้สนใจช่วยเลี้ยงลูกเลย วันๆ เอาแต่สังสรรค์กับเพื่อนๆ เหมือนเราแทบจะไม่ได้เจอหน้ากัน เป็นช่วงที่หนูแทบบ้า กลายเป็นโรคซึมเศร้า เก็บตัวเองอยู่ในห้องไม่ได้ออกไปเจอใคร ตอนนี้พอเราทะเลาะกันที เขาก็เริ่มทำร้ายลูกไปด้วย กระชากลูกจากเรา ทั้งๆ ที่ลูกยังเล็กมาก หนูก็อดทนมาเรื่อยๆ เคยตัดสินใจออกจากชีวิตเขาแล้วครั้งหนึ่ง กลับมาอยู่บ้านหนูเอง ก็พอมีเงินเก็บบ้าง เอาไว้ซื้อของให้ลูก พยายามหางานขายของออนไลน์ทำ เพื่อจะได้มีเวลาเลี้ยงลูก ทางบ้านหนูก็คอยช่วยเหลือ แต่เรารู้สึกไม่ดี ที่มีลูกมีครอบครัวยังต้องลำบากคนอื่นอีก เลยตัดสินใจไปง้อเขาค่ะ เพราะหนูก็ยังรัก อยากให้ครอบครัวกลับมาสมบูรณ์ พยายามพูดให้เขารู้จักควบคุมอารมณ์ตัวเอง ถ้าเห็นแต่พ่อแม่ทะเลาะกันก็สงสารลูก เขาเปลี่ยนไปมาก พอเรากลับมาอยู่ด้วยกันแรกๆ ก็ดี หลังๆ มาก็เหมือนเดิม ตบตีเราต่อหน้าลูก ตอนนี้ลูกอายุ 1 ขวบกว่าแล้วเวลาทะเลาะกันลูกจะร้องกรี๊ดๆ น่าสงสารมาก หลังๆ เริ่มตีลูกอย่างไม่มีเหตุผล พี่คิดว่าหนูควรทำยังไงดีคะ หนูไม่อยากให้ลูกเติบโตมาในสภาพครอบครัวแบบนี้ ห่วงสุขภาพจิตลูก แต่ถ้าหนูออกจากชีวิตเขาหนูก็ห่วงอนาคตลูกค่ะ”

น้องเห็นทางออก แค่ยังไม่ยอมออกเท่านั้น หนูมั่นใจได้ยังไงว่า การทนอยู่ตรงนี้ ลูกจะมีอนาคต ตอนนี้เขาเริ่มทำร้ายลูกแล้ว ลูกจะมีลมหายใจไปถึงวันหน้าไหม ยังไม่มั่นใจเลย พ่อที่ไม่แคร์ความเจ็บปวดของลูก น้องผูกอนาคตไว้ที่เขาได้ยังไง ถามตัวเองดีๆ ที่ทนอยู่เพราะตัวเอง ? หรือลูก? รักเขา อยากอยู่กับเขา โดนตบก็ทนเอา แล้วบอกว่านี่ทำเพื่อลูก ให้เด็กเห็นความรุนแรงทุกวัน เราปลูกฝังอะไรในใจเขา เรื่องเสียสุขภาพจิต ตอนนี้พังไปถึงไหนแล้วไม่รู้ ควรปรึกษาจิตแพทย์เด็กนะ มีพ่อแม่ลูกอยู่ครบ แต่ตบกันทุกวัน ลูกจะอบอุ่นจากอะไร น้องคิดดีๆ จะเปลี่ยนนิสัยสามีที่ฝังรากยาวนาน ด้วยการเอาชีวิตลูกเป็นตัวประกัน มันคุ้มกันไหม ตอนที่เราเดินออกจากบ้านของเขาไป เขาทุรนทุรายตามหา อยากให้กลับมาเป็นครอบครัวเหมือนเดิมไหม น้องลืมเล่าไป หรือภาพนี้ไม่เคยเกิดขึ้นจริง
 
ถ้าครอบครัวที่เราสร้าง มันอ้างว้างเหลือเกิน ลองเดินกลับไปหาครอบครัวที่สร้างเรา พ่อแม่ อ้อมกอดใหญ่ๆ ที่ให้ความอบอุ่นได้มากเท่าที่เราต้องการ อย่างน้อย ตายายไม่ทำร้ายลูกและหลาน เหมือนผู้ชายบางคนที่เป็นทั้งสามีและพ่อของลูกแต่ผูกพันน้อยเหลือเกิน เงินหากันเองได้นะคะ ดีกว่ารอเงินจากผู้ชายที่ทำร้ายให้เราตายเมื่อไหร่ก็ได้ และตอนนี้ไม่แคร์แม้แต่ลมหายใจของลูก 

...

ถามว่าคนเราเปลี่ยนกันได้ไหม ได้นะคะ แต่ใช้เวลาไม่เท่ากัน แค่ในช่วงเปลี่ยนนั้น ไม่ควรเอาชีวิตใครเข้าไปเสี่ยง โดยเฉพาะชีวิตลูก รีบคิดและตัดสินใจ ตัวแม่น่ะไหว หัวใจลูกไหวหรือเปล่า รักเขาเราก็พร้อมให้อภัย บางทีก็ชิงให้อภัยตั้งแต่ใจเขายังไม่ได้รู้สึกผิดด้วยซ้ำ ที่สำคัญ เขารักเราและลูกมากพอจะเดินหน้าต่อไหม หรือคิดแค่ว่านี่คือภาระของใจ ถึงได้ทำร้ายเอาขนาดนี้ 

ถ้ารักใครทำให้ตัวเองเจ็บ รักตัวเองจะทำให้เรารอด ถ้าพ่อกอดเขาได้ไม่แน่นพอ แม่จะต้องกอดลูกให้แน่นเป็นสองเท่า อย่าใช้คำว่า “รัก” แล้วทนเอา อดทนเพื่อเขาจนเริ่มใจร้ายต่อตัวเราและลูกแล้ว ครอบครัวสมบูรณ์ไม่ใช่สักแต่มีพ่อแม่ลูกอยู่ครบ ซึ่งไม่ได้จบด้วยคำว่าอบอุ่นเสมอไป ถ้าไม่มีสายใยความรักความผูกพัน ทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจให้ลูกเห็นทุกวัน เราจะหลอกตัวเองว่าครอบครัวของฉันสมบูรณ์ไปอีกนานแค่ไหน เด็กที่เติบโตมาจากครอบครัวที่ใช้ความรุนแรง ไม่โตเป็นผู้ใหญ่ที่หลอนเพศตรงข้ามไปเลย ก็กลายเป็นคนที่ชอบใช้ความรุนแรง อาจทำร้ายคนอื่นด้วยวิธีการเดียวกันอยู่ร่ำไป แล้วอะไรคือสิ่งที่เป็นของรางวัลล้ำค่าที่น้องต้องแลกมาด้วยความอดทน ลองคิดดู