เห็นคนมีน้ำใจต่อผู้อื่นแล้วรู้สึกดีใจจริงๆค่ะ แถมยิ่งถ้าเป็นคนซึ่งไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่เมื่อเห็นอีกฝ่ายกำลังตกอยู่ในอันตรายแล้วรีบเข้าไปช่วยเหลือได้ทันท่วงทีก็ยิ่งน่ายินดีปรีดาที่คนบางคนมีน้ำใจต่อมนุษย์ร่วมโลกโดยไม่แบ่งว่าจะเป็นใครหรือชาติไหน อย่างนี้สมควรที่จะได้รับการยกย่องชมเชยอย่างที่สุด

ซึ่งตัวอย่างของการทำความดีมีทั้ง กรณีที่นักท่องเที่ยวชาวเยอรมันที่เข้าช่วยเหลือคนไทย ซึ่งประสบอุบัติเหตุรถตกคูเมืองเชียงใหม่ ทั้งนี้ ททท. (การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย) สำนักงานเชียงใหม่ ได้มอบช่อดอกไม้และของที่ระลึกแก่นายแจนฟิลลิป ไลฟิลด์ และนางสเตลลา มาเรีย คาเลท 2 นักท่องเที่ยวชาวเยอรมันที่เข้าช่วยเหลือครอบครัวคนไทยซึ่งขับรถประสบอุบัติเหตุตกคูเมืองเชียงใหม่ไว้ได้ งานนี้เห็นชาวต่างชาติมีน้ำใจต่อคนไทยแล้วปลื้มใจมากทีเดียว ซึ่งชาวเยอรมัน 2 คนนี้มาเที่ยวเมืองไทยแท้ๆ แต่กลับแสดงความมีน้ำใจและให้การช่วยเหลือคนไทยอย่างไม่น่าเชื่อ งานนี้ ททท.ทำดีแล้วที่ได้มอบของตอบแทนความดีให้กับฮีโร่ชาวเยอรมันคู่นี้

เรื่องราวทำนองนี้ล่ะค่ะที่อยากได้ยินบ่อยๆ ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวน่ารักไม่แพ้กันเมื่อพนักงานเก็บค่าโดยสารหรือกระเป๋ารถเมล์ได้เก็บกระเป๋าผู้โดยสารที่มีเงินสดอยู่กว่า 1 ล้านบาท และส่งคืนถึงมือเจ้าของครบถ้วน เรื่องนี้อยากยกย่องคุณสุมน มทิดุลย์ วัย 50 ปี กระเป๋ารถเมล์ สาย ปอ.511 เป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นตัวอย่างของการทำความดี และพวกเราก็ควรชื่นชมคนที่ทำความดี (และสมควรจะได้รับความดีความชอบ) ด้วย

เอาเป็นว่า ถ้าจะเลียนแบบใครก็ขอให้พวกเราเลียนแบบความดีของบุคคลเหล่านี้เข้าไว้ ส่วนตัวอย่างที่ไม่ดีก็อย่าไปเลียนแบบทำตามเด็ดขาด เนื่องจากสังคมทุกวันนี้ก็วุ่นวายและซับซ้อนพออยู่แล้ว แถมมนุษย์ยังเป็นสิ่งมีชีวิตที่ชอบกระทำการเลียนแบบสิ่งที่ไม่ดีของคนอื่นแทนที่จะเลียนแบบทำความดีซะด้วยสิ จึงอยากฝากเป็นข้อเตือนใจกันไว้ ทว่ารู้น่าว่าคนส่วนใหญ่น่ะชอบทำสิ่งที่ดีต่อสังคมอยู่แล้ว เพราะเชื่อเรื่องทำความดีแล้วมักจะได้ดีเป็นสิ่งตอบแทน วันนี้จึงขอเสนอวิธีทำความดี แล้วได้ความสบายใจ มาคุยกัน

...

งานนี้สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม ได้เสนอแนะไว้ดังนี้...

1.ตื่นเช้าขึ้นมาก็คิดแต่สิ่งดีๆเข้าไว้ ทันทีที่ตื่นนอน หากเราคิดถึงแต่สิ่งที่ดีงามก็จะทำให้จิตใจเราสดชื่น กระตือรือร้น พร้อมที่จะรับมือกับชีวิตประจำวันด้วยความร่าเริง ไม่หงุดหงิด แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว

2.ยิ้มแย้มแจ่มใสกับตัวเองและผู้อื่นเข้าไว้ ถ้ารู้จักยิ้มแย้มหน้าตาของเราก็จะเป็นมิตร ทำให้คนอยากเข้าใกล้ ถ้าเรามีแฟนแล้ว และยิ้มให้แฟนก่อนออกไปทำงาน แฟนก็มีกำลังใจในการทำงานทั้งวันว่ามะ

3.แบ่งปันน้ำใจไมตรี เช่น ลุกให้คนท้องและผู้สูงวัยนั่งในรถโดยสาร, แบ่งขนมให้เพื่อน ไรงี้ เป็นต้น แค่นี้ใจก็มีความสุขแล้ว.

คนสมถะ