ในการทำงานใดๆ นั้นหากต้องทำงานร่วมกับคนอื่นก็จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากอีกฝ่ายไม่มากก็น้อยและถ้ามีปัญหาจนไม่ได้รับความร่วมมืองานที่ทำก็คงไม่มีประสิทธิภาพอาจจะติดๆ ขัดๆ หรือไปจนถึงไม่สามารถบรรลุตามที่วางเอาไว้ได้เป็นแน่

หลายๆ คนมักแก้ปัญหาในเรื่องการทำงานกับผู้อื่นด้วยการ “ข่ม” หรือการใช้ “ตำแหน่งหน้าที่” กดดันกึ่งบังคับให้กับอีกฝ่ายในการทำตามที่ตัวเองต้องการซึ่งมันก็มักจะทำให้อีกฝ่ายไม่ค่อยจะเต็มใจนักกับการทำงานและหลายๆ ทีก็นำไปสู่การทำแบบขอไปทีทำให้จบๆ กัน ไม่ได้ใส่ใจหรืออยากจะเสริมให้งานนั้นดีขึ้นอย่างที่ควรจะเป็น

อันที่จริงก็คงไม่แปลกอะไรเพราะก็คงไม่มีใครเพราะอยากทำงานหรือต้องทำอะไรเนื่องจากโดนบังคับ พอเป็นอย่างนั้นมันก็จะกลับมาว่าทำอย่างไรที่จะให้อีกฝ่ายเคารพและยอมรับ ซึ่งเอาจริงๆ มันก็ไม่ได้มีสูตรอะไรพิเศษมากนักแต่อยู่ที่การวางตัวและการประพฤติตัวของเรานั่นแหละครับ

1. รู้จักและทำหน้าที่ตัวเองให้ดีเสียก่อน

จุดเริ่มต้นแรกๆ ที่เรามักจะได้ยินเสียงบ่นคือคนทำงานด้วยเอาแต่บ่นเรื่องโน้นเรื่องนี้ขอโน่นขอนี่แต่งานตัวเองไม่ได้ทำ ซึ่งนั่นมักเป็นคำบ่นที่ทำให้คนทำงานรู้สึกไม่อยากทำงานกับอีกฝ่ายมากที่สุดอย่างหนึ่งเลยก็ว่าได้ เรื่องนี้ถ้ามองย้อนกลับไปจะเห็นว่าหลายๆ คนนั้นมักจะ “ขอ” และ “เอา” จากฝ่ายอื่นๆ โดยที่ตัวเองลืมดู ว่าคนอื่นก็มีสิทธิ์มองมาที่ตัวเราเองและตั้งคำถามว่าเราทำงานดีหรือยัง

เคสที่ผมมักจะเจอบ่อยๆ คือคนที่ของานคนโน้นคนนี้แต่งานตัวเองกลับทำไม่เสร็จหรือทำไม่ได้ดี คนที่ทำงานด้วยก็คงไม่แปลกที่จะรู้สึกตงิดๆ ยิ่งถ้าอีกฝ่ายบ่นว่าคนอื่นแต่งานตัวเองก็ไม่ได้เอาอ่าวนี่ยิ่งไปกันใหญ่กันเลยทีเดียว ฉะนั้นทางที่ดีการจะให้คนอื่นยอมรับตัวเรานั้นอย่าให้เกิดจากการใช้อำนาจและหน้าที่แต่เป็นการที่เขาเห็นว่าเราทำงานในหน้าที่ตัวเองอย่างตั้งใจจนเขาก็อยากสนับสนุนให้งานของเราทำได้ดีขึ้นไปกว่าเดิม

...

2. หยุดโอ้อวดหรือยกตนข่มคนอื่น

ไม่มีใครชอบเวลาถูกทำให้รู้สึกว่า “โง่” ฉะนั้นเราต้องระวังเวลาคุยงานหรือประชุมกันว่าการแสดงความคิดเห็นนั้นไม่ใช่มีเจตนาว่าเป็นการยกตนข่มท่านหรือโชว์ว่าฉันเหนือกว่า รู้มากกว่า เก่งกว่า เพราะการทำด้วยเจตนาแบบนั้นเป็นเหมือนเกมที่จะต้องมีผู้ชนะและผู้แพ้ และแน่นอนว่าผู้ที่แพ้ก็คงจะรู้สึกแย่เกิดผูกใจเจ็บไปก็จะยิ่งไม่คุ้มกันเข้าไปอีก

เรื่องนี้ตรงนี้เป็นเรื่องค่อนข้างละเอียดอ่อนอยู่พอสมควร เพราะแม้กับตัวผู้เขียนเองก็เคยพลั้งพูดบางอย่างไปโดยไม่มีเจตนาร้ายแต่กลับกลายเป็นว่าผู้ฟังตีความเป็นอีกแบบ นั่นเลยทำให้การจะแสดงความเห็นหรือต้องประชุมร่วมกับคนอื่นๆ นั้นจำเป็นจะต้องคิดและพิจารณาให้ดีเสียก่อน

3. ชี้ให้เห็นผลประโยชน์ร่วมหรือ Win-Win

อีกหนึ่งสาเหตุที่หลายๆ คนคุยงานกับคนอื่นแล้วไม่เวิร์กก็เพราะการตั้งป้อมแต่ “จะเอา” โดยไม่บอกว่าอีกฝ่ายจะได้อะไรหรือทั้งหมดนั้นจะเป็นประโยชน์กับทุกคนอย่างไร มันก็เลยไม่แปลกที่หลายๆ คนจะไม่ร่วมมือเพราะมองว่าตัวเองไม่ได้ประโยชน์อะไรแต่กลับมีงานมีภาระมากขึ้น

ด้วยเหตุนี้จึงจำเป็นที่คนทำงานจะต้องสื่อสารกับอีกฝ่ายให้เข้าใจว่าทำไมต้องการความช่วยเหลือจากอีกฝ่าย การทำอันนั้นจะได้ประโยชน์อย่างไรกับเขาหรือกับบริษัท และที่สำคัญคือการอย่าทำให้อีกฝ่ายมองเห็นหรือรู้สึกว่าเป็นการแค่สนองความต้องการของใครคนใดคนหนึ่งเท่าน้ัน

3 อย่างข้างต้นเป็นเรื่องเบสิกที่เราสามารถปรับวิธีการพูดคุยวิธีวางตัวกับคนอื่นๆ เพื่อให้เขายอมรับตัวเรา และอยากให้ความร่วมมือกับเราในวันที่เราร้องขอ ก็ลองเอาไปใช้กันดูแล้วกันนะครับ

Facebook : Nuttaputch