เป็นประเด็นร้อนในโซเชียลอยู่พักใหญ่ๆ เลย สำหรับกรณีปฏิรูป ‘รถเมล์ไทย’ ระบบขนส่งมวลชนที่ให้บริการคนไทยมากว่า 100 ปีแล้ว โอ้มายก๊อด! อยู่ยืนยงยาวนานขนาดนี้แต่ทำมั้ย ทำไม? รถเมล์บางสายก็ยังด้อยคุณภาพ ทั้งเรื่องการบริการ และสภาพรถ จนเป็นที่มาของการ ปฏิรูปรถเมล์ 269 สายให้มีคุณภาพดีขึ้น
ไทยรัฐออนไลน์ ชวนคุณมาไล่เรียงดูวิวัฒนาการของรถเมล์ไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน รวมทั้งอัพเดตสถานการณ์ล่าสุดในการปฏิรูปรถเมล์สายต่างๆ ที่วันนี้ (15 ส.ค.) เริ่มนำร่องไปแล้ว 8 สาย
1. รถเมล์ขาว พ.ศ. 2451
ประเทศไทยเปิดให้บริการรถเมล์ประจำทางบริษัทแรก ประมาณปี พ.ศ. 2451 สมัยนั้นรถเมล์ประจำทางทาสีขาวทั้งคัน ชาวบ้านจึงเรียกเป็นนิกเนมสั้นๆ ว่า “รถเมล์ขาว” โดยรถเมล์สายแรกวิ่งบนเส้นทาง สะพานยศเส สี่พระยา จนถึง สีลม
2. ปี 2480 เพิ่มรถเมล์เหลือง เขียว แดง
ต่อมาในปี พ.ศ. 2480 รถเมล์ขาวก็เพิ่มจำนวนมากขึ้น วิ่งหลายสายมากขึ้น เช่น วิ่งระหว่าง บางลำพู-ประตูน้ำ, ปากคลองตลาด-พระโขนง, บางลำพูต่อถึงมักกะสัน, วัดโพธิ์-บางนา ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีรถเมล์สีเหลือง รถเมล์เขียว และ รถเมล์สีแดง มาบริการเพิ่มในสายอื่นๆ ด้วย
...
3. รถเมล์มีเบอร์
ต่อมาในปี พ.ศ. 2497 ทางการได้กำหนดกฎหมายสัมปทานรถเมล์ออกมาใช้ มีบริษัทต่างๆ ได้สัมปทานเดินรถทั่วกรุงเทพฯ ถึง 24 บริษัท จำนวนสายการเดินรถมีถึง 46 สาย เริ่มมีการกำหนดสายติดหน้ารถไว้ด้วย เช่น หลักเมือง-ถนนตก เป็นสายที่ 1 ก็มีเบอร์ 1 ติดหน้ารถ เพื่อให้ผู้โดยสารจำได้ง่ายๆ นั่นเอง ต่อมาประมาณ ปี พ.ศ. 2502 ก็มีรถเมล์ทยอยเพิ่มมากขึ้นอีกถึง 105 สายในกรุงเทพฯ และปริมณฑล
4. กำเนิด ขสมก.
เมื่อรถเมล์มีจำนวนมากขึ้น ก็เริ่มมีปัญหาการเดินรถทับเส้นทาง แย่งผู้โดยสาร เกิดความสับสน เมื่อปี พ.ศ. 2518 จึงเริ่มมีการจัดระบบ โดยรัฐบาลเข้ามามีบทบาทในกิจการขนส่งสาธารณะ เพื่อแก้ไขปัญหาและดูแลประโยชน์ของประชาชนโดยตรง ซึ่งจัดตั้งเป็น “บริษัท มหานครขนส่ง จำกัด” ต่อมามีปัญหาเรื่องผลประโยชน์ต่างๆ ของพนักงาน รัฐบาลจึงได้ทบทวนนโยบายใหม่ จัดดำเนินการใหม่ในรูปของรัฐวิสาหกิจที่เรียกว่า “องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ” ในปี พ.ศ. 2519
...
5. รถเมล์ไทยหลากสี
จากวันนั้นถึงวันนี้ ขสมก. ก็เริ่มมีรถหลากหลายสี บริการในหลากหลายเส้นทางมากขึ้น มีทั้งรถเมล์รุ่นพัดลม รถเมล์รุ่นปรับอากาศ เริ่มนำเข้ารถเมล์สีต่างๆ เช่น สีครีม-น้ำเงิน, ครีม-แดง, ปรับอากาศ NGV, ฟ้า-ขาว, ยูโรทูสีส้ม เป็นต้น
6. ปัญหารถเสียบ่อย บริการแย่ รถขาดระยะ
แต่เดี๋ยวก่อน...แม้จะมีจำนวนรถบริการเยอะ บริการหลากหลายเส้นทาง แต่กลายเป็นว่าในช่วง 10-20 ปี ที่ผ่านมารถเมล์ไทยกลับด้อยคุณภาพ (ในบางสายบางเส้นทาง) ทั้งเรื่องคุณภาพตัวรถที่เก่าคร่ำครึ การบริการของพนักงาน การขับเร็วเกินจำเป็นของคนขับ ปัญหารถเสียบ่อย รถขาดระยะ อุบัติเหตุ ฯลฯ เป็นปัญหาคลาสสิกที่ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีก็ยังแก้ไม่ได้สักที
7. เริ่มปฏิรูปจริงจัง 269 เส้นทาง
จนมาถึงปี 2560 นี้ ทางการได้ฤกษ์ลงมาลุยแก้ปัญหานี้อย่างจริงจัง กับการปฏิรูปรถเมล์ไทย 269 เส้นทาง โดยมีการเปลี่ยนเส้นทางบริการ เปลี่ยนเบอร์เลขประจำสาย แถมยังมีตัวอักษรภาษาอังกฤษเพิ่มมาด้วยแน่ะ! ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในโลกโซเชียล มีทั้งคนเห็นด้วย และไม่เห็นด้วย
...
การปฏิรูปครั้งนี้ทางการระบุว่า สาเหตุที่นำเรื่องนี้มาพิจารณาอีกครั้ง เนื่องจากการให้บริการรถเมล์ตลอดระยะ 20 ปีที่ผ่านมา ไม่ได้เป็นที่พึงพอใจของผู้ใช้บริการ ทั้งจากสภาพรถเมล์ การให้บริการ ความปลอดภัย เรียกได้ว่าผู้โดยสารไม่ได้รับบริการที่ดีอย่างที่ควรจะเป็น
การปฏิรูปรถเมล์ไทย ไม่ใช่ว่าทางการเพิ่งจะลุกขึ้นมาทำหรอกนะ แต่จริงๆ เขามีการศึกษาและพยายามปรับปรุงมากว่า 10 ปีแล้ว แต่ด้วยข้อจำกัดหลายอย่างในสมัยนั้น จึงยังไม่สามารถทำได้สำเร็จสักที แต่ในที่สุด...ครั้งนี้จะเป็นครั้งแรก ที่รัฐบาลสามารถทำให้เกิดเป็นรูปธรรมขึ้นอย่างแท้จริง
...
8. แล้วจะปรับปรุงในด้านไหนบ้าง?
จากเดิม ขสมก. เป็นผู้ได้รับใบอนุญาตในการให้บริการรถเมล์กรุงเทพและปริมณฑลแต่เพียงผู้เดียว และเปิดให้รถร่วมเอกชนเข้ามาร่วมให้บริการในหลายเส้นทาง ทำให้เกิดปัญหาเดินรถวิ่งทับซ้อนกันกว่า 20 สาย แต่ว่าจากนี้ไปเขาจะเริ่มเปลี่ยนใหม่ โดยใช้หลักการว่า เส้นทางควรจะมีผู้ให้บริการเพียงรายเดียว เพื่อลดการทับซ้อนของเส้นทาง การวิ่งรถบนหนึ่งเส้นทาง หากมีรถ ขสมก. วิ่งบนเส้นนั้น จะไม่มีรถเอกชนวิ่งทับเส้นทางกัน ในทางกลับกันหากมีรถเอกชนวิ่ง ก็จะไม่มีรถ ขสมก. วิ่ง เป็นต้น
9. ทำไมต้องใส่ตัวอักษร?
มีการกำหนดเส้นทางจากพื้นที่หลักที่ให้บริการ โดยแบ่งพื้นที่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ออกเป็น 4 พื้นที่ใหญ่ และระบุสีเพื่อแสดงแทนแต่ละพื้นที่ จะมี “เลขสายรถใหม่” นำด้วยอักษรย่อของสีในพื้นที่หลัก เพื่อให้จดจำง่าย เช่น G สายสีเขียว, Y สายสีเหลือง, R สายสีแดง และ B สายสีน้ำเงิน ตามด้วยหมายเลขรถ ซึ่งก็จะมีการเปลี่ยนแปลงปรับปรุงระบบหมายเลขรถเช่นกัน เพื่อลดการซ้ำกันของเลขรถ จัดระเบียบให้เข้าระบบอย่างถูกต้องครบถ้วน
10. ล่าสุด นำร่องไปแล้ว 8 สาย
ล่าสุด ทางการได้เปิดทดลองเดินรถเมล์ 8 สายใหม่แล้ว โดยจะทดลองเป็นระยะเวลา 1 เดือน ซึ่งให้บริการควบคู่กับรถสายเดิม และมีการศึกษาถึงข้อดีข้อเสีย และมีการสรุปผลการทดลองเป็นรายวัน ซึ่งวันที่ 15 ส.ค. ได้เปิดทดลองการเดินรถโดยสารประจำทาง ขสมก. จากเดิมสาย 54 วงกลมรอบเมืองห้วยขวาง-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เปลี่ยนเลขสายใหม่เป็น สาย บี 44 เดินรถจากวงกลมพระราม 9-สุทธิสาร
นอกจากนี้ก็มีสายอื่นๆ อีก 7 สาย ที่เริ่มทดลองแล้ว ได้แก่
- สาย 189 เดิม สนามหลวง-กระทุ่มแบน เป็น สาย Y89 สถานีรถไฟชุมทางตลิ่งชัน-กระทุ่มแบน
- สาย 144 เดิม แยกลำลูกกา-นนทบุรี เป็น สาย G21 รังสิต-ท่าเรือพระราม 5
- สาย 509 เดิม อู่วัดม่วง เพชรเกษม 63 - สถานีขนส่งฯ จตุจักร เป็น สาย Y61 หมู่บ้านเศรษฐกิจ-สถานีขนส่ง จตุจักร
- สาย 514 เดิม มีนบุรี-สีลม เป็น สาย G59E มีนบุรี-ท่าเรือสี่พระยา (ทางด่วน)
- สาย 11 เดิม เมกาบางนา-มาบุญครอง เป็น สาย R3 สวนหลวง ร.9-สถานีรถไฟฟ้าสนามกีฬาแห่งชาติ
- สาย 73 เดิม อู่โพธิ์แก้ว-สะพานพุทธ เป็น สาย B45 หมู่บ้านเอื้ออาทรบึงกุ่ม-ท่าเรือสะพานพุทธ
- สาย 22 เดิม พระราม 3-อู่โพธิ์แก้ว เป็น สาย R41 ถนนตก-แฮปปี้แลนด์.
ที่มาภาพบางส่วน : FB RotMaeThai