ใครเชื่อว่าผีและวิญญาณมีจริง? ยกมือขึ้น! แล้วถ้าเชื่อคุณเคยเห็นมากับตา สัมผัสได้มากับตัวเลยหรือเปล่า ถ้าไม่เคยเห็นและอยากพิสูจน์ เราท้าให้คุณลองทำตามวิธีเหล่านี้ คุณอาจจะสามารถสัมผัสสิ่งลี้ลับได้อย่างที่ไม่เคยมาก่อน เตรียมใจให้ดีก่อนทดลองด้วยตัวเอง
แต่ขอบอกก่อนว่านี่เป็นความเชื่อส่วนบุคคลเท่านั้น ไม่ได้ชี้ชวนให้เชื่อ หรือลบหลู่ใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณด้วยนะจ๊ะ เอาล่ะอย่ารอช้า ไทยรัฐออนไลน์ ชวนมาอ่าน 5 เรื่องเล่าสยองกันเลย
1. ผีถ้วยแก้ว หรือกระดาน Ouija
เชื่อว่าคนไทยเรารู้จักผีถ้วยแก้วกันมาทุกยุคทุกสมัย โดยเฉพาะช่วงวัยรุ่นวัยที่กำลังอยากรู้อยากลอง เรื่องพวกนี้ก็มักจะวนเวียนมาท้าทายความกล้าอยู่เสมอ
เรื่องแรกเป็นประสบการณ์ตรงของผู้เขียนและเพื่อนๆ สมัยมัธยม เนื่องจากได้ย้ายไปเรียนที่ต่างจังหวัดในโรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่ง จึงต้องอาศัยที่หอพัก กลับบ้านได้เฉพาะวันหยุดสุดสัปดาห์ สมัยนั้นทางโรงเรียนจะให้เด็กนักเรียนนอนหอรวม ซึ่งเป็นอาคารเก่าๆ ทรุดโทรมบ้างบางส่วน แยกเป็นหอหญิงและหอชาย
หอหญิงก็จะเป็นอาคาร 2 ชั้น ชั้นบนแบ่งเป็นซอยห้องๆ ประมาณ 20-30 ห้อง ให้เด็กนอนห้องละ 4 คน ชั้นล่างเป็นห้องทำการบ้าน ห้องน้ำ ลานซักล้าง และโรงเก็บรถจักรยาน ด้านหลังหอเป็นป่ารกร้าง เพื่อนคนหนึ่งเกิดอยากเล่นผีถ้วยแก้ว ก็รวมตัวกันมา 5 คนเล่นผีถ้วยแก้วกันตอนดึกๆ ประมาณตี 1

...
แรกๆ ก็ไม่เชื่อนะ แต่พอลองเล่น เฮ้ย...แก้วมันเคลื่อนที่ได้เองจริงๆ ด้วย ทุกคนมองหน้ากันแบบหวั่นๆ แต่ก็ไม่มีใครกล้าเอามือออก เพื่อนคนที่กล้าที่สุดก็เลยถามว่า ชื่ออะไร ตายยังไง ตอนนี้อยู่ตรงไหน ปรากฏว่าถ้วยแก้วเคลื่อนไปที่อักษรแต่ละคำสะกดได้เป็นชื่อคนจริงๆ แถมยังบอกว่าผูกคอตายอยู่ที่หลังหอพัก
และที่พีคสุดคือ บอกว่าตอนนี้นั่งอยู่ร่วมวงกับพวกเราด้วย แค่นั้นแหละทั้งวงกรี๊ดแตก แต่ยังมีสติทำพิธีเชิญออกก่อนจะปล่อยมือ จากนั้นก็กระจายตัวกันรีบคลุมโปงนอน แทบไม่กล้าจะเอาหน้าออกมานอกผ้าห่มเลย จากเหตุการณ์นี้ทำให้เราเชื่อว่าโลกของวิญญาณมีอยู่จริง สัมผัสได้แบบขนลุกเกรียว
วิธีเล่นผีถ้วยแก้ว : นำกระดานตัวอักษรและถ้วยแก้วมาวางบนพื้น ล้อมวงรอบๆ กระดาน ก่อนเล่นจะต้องมีการอัญเชิญวิญญาณมาเข้าในถ้วย ผู้ที่เล่น 3-5 คน ต้องตั้งจิตเป็นสมาธิ สำรวม มีสติ เอานิ้วชี้แตะรวมกันไว้บนถ้วยแก้วที่คว่ำลง แล้วท่องคาถาเรียกผีว่า พุทโธธายะ 3 รอบ จากนั้นถามคำถามที่อยากรู้ ถ้าเชิญวิญญาณมาได้ ถ้วยจะเริ่มขยับไปตามอักษร ระหว่างที่เล่นอย่าดึงมือออก อย่าหงายถ้วยแก้ว เพราะเชื่อว่าวิญญาณจะเข้าสิงคนที่เล่น และพอจะเลิกเล่น ต้องเชิญวิญญาณออกทุกครั้ง

2. ชิงเปรต
เรื่องนี้เป็นความเชื่อเกี่ยวกับเปรตหรือผีจำพวกที่อยู่ต่ำที่สุดในขุมนรกที่ลึกที่สุด เชื่อกันว่าผู้ที่ทำบาปหนาชั่วช้ามาก เช่น ฆ่าบุพการี เผาวัด เผาบ้านเรือนผู้อื่น หรือตระหนี่ไม่เคยให้ทาน พอตายไปแล้วจะต้องมาเป็นเปรตชดใช้กรรม
ปัจจุบันคนไทยมีประเพณีเกี่ยวกับการให้ทานแก่เปรต เรียกว่าวันสารทไทย นอกจากทำบุญทำทานให้เปรตแล้ว ยังถือเป็นวันบุญใหญ่ที่คนไทยทำบุญให้แก่บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว แต่ที่โด่งดังและมีเสียงร่ำลือว่าเฮี้ยนมาก น่าจะเป็นพิธี ‘ชิงเปรต’ ของภาคใต้
การชิงเปรต เป็นการอุทิศส่วนกุศลไปให้ทั้งผี(เปรต) ที่เป็นญาติพี่น้องของตนเอง และที่ไม่มีญาติด้วย ชาวบ้านจะนำอาหารไปตั้งไว้บนห้างร้านสูงๆ เพื่อให้เปรตมากิน ขนมที่ไม่ขาดคือ ขนมลา ขนมพอง ขนมบ้า ขนมเบซำ รวมถึงมีของแห้งที่ใช้เป็นเสบียงด้วย เช่น ข้าวสาร หอม กระเทียม พริก เกลือ กะปิ น้ำตาล น้ำปลา กล้วย อ้อย มะพร้าว ด้าย เข็มเย็บผ้า ธูปเทียน เป็นต้น
บนห้างร้านที่ตั้งเครื่องให้เปรต จะมีสายสิญจน์วงล้อมไว้รอบและต่อยาวไปจนถึงพระสงฆ์ที่นั่งอยู่ในวิหารที่เป็นที่ทำพิธีกรรม โดยสวดบังสุกุลอัฐิหรือกระดาษเขียนชื่อของผู้ตาย ส่วนใครที่อยากเห็นผีเปรตสักครั้งในชีวิต แนะนำว่าให้ลองดูในวันชิงเปรต
วิธีเห็นผีเปรต : เตรียมข้าวต้มมัด 3-4 มัด นำเชือกฟางมาผูกข้าวต้มมัดไว้รอบเอว เดินทางไปที่โบสถ์ในวัดที่ขึ้นชื่อว่ามีเปรตขอส่วนบุญอยู่ เดินพนมมือวนรอบโบสถ์ 3 รอบ ทวนเข็มนาฬิกา แล้วหันหลังให้โบสถ์เดินออกจากวัด พอพ้นเขตวัดให้หันกลับมามองหลังคาโบสถ์ เชื่อกันว่าจะเห็นเปรตยืนค้ำหลังคาโบสถ์อยู่

...
3. ก้มหน้าลอดหว่างขา
เรื่องนี้ไม่ได้มีประสบการณ์มากับตัว (กลัวเจอเลยไม่กล้าพิสูจน์เอง) จะขอเล่าถึงความเชื่อที่มีมานมนานเกี่ยวกับวิธีการเห็นผีวิธีนี้ก็แล้วกัน ว่ากันว่าเป็นวิธีการเห็นผีที่คนไทยเชื่อกันมาตั้งแต่สมัยโบราณ ถ้าใครเคยดูหนังเรื่องแม่นาค ก็จะเห็นว่ามีฉากที่มีคนลองก้มลอดหว่างขาแล้วเห็นผีแม่นาคปรากฏตัว
มาถึงสมัยนี้ คนไทยก็ยังเชื่อว่าการก้มลอดหว่างขายามกลางคืนจะทำให้เห็นผีได้ จากการฟังเรื่องเล่ามาหลายเรื่อง ส่วนใหญ่คนที่เดินทางไปท้าสิ่งลี้ลับตามบ้านร้าง ตึกร้างต่างๆ แล้วก้มลงมองใต้หว่างขาแบบนี้ ก็มักจะเจอดีทุกคน
วิธีเห็นผีใต้หว่างขา : ต้องลองทำคนเดียวเวลากลางคืน เดินทางไปในสถานที่ที่คิดว่ามีวิญญาณอยู่ ยืนในที่โล่ง หันหลังไปทางทิศตะวันตก หมุนตัวตามเข็มนาฬิกา พอครบรอบแล้วให้ท่องคาถาว่า พุทโธทายะ ทำแบบนี้ 3 รอบ ท่อง 3 ครั้ง หลับตาเพ่งสมาธิให้ติดต่อกับวิญญาณ กางขาออก ค่อยๆ ก้มหัวลงไปลอดหว่างขา แล้วลืมตา ถ้าเห็นผีไม่ว่าจะน่ากลัวแค่ไหน ต้องตั้งสติดีๆ อย่าวิ่ง รีบเงยหน้าขึ้นหมุนตัวทวนเข็มนาฬิกา 3 รอบ แล้วออกมาจากตรงนั้นทันที

4. เคาะถ้วยข้าวทาง 3 แพร่ง
เรื่องนี้เป็นความเชื่อทั้งของคนไทยและคนจีน ว่ากันว่าบริเวณทางสามแพร่ง หรือทางสี่แพร่ง มักจะมีอุบัติเหตุอยู่บ่อยๆ มีคนตายโหงจากอุบัติเหตุเยอะ จึงเป็นแหล่งชุกชุมของผี สัมภเวสีต่างๆ
การตายโหงกะทันหันแบบนี้ วิญญาณบางดวงยังไม่รู้ตัวว่าตาย ยังคงใช้ชีวิตทำสิ่งต่างๆ เหมือนคนปกติ หากอยากเจอผี มีความเชื่อกันว่าให้ลองางอาหารไว้ในทางสามแพร่งที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยๆ แล้วเคาะช้อน ส้อม หรือตะเกียบไปเรื่อยๆ เพื่อเรียกมาทานอาหาร ดีไม่ดีจะสังเกตเห็นว่าอาหารบางส่วนหายไปด้วย
วิธีเห็นผีทางสามแพร่ง : เตรียมอาหาร ของคาวหวาน เครื่องดื่ม ไปตั้งไว้บนทางสามแพร่งเวลากลางคืน จากนั้นตั้งสมาธิเรียกสัมภเวสีให้มารับทาน ที่เราเตรียมทำทานไปให้ ก็คืออาหารที่นำมานี่แหละ จากนั้นก็เคาะจานชามกับข้าว เคาะสักพักแล้วหยุด เดินออกมาจากตรงนั้น ยืนรอใกล้ๆ สักพัก แล้วลองกลับไปดูว่ามีอาหารลดลงไปหรือหายไปหรือเปล่า

5. ปิดไฟหวีผมหน้ากระจก
ส่วนวิธีสุดท้ายนี้ค่อนข้างวัดใจอีกเช่นกัน เป็นวิธีการเห็นผีที่คนไทยเชื่อกันมาแต่โบราณ ว่ากันว่ากระจกเป็นสื่อนำระหว่างโลกคนเป็นและโลกคนตาย การใช้กระจกเงามาส่องในช่วงเวลาที่เหมาะสม จึงอาจทำให้คุณสามารถสัมผัสกับสิ่งลี้ลับได้
...
มีเรื่องเล่าที่เคยฟังมาจากเพื่อน เพื่อนเล่าว่าแม้จะไม่ได้หวีผมตอนกลางคืนหน้ากระจก แต่เมื่อผีต่อติดกับจิตเรา เขาก็จะมาให้เห็นในกระจกอยู่ดี อย่างเช่นครั้งหนึ่งเพื่อนไปพักที่โรงแรมต่างจังหวัด เป็นโรงแรม 2-3 ดาว สภาพยังดี แต่บรรยากาศอึมครึมชวนอึดอัด แต่ก็พยายามไม่คิดอะไรเพราะราคาถูกมาก เพื่อนจึงเช็กอินและเข้าไปพัก
แต่กลางดึกเข้าไปอาบน้ำก่อนจะนอน ระหว่างที่แปรงฟันอยู่ก็มองกระจกไปด้วยก็เห็นเงาแวบๆ ผ่านข้างหลังไป พอหันหลังไปมองก็ไม่มีอะไร เป็นอย่างนี้เกือบทุกครั้งที่มองกระจก บวกกับมีเสียงแปลกๆ แทบจะตลอดเวลา ทำให้นอนไม่ได้จนต้องลงไปนอนที่ล็อบบี้ สุดท้ายสอบถามคนแถวนั้นพบว่าโรงแรมนี้เคยมีเหตุฆ่ากันตายอยู่หลายห้อง ไม่ค่อยมีคนอยากมาพัก ทางโรงแรมจึงลดราคาห้องพักให้ถูกลงเพื่อเรียกลูกค้า
วิธีเห็นผีหน้ากระจก : ต้องทำคนเดียวเวลาเที่ยงคืน ถ้าจะให้ดีต้องเลือกวันโกน (ก่อนวันพระ 1 วัน) เพราะเชื่อว่าเป็นวันที่ผีสามารถออกมาขอส่วนบุญได้ จากนั้นปิดไฟให้หมดทุกดวง จุดเทียน 1 เล่ม ไปวางตั้งไว้หน้ากระจกเงา จากนั้นเริ่มหวีผมตัวเองไปเรื่อยๆ สายตาจ้องมองเข้าไปในกระจก หวีไปก็ให้นับไปจนถึง 100 ครั้ง เชื่อกันว่าจะมีเงาอื่นที่ไม่ใช่เรา โผล่มาให้เห็นในกระจก!
