หลายคนท่ีมีบริเวณรอบๆ บ้านกว้างขวาง มักนิยมจัดสรรพื้นที่ส่วนหนึ่งไว้ปูสนามหญ้า เพราะนอกจากช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียว เพิ่มออกซิเจน ลดแสงสะท้อน และช่วยบรรเทาการฟุ้งกระจายของฝุ่นละอองได้ดีแล้ว ยังสามารถตกแต่งเป็นมุมนั่งเล่น จัดปาร์ตี้ หรือเป็นพื้นที่ให้ลูกๆ ได้วิ่งเล่นออกกําลังกาย
สําหรับผู้ท่ีไม่ค่อยมีเวลาดูแลสวน แนะนําให้มีพื้นท่ีปลูกหญ้าน้อยที่สุดหรือไม่มีเลย นอกเสียจากว่า จําเป็นต้องใช้สนามหญ้า เนื่องจากสนามหญ้าต้องมีการดูแลอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่หลังปลูกควรรดน้ําให้ชุ่ม เมื่อหญ้าติดและเติบโตดีแล้ว ควรตัดหญ้าอย่างสม่ำเสมอและเก็บกวาดเศษหญ้าออกไป เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งเพาะเชื้อโรค และควรหว่านปุ๋ยบํารุงเพื่อให้หญ้ามีสีเขียวชอุ่มเสมอกันทั่วท้ังสนาม
แล้วจะเลือก “หญ้า” ชนิดใดมาปลูกดี เราขอแนะนําตัวอย่างหญ้าท่ีนิยมปลูกและหาซื้อง่าย ดังน้ี
หญ้าญี่ปุ่น (Japanese Lawn Grass : Zoysia japonica)
เป็นหญ้าที่มีใบเล็กละเอียด ชอบแดดจัดตลอดวัน ทนต่อการเหยียบย่ำได้ดี สวยงามเหมือนปูพรม แต่ใบแข็ง ไม่อ่อนนุ่ม และเมื่อสัมผัสโดนจะระคายผิวหนัง จึงไม่เหมาะที่จะใช้นั่งเล่น แต่เหมาะสําหรับปูพื้นสนามเพื่อความสวยงาม
...
หญ้านวลน้อย (Manila Grass : Zoysia matrella)
เป็นหญ้าที่มีใบกว้างและอ่อนนุ่มกว่า หญ้าญี่ปุ่น นิยมนํามาปูสนามตามบ้าน เพราะทน ต่อการเหยียบย่ำและอุณหภูมิสูงได้ดี ต้องการปุ๋ย ไนโตรเจนต่ำ ทนต่อดินเค็ม อีกท้ังยังดูแลรักษาง่าย แต่หญ้านวลน้อยต้องการน้ํามาก และควรปลูกในพื้นท่ีที่ได้รับแสงแดดจัด
หญ้ามาเลเซีย (Tropical Carpet Grass : Axonopus compressus)
เจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่ที่เป็นดินทราย มีลําต้นและใบใหญ่กว่าหญ้า สองชนิดแรก โตเร็วและมักล้ําเข้าไปยังแปลงปลูก บริเวณใกล้เคียง แต่สามารถกําจัดได้ง่าย เติบโต ได้ดีในพื้นท่ีร่มรําไร ดูแลรักษาง่าย ท้ังยังต้านทาน โรคและแมลงได้ดี แต่เนื่องจากมีใบใหญ่จึงดูหยาบ กระด้างและไม่น่านั่งพักผ่อน อีกทั้งต้นยังอวบน้ํา กิ่งก้านจึงเปราะ ไม่ค่อยทนต่อการเหยียบย่ำเท่าหญ้านวลน้อย
สําหรับบ้านที่มีสนามหญ้าควรตัดหญ้าทุก 20 วัน เพื่อให้หญ้าเขียวสดอยู่เสมอ หากทิ้งระยะ เวลาการตัดไว้นานเกินไป หลังจากตัดจะเห็นโคนสี น้ำตาลของตอหญ้า ทําให้สนามไม่เขียว สวยเท่าที่ควร สามารถติดตามข้อมูลพรรณไม้ชนิดอื่นๆ ที่ปลูกประดับในประเทศไทยซ่ึงรวบรวมไว้มากกว่า 1,500 ชนิดได้ที่นี่