“ผมร่วง” อาจดูเป็นเรื่องเล็กที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่เมื่อเริ่มมีผมหลุดร่วงมากจนผิดปกติ ผมบางลง หรือร่วงเป็นกระจุกหลังสระผม นั่นอาจเป็นสัญญาณเตือนบางอย่างจากร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นความเครียด พักผ่อนไม่พอ โภชนาการไม่สมดุล การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน หรือปัญหาหนังศีรษะที่ซ่อนอยู่
เข้าใจสาเหตุ เพื่อดูแลเส้นผมอย่างถูกจุด
“ผมร่วง” เป็นปัญหาที่หลายคนเคยประสบ ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย และสามารถเกิดขึ้นได้ในทุกช่วงวัย แม้การหลุดร่วงของเส้นผมวันละประมาณ 50–100 เส้นจะถือเป็นค่าปกติตามวงจรเส้นผม แต่หากเริ่มสังเกตว่าผมร่วงมากกว่าเดิม หรือผมเริ่มบางลงเห็นหนังศีรษะชัดขึ้น หรือเส้นผมไม่แข็งแรงดังเดิม นั่นอาจเป็นสัญญาณเตือนของความผิดปกติบางอย่างที่ควรได้รับการใส่ใจ
ภาวะผมร่วงไม่ได้เกิดจากสาเหตุเดียว แต่เป็นผลลัพธ์ของหลายปัจจัยที่ซับซ้อน ทั้งปัจจัยภายในร่างกายและปัจจัยภายนอกจากสิ่งแวดล้อมรอบตัว
วงจรชีวิตของเส้นผม : จุดเริ่มต้นของความเข้าใจ
...
เส้นผมของคนเรามีวงจรชีวิตตามธรรมชาติ แบ่งออกเป็น 3 ระยะหลัก ได้แก่
- ระยะเจริญเติบโต (Anagen) เป็นช่วงที่เส้นผมงอกยาว ใช้เวลาหลายปี
- ระยะหยุดเจริญเติบโต (Catagen) เป็นช่วงสั้นๆ ที่รากผมหยุดทำงาน
- ระยะพักและหลุดร่วง (Telogen) เส้นผมจะหลุดออกและมีเส้นใหม่ขึ้นมาแทน
เมื่อใดก็ตามที่วงจรนี้ถูกรบกวน ไม่ว่าจะจากฮอร์โมน โภชนาการ ความเครียด หรือความผิดปกติของรากผม ย่อมนำไปสู่ภาวะผมร่วงที่มากกว่าปกติ จนถึงภาวะผมบางได้
สาเหตุสำคัญของภาวะผมร่วง
1. พันธุกรรม : สาเหตุที่พบบ่อยที่สุด
ผมร่วงจากพันธุกรรม หรือที่รู้จักกันในชื่อ Androgenetic Alopecia พบได้ทั้งในผู้ชายและผู้หญิง ลักษณะเด่นคือผมค่อยๆ บางลงตามแนวหน้าผาก กลางศีรษะ หรือกระหม่อม สาเหตุหลักเกิดจากความไวของรากผมต่อฮอร์โมนแอนโดรเจน ทำให้รากผมฝ่อลง เส้นผมที่ขึ้นใหม่มีขนาดเล็กและสั้นลงเรื่อยๆ
2. การเปลี่ยนแปลงหรือความไม่สมดุลของฮอร์โมน
ความผันผวนของฮอร์โมนมีผลโดยตรงต่อวงจรเส้นผม เช่น
- ช่วงหลังคลอด
- วัยหมดประจำเดือน
- ภาวะไทรอยด์ผิดปกติ
- การหยุดหรือเริ่มยาคุมกำเนิด
ภาวะเหล่านี้มักทำให้เกิด ผมร่วงแบบเฉียบพลัน (Telogen Effluvium) ซึ่งเส้นผมจะร่วงพร้อมกันจำนวนมาก นอกจากนี้ภาวะดื้อต่ออินซูลินหรือ ภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ ทำให้เกิดผมร่วงผมบางในสตรี
3. ความผิดปกติของสารอาหาร
เส้นผมเป็นอวัยวะที่สะท้อนภาวะโภชนาการได้อย่างชัดเจน การได้รับพลังงานไม่เพียงพอการขาดสารอาหารบางชนิดเช่น
- โปรตีน
- ธาตุเหล็ก
- สังกะสี
- Biotin
- วิตามินดี
อาจทำให้เส้นผมอ่อนแอ เปราะ ขาดง่าย และหลุดร่วงมากขึ้น โดยเฉพาะในผู้ที่ลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว รับประทานอาหารไม่ครบหมู่ หรือมีโรคที่รบกวนการดูดซึมสารอาหาร
4. ความผิดปกติของรากผมและหนังศีรษะ
- โรคบางชนิดที่เกิดกับหนังศีรษะและรากผมโดยตรง เช่น
- ผมร่วงเป็นหย่อม (Alopecia Areata)
- หนังศีรษะอักเสบเรื้อรัง
- เชื้อราบนหนังศีรษะ
- โรคภูมิคุ้มกันทำลายรากผม
ภาวะเหล่านี้จำเป็นต้องได้รับการวินิจฉัยและรักษาโดยแพทย์เฉพาะทาง เพราะหากปล่อยไว้อาจทำให้รากผมถูกทำลายถาวร
ปัจจัยเสริมที่เร่งให้ผมร่วงมากขึ้น
- นอกจากสาเหตุหลักแล้ว ยังมีปัจจัยภายนอกที่ส่งผลต่อสุขภาพเส้นผม ได้แก่
- ความเครียด ทั้งทางร่างกายและจิตใจ สามารถกระตุ้นให้เส้นผมเข้าสู่ระยะหลุดร่วงพร้อมกัน
- ความร้อนและแสงแดด การใช้ความร้อนสูงกับเส้นผมเป็นประจำ รวมถึงการสัมผัสแสงแดดโดยไม่ป้องกัน
- มลภาวะและฝุ่นละออง อาจก่อให้เกิดการอักเสบของหนังศีรษะ
- พฤติกรรมการดูแลผมที่ไม่เหมาะสม เช่น การดึงผมแน่น การทำเคมีซ้ำๆ หรือการสระผมไม่ถูกวิธี
...
เมื่อไรควรพบแพทย์
หากคุณรู้สึกว่า
- ผมร่วงมากกว่าปกติต่อเนื่องเกิน 2–3 เดือน
- ผมบางลงอย่างรวดเร็ว
- ผมร่วงเป็นหย่อม หรือมีอาการคัน แดง เจ็บที่หนังศีรษะ
- ผมไม่งอกกลับแม้เวลาผ่านไป
หากมีอาการข้างต้นควรเข้าพบแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านเส้นผมและหนังศีรษะ เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง การตรวจวินิจฉัยอย่างถูกต้องจะช่วยให้สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด ไม่เสียเวลา และป้องกันการสูญเสียเส้นผมอย่างถาวร
ภาวะผมร่วงไม่ใช่เรื่องเล็ก และไม่ควรมองว่าเป็นเพียงปัญหาด้านความสวยงามเท่านั้น เพราะในหลายกรณีอาจเป็นสัญญาณของความผิดปกติภายในร่างกาย การเข้าใจสาเหตุและดูแลอย่างเหมาะสมตั้งแต่เนิ่นๆ คือกุญแจสำคัญในการรักษาสุขภาพเส้นผมให้แข็งแรงในระยะยาว
ข้อมูลโดย : ดร.พญ.พลินี รัตนศิริวิไล แพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์ป้องกัน ดูแลความงาม และเส้นผมประจำศูนย์ศัลยกรรมความงามและเลเซอร์ผิวหนัง รพ.พญาไท 1