อุบัติเหตุสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ ทุกเวลา และกับทุกคน ไม่ว่าจะเกิดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ หรือกิจกรรมในชีวิตประจำวัน การมีความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการปฐมพยาบาลจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยบรรเทาความรุนแรงของอาการ ก่อนที่ทีมแพทย์ หรือหน่วยกู้ชีพจะเข้าช่วยเหลือ

สิ่งที่ต้องทำทันทีเมื่อพบอุบัติเหตุ

เมื่อพบอุบัติเหตุ หรือสถานการณ์ฉุกเฉิน เช่น มีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุบนท้องถนน การเข้าช่วยเหลืออย่างรวดเร็วเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งควรปฏิบัติดังนี้

  • สำรวจความปลอดภัยของผู้ช่วยเหลือเองเป็นอันดับแรก ก่อนที่จะเข้าไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน เช่น การจอดรถในที่ปลอดภัย การเปิดสัญญาณไฟฉุกเฉิน กวาดตามองอย่างรวดเร็วว่าในบริเวณที่เกิดเหตุมีความเสี่ยงอื่นใด หรือไม่ เช่น ยังมีรถสัญจรผ่านไปมา มีน้ำมันรั่ว ไฟฟ้ารั่ว หรือมีเปลวไฟ หรือไม่
  • สำรวจผู้บาดเจ็บแต่ละคนว่าอาการรุนแรงเพียงใด หากพบว่าไม่สามารถช่วยเหลือได้อย่างเต็มที่ หรือยังอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ปลอดภัย ให้รีบโทรแจ้งศูนย์แพทย์ฉุกเฉินเพื่อขอความช่วยเหลือ โทร.1669 หรือ รพ.ในพื้นที่ทันที เช่น รพ.พญาไท พหลโยธิน โทร.1772 
  • หลังโทรขอความช่วยเหลือจาก 1669 แล้ว สามารถขอคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ เพื่อให้คำอธิบาย และความช่วยเหลือเบื้องต้นโดยไม่ต้องวางสาย
  • ควรแจ้งข้อมูลเบื้องต้นให้ครบถ้วนทั้งตำแหน่งที่เกิดเหตุ บอกจุดสังเกตหรือพิกัด จำนวนผู้บาดเจ็บ ลักษณะอาการ และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อให้เจ้าหน้าที่ส่งทีมช่วยเหลือได้อย่างเหมาะสม

...

วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นในที่เกิดเหตุ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุ

ก่อนที่ทีมแพทย์หรือเจ้าหน้าที่กู้ภัยจะมาถึง สามารถให้การปฐมพยาบาลโดยพิจารณาจากลักษณะและความรุนแรงของอาการ เช่น

  • กรณีบาดเจ็บไม่รุนแรง เช่น แผลถลอก หรือมีบาดแผลเล็กน้อย ควรล้างแผลด้วยน้ำสะอาด ซับแห้งด้วยผ้าที่สะอาด แล้วปิดแผลด้วยผ้าก๊อซ หรือพลาสเตอร์เพื่อลดความเสี่ยงการติดเชื้อ
  • กรณีบาดเจ็บรุนแรง เช่น มีเลือดออกมาก ให้ใช้ผ้าสะอาดกดแผลเพื่อห้ามเลือด โดยต้องกดแรงพอสมควรเพื่อหยุดเลือด และจัดให้ผู้บาดเจ็บอยู่ในท่าที่ปลอดภัยจนกว่าความช่วยเหลือจากทีมแพทย์จะมาถึง หากสงสัยว่ามีกระดูกหักหรือมีการบาดเจ็บที่กระดูกสันหลัง ควรหลีกเลี่ยงการเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บ

การห้ามเลือดในกรณีผู้บาดเจ็บนอน ไม่รู้สึกตัว หรือไม่ตอบสนอง

การห้ามเลือดในกรณีที่เลือดออกมากควรทำอย่างรวดเร็ว เพื่อช่วยลดการสูญเสียเลือดและป้องกันภาวะช็อก โดยมีขั้นตอน ดังนี้

การห้ามเลือด ไม่ควรสัมผัสเลือด หรือสารคัดหลั่งของผู้บาดเจ็บโดยตรง หากเป็นไปได้ควรสวมถุงมือยางหรือหุ้มถือด้วยถุงพลาสติก แล้วใช้ผ้าสะอาดหรือผ้าพันแผลกดแผลให้แน่นอย่างน้อย 5-10 นาที เพื่อหยุดเลือด หากเลือดยังคงซึมผ่านผ้าไม่ควรนำผ้าออก แต่ให้เพิ่มผ้าพันทับด้านบนซ้อนอีกชั้น หลีกเลี่ยงการเปิดดูบาดแผลบ่อยเกินไปเพื่อเช็กว่าเลือดหยุดหรือยัง เพราะจะรบกวนกระบวนการแข็งตัวของเลือด หากเป็นแผลที่แขนหรือขา ควรยกบาดแผลให้สูงกว่าระดับหัวใจเพื่อลดการไหลเวียนของเลือด ทั้งนี้ การใช้น้ำแข็งเพื่อการหยุดเลือดไม่ควรให้สัมผัสบาดแผลโดยตรง เพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บเพิ่ม

  • หลังเลือดหยุดไหล ให้พันแผลด้วยผ้ายืดให้แน่นพอ เพื่อป้องกันไม่ให้เลือดไหลออกมาอีก
  • กรณีที่มีวัตถุแปลกปลอมฝังในแผล ควรให้แพทย์เป็นผู้นำออกเพื่อหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บเพิ่มเติมและการเสียเลือดมากขึ้น
  • ไม่ควรให้ผู้บาดเจ็บที่มีภาวะเสียเลือดมากกินอาหารหรือดื่มน้ำ เพราะอาจเกิดอันตรายได้
  • การห้ามเลือดอาจมีผลต่อระยะเวลารอคอย หากจำเป็นต้องเข้าห้องผ่าตัด

...

การปฐมพยาบาลผู้หมดสติ แต่ยังหายใจ

การปฐมพยาบาลผู้หมดสติแต่ยังหายใจ หากไม่มีข้อสงสัยเรื่องการบาดเจ็บที่คอหรือหลัง สามารถทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

  • โทรแจ้งหน่วยแพทย์ฉุกเฉินโดยเร็วที่สุด
  • ไม่เคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บโดยไม่จำเป็น เว้นแต่เพื่อความปลอดภัยจากสภาพแวดล้อมที่เป็นอันตราย
  • สังเกตอาการอย่างใกล้ชิด ทั้งการหายใจ สีหน้า และระดับความรู้สึกตัวของผู้หมดสติอย่างต่อเนื่อง จนกว่าทีมแพทย์ฉุกเฉินจะมาถึง และรีบให้ข้อมูลทั้งหมดที่คุณ
  • หากพบว่าหยุดหายใจ ให้เรียกขอความช่วยเหลือจากบุคคลในละแวกใกล้เคียง โดยให้นำเครื่อง AED มาด้วย ควรเริ่มทำ CPR ทันทีด้วยกดหน้าอกด้วยจังหวะสม่ำเสมอ 100-120 ครั้งต่อนาที จนกว่าทีมแพทย์จะมาถึง
  • ไม่ป้อนน้ำ หรืออาหารให้ผู้หมดสติเพราะอาจสำลักได้
  • หากผู้หมดสติมีอาการชักเกร็ง ห้ามพยายามจับยึด หรือใส่สิ่งของเข้าปากโดยเด็ดขาด ให้ดูแลไม่ให้ศีรษะกระแทกกับพื้นหรือรอบข้าง และรอจนกว่าอาการชักจะหยุดเอง

กระดูกหัก หรือข้อเคลื่อนต้องปฐมพยาบาลอย่างไร?

  • การปฐมพยาบาลผู้บาดเจ็บที่มีอาการกระดูกหักหรือข้อเคลื่อน มีข้อปฏิบัติดังนี้
  • ห้ามพยายามดึงข้อหรือจัดกระดูกให้เข้าที่ด้วยตนเอง เพราะอาจทำให้การบาดเจ็บรุนแรงขึ้น
  • หากจำเป็นต้องถอดเสื้อผ้าบริเวณที่ได้รับบาดเจ็บ ควรตัดเสื้อผ้าตามตะเข็บเพื่อหลีกเลี่ยงการขยับข้อหรือกระดูก
  • ใช้การประคบเย็นโดยใช้ผ้าหรือถุงน้ำแข็งเพื่อลดการบวมและบรรเทาอาการปวด แต่ไม่วางน้ำแข็งโดยตรงลงบนผิวหนัง
  • ควรใช้ผ้าหรือวัสดุที่สามารถหาได้ในขณะนั้นผูกพยุงข้อหรือกระดูกที่บาดเจ็บให้อยู่ในท่าที่มั่นคงและไม่เคลื่อนไหว
  • การยกขาที่บาดเจ็บให้สูงจะช่วยลดอาการบวมได้
  • สังเกตอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น อาการชา หรือการสูญเสียการเคลื่อนไหวของส่วนปลาย
  • อาจเป็นอาการบาดเจ็บของระบบประสาท มีการกดทับเส้นประสาท หรือภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ที่ต้องการการรักษาอย่างเร่งด่วน เพื่อแจ้งข้อมูลแก่ทีมแพทย์ และไม่ควรย้ายผู้บาดเจ็บโดยไม่จำเป็น เพราะการเคลื่อนย้ายที่ไม่ถูกต้อง อาจทำให้อาการแย่ลง เช่น กระดูกหักเพิ่ม เส้นประสาทหรือหลอดเลือดได้รับความเสียหาย
  • ไม่ป้อนน้ำหรืออาหาร เนื่องจากอาจต้องเข้ารับการรักษาด้วยการผ่าตัด หรือดมยาสลบ ซึ่งเสี่ยงต่อการสำลักขณะรักษา
  • หากไม่มั่นใจ หรือไม่สามารถประเมินเรื่องการบาดเจ็บที่กระดูกต้นคอ หรือกระดูกสันหลัง ไม่ควรขยับตัว พลิกตะแคงตัว หรือเคลื่อนย้ายผู้ป่วยโดยไม่จำเป็น เพราะอาจเกิดการกดทับเส้นประสาท ทำให้พิการได้

...

การปฐมพยาบาลเมื่อศีรษะกระแทกจากอุบัติเหตุ ในกรณีที่ผู้บาดเจ็บนั่ง ลุกเดิน หรือสื่อสารได้

การปฐมพยาบาลที่ถูกต้องสามารถแบ่งได้เป็นกรณีที่มีแผลเปิดและกรณีที่ไม่มีแผลเปิด ดังนี้

  • กรณีที่มีแผลเปิดที่หนังศีรษะ ให้ใช้ผ้าสะอาดกดเบา ๆ บริเวณแผลเพื่อห้ามเลือด แต่หากสงสัยว่ามีกะโหลกแตกห้ามกดแผลโดยตรง ควรใช้ผ้าสะอาดคลุมแผลแทน และประคบเย็นโดยใช้ผ้าห่อน้ำแข็งหรือถุงเจลเย็นประคบบริเวณที่กระแทกเพื่อบรรเทาอาการบวม ควรประคบครั้งละ 10-15 นาที ทุกชั่วโมง
  • ในกรณีที่ผู้บาดเจ็บ กระดูกคอหรือกะโหลกแตก ห้ามขยับศีรษะหรือคอ ควรรอการช่วยเหลือจากทีมแพทย์
  • กรณีพบอาการผิดปกติ เช่น แขนขาอ่อนแรง มีเลือดหรือน้ำไหลจากหูหรือจมูก ควรแจ้งรถพยาบาลทันที และห้ามให้ผู้บาดเจ็บดื่มน้ำหรือกินยาเองจนกว่าแพทย์จะให้คำแนะนำ

กรณีที่ไม่มีแผลเปิดที่หนังศีรษะ

  • หากผู้บาดเจ็บยังรู้สึกตัวให้สอบถามผู้บาดเจ็บว่าเวียนศีรษะ ปวดศีรษะ หรือคลื่นไส้หรือไม่ หากไม่มีอาการอะไรมากให้ผู้บาดเจ็บนอนในที่ที่ปลอดภัยก่อน
  • สังเกตการเปลี่ยนแปลง หากอาการไม่ดีขึ้น หรือเริ่มมีอาการผิดปกติ เช่น ปวดศีรษะมากขึ้น อาเจียนพุ่ง ง่วงซึม สับสน หรือชัก ให้รีบไปพบแพทย์หรือเรียกรถพยาบาลทันที

...

หากคุณหรือคนใกล้ตัวประสบอุบัติเหตุ หรือไม่มั่นใจในการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ควรรีบติดต่อศูนย์ช่วยเหลือฉุกเฉิน หรือสายด่วนโรงพยาบาลพญาไท พหลโยธิน โทร. 1772 โดยเร็วที่สุด เรามีทีมแพทย์ฉุกเฉินและบุคลากรทางการแพทย์ที่พร้อมดูแลผู้ประสบอุบัติเหตุในทุกกรณี ด้วยความเชี่ยวชาญและใส่ใจ พร้อมอุปกรณ์และเทคโนโลยีการรักษาที่ทันสมัย รวมถึงระบบการแจ้งเหตุฉุกเฉินที่เข้าถึงได้รวดเร็ว เพื่อให้คุณและคนที่คุณรักได้รับการรักษาอย่างรวดเร็ว เพราะทุกวินาทีคือโอกาสในการรักษาชีวิต เราจึงพร้อมเคียงข้างคุณในทุกสถานการณ์ฉุกเฉิน

ข้อมูลโดย : พญ. ชิตินทร บุญสุขจิตเสรี แพทย์เวชศาสตร์ฉุกเฉิน ศูนย์อุบัติเหตุและฉุกเฉิน โรงพยาบาลพญาไท พหลโยธิน