หลายครั้งที่เรามักได้ยินข่าวการจากไปของคนดังด้วยการหลับไปเฉยๆ หรือที่เรียกกันว่า “โรคใหลตาย” ที่มักพบได้บ่อยในวัยทำงาน โดยเฉพาะชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีสาเหตุจากอะไร และเราสามารถป้องกันได้หรือไม่
โรคใหลตาย คืออะไร
โรคใหลตายคือการเสียชีวิตขณะนอนหลับ ในภาษาอังกฤษเรียกว่า Sudden unexplained nocturnal death syndrome (SUNDS) โรคนี้มีชื่อจำเพาะแตกต่างกันไปในแต่ละท้องถิ่น ในประเทศไทยเรียกว่า “ใหลตาย” ในญี่ปุ่นเรียก “Pokkuri Death Syndrome” (PDS) ส่วนฟิลิปปินส์ให้ชื่อว่า “Bangungut”
โรคใหลตายเป็นโรคทางกรรมพันธุ์ที่เกิดขึ้นจากความผิดปกติของเซลล์หัวใจ ทำให้คลื่นไฟฟ้าหัวใจที่ทำงานผิดปกติ ส่งผลต่อเนื่องให้เกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะแบบสั่นพลิ้วขั้นรุนแรง ทำให้หมดสติ และเสียชีวิตในเวลาอันรวดเร็ว
ผู้ที่เป็นโรคใหลตายมีอาการแตกต่างกัน หรือบางรายอาจไม่มีอาการอะไรเลยก็ได้ ส่วนใหญ่แล้วผู้ป่วยโรคใหลตายมักเสียชีวิตฉับพลันขณะหลับโดยไม่ทราบว่ามีอาการผิดปกติมาก่อน แต่ในบางรายอาจมีอาการนำมาก่อน เช่น
- หัวใจเต้นผิดจังหวะ อาจรู้สึกใจสั่น หายใจไม่อิ่ม
- อาการชักเกร็ง หายใจติดขัดขณะนอนหลับ
- เป็นลม หมดสติระหว่างนอน
- หายใจเสียงดังหรือมีเสียงเฮือกขึ้นมาเหมือนหิวอากาศ
- ปัสสาวะและอุจจาระราด
- ใบหน้าและริมฝีปากเขียวคล้ำ
หากพบอาการดังกล่าว ควรรีบนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด เพราะถึงแม้โรคใหลตายยังไม่ได้มีวิธีรักษาที่ต้นตอ แต่การแพทย์ก็มุ่งเป้ารักษาผู้ที่มีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะแทน เช่น ฝังเครื่องกระตุกไฟฟ้าหัวใจ การจี้ไฟฟ้า หรือการใช้ยา โดยขึ้นอยู่กับแพทย์พิจารณา
ปัจจัยเสี่ยงที่ควรเลี่ยง
...
ปัจจัยส่งเสริมทำให้ผู้ป่วยมีพันธุกรรมโรคใหลตายเกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะขั้นรุนแรงและอาจทำให้เสียชีวิตประกอบด้วย
- การเป็นไข้สูง
- การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
- การใช้ยานอนหลับ
- การขาดแร่ธาตุโพแทสเซียม
โรคใหลตาย ป้องกันได้ไหม
หากรู้ตัวว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงดังกล่าว ควรลดและเลี่ยงปัจจัยส่งเสริมที่กล่าวมาด้านบน เช่น ถ้ามีไข้สูง ควรใช้ยาลดไข้ ลดและเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เป็นต้น รวมถึงการฝังเครื่องกระตุกหัวใจเข้าไปในร่างกาย
ขณะเดียวกัน ผู้ที่ไม่มีประวัติทางพันธุกรรมก็ควรตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (Electrocardiogram – ECG) เป็นประจำทุกปี เนื่องจากคนไข้ที่เป็นโรคใหลตายจะมีความเสี่ยงเกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะรุนแรงจนทำให้เสียชีวิตจากโรคใหลตาย ซึ่งเป็นการวินิจฉัยโรคใหลตายที่ช่วยป้องกันก่อนเกิดเหตุได้
ทั้งนี้ ภาวะใหลตายพบได้ในคนทั่วโลก แต่พบบ่อยในเอเชีย โดยเฉพาะเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งไทย พม่า ลาว ฟิลิปปินส์ โดยเฉพาะในคนวัยทำงานอายุ 30-50 ปี และพบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง มีอัตราการเกิดโรคใหลตาย 1 ใน 1,000 คน ในขณะที่ประเทศอื่นๆ อัตราการเกิดโรคอยู่ที่ 1 ใน 2,000 คน โดยในประเทศไทยมักพบการใหลตายในภาคเหนือและภาคอีสาน แต่พบน้อยในภาคใต้
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันยังอยู่ในขั้นตอนการศึกษาวิจัยเพื่อหาสาเหตุว่าเพราะอะไรชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จึงมีความเสี่ยงจากการเป็นโรคใหลตายมากกว่าชนชาติอื่นๆ
ที่มา: คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, โรงพยาบาลวิมุต, คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี